การ์ด นปช. จับ 3 ต่างด้าวมั่วชุมนุมส่งตำรวจ

การ์ด นปช. จับ 3 ต่างด้าวมั่วชุมนุมส่งตำรวจ

การ์ด นปช. จับ 3 ต่างด้าวมั่วชุมนุมส่งตำรวจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กลุ่มเสื้อแดงชุมนุมใหญ่ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย "ทักษิณ" จี้ทวงคืนรัฐธรรมนูญปี 40 ลั่นพร้อมสั่งเสื้อแดงหยุดถ้าคืนความเป็นธรรมให้ ขณะที่"การ์ด นปช." จับ 3 ต่างด้าวมั่วชุมนุมส่งตำรวจ

(10ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยของกลุ่มเสื้อแดง โดยผู้ชุมนุมส่วนใหญ่สวมใส่เสื้อสีแดง ขณะที่เวทีปราศรัยตั้งที่ฐานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หันหน้าไปทางสี่แยกคอกวัว พร้อมนำจอโปรเจกเตอร์มาติดตั้งโดยรอบ เจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังพร้อมรั้วเหล็กมากั้น ดูแลความปลอดภัยโดยรอบพื้นที่ชุมนุม

ต่อมาเวลา 19.10 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร วิดีโอลิงก์เข้ามายังเวทีเสื้อแดง ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เนื่องในโอกาสวันรัฐธรรมนูญ 10 ธันวาคม ว่า เมื่อ 77 ปีที่แล้ว อำนาจสูงสุดของประเทศเป็นของราษฎรทั้งหลาย แต่วันนี้อำนาจสูงสุดไม่ได้อยู่ที่ราษฎรแล้ว วันนี้ประเทศไทยประชาธิปไตยไม่ต้องพูดถึง อยู่ในสภาพอ่อนเปลี้ยเสียขา การเมืองไม่มั่นคงเพราะทหารอุ้มพรรคประชาธิปัตย์ มีการบอยคอยการเลือกตั้ง ไม่ปฏิบัติตามกติกา ทำให้เกิดประชาธิปไตยที่ไม่มั่นคง เปราะบางและอ่อนแออย่างรุนแรง เต็มไปด้วยคอรัปชั่น การทุจริตรุนแรง เพราะองค์กรอิสระทำหน้าที่ 2 มาตรฐาน ไม่ทำหน้าที่ที่ตัวเองควรจะทำ ถ้าทุกฝ่ายทำหน้าที่ตัวเอง พรรคการเมืองลงเลือกตั้ง ทหารถึงเวลารบก็ไปรบ ไม่ต้องมายุ่งการเมือง ไม่ส่งทหารไปช่วยยึดสนามบิน พันธมิตรทำผิดต้องถูกดำเนินคดี แต่ทุกอย่างกลับกัน แล้วบ้านเมืองจะอยู่อย่างไร วันนี้มีการใช้อำนาจมากมาย ใช้อำนาจตามสั่ง แต่ไม่ได้ใช้อำนาจตามกติกา

"บ้านเมืองวุ่นวาย ถ้าไม่เลิก 2 มาตรฐาน และไม่เลิกก่อกวน คนอื่นทำผิดไม่ลงโทษ บางคนยังไม่ทำอะไร ก็ถูกประณามก่อนแล้วว่าเป็นคนเลว สื่อมวลชนไม่ทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง เพราะเจองบโฆษณาเข้าไป จิตวิญญาณที่จะทำหน้าที่ของตัวเองหายไป ความเป็นธรรม จริยธรรม การดำรงกฎหมายมันหายไป วันนี้ถ้าจะเชิดหน้าพูดอย่างไรแต่ปฏิบัติอีกอย่าง สังคมรู้หมด สื่อหลักอาจเป๋ไป แต่สื่อทางเลือกทำให้สังคมรู้ วันนี้พี่น้องมารวมกันเพื่อทวงรัฐธรรมนูญ 40 คืนมา เพราะเป็นรัฐธรรมนูญที่คนไทยมีความสุขที่สุด แต่กลุ่มเสียประโยชน์ไม่พอใจ ทหารซื่อบื้อมาฉีกรัฐธรรมนูญ 40 ไป ยัดเยียดรัฐธรรมนูญปี 50 ที่มีความวุ่นวายที่สุด ทำงานยากที่สุด " พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ราษฎรของเราถูกปกครองโดยคนกลุ่มน้อย ไม่ได้ถูกปกครองตามกติกาประชาธิปไตย ไม่ได้เป็นของปวงชนเพื่อปวงชนโดยปวงชน ฉะนั้นวันนี้เราต้องย้อนกลับไปถึงเจตนารมณ์ของธรรมนูญการปกครองปี 2475 มาตรา 1 ที่บอกอำนาจสูงสุดเป็นของราษฎรทั้งหลาย คนไม่กี่คนฟังคำสั่งคนคนเดียว ล้มล้างประชาธิปไตยควรพอได้แล้ว ถ้าไม่พอเท่ากับต้มประชาชน

"การออกมาไล่บี้ผมคนเดียว สำหรับผมเรื่องเล็ก ผมชิน เอาประชาธิปไตยคืนให้ประชาชนดีกว่า เอาความเป็นธรรมคืนสังคม เอาความมั่นคงคืนประชาชน ศักดิ์ศรีคืนให้ประเทศชาติ เพราะวันนี้ไม่เหลือแล้ว ถ้ากลัวผม ก็ไม่ต้องทำขนาดนี้ แม้ผมจะเร่ร่อนต่างประเทศ ผมอยากฟังภาษาไทยได้ชัด พูดได้ชัด ไม่ใช่ฟังทางโทรศัพท์ ขอรัฐธรรมนูญฉบับดีๆ กลับคืนสู่คนไทย อยากให้สำนึกว่าประเทศช้ำมากแล้ว พอได้แล้วหรือยัง การเมืองทุกข์มากแล้ว พอได้หรือยัง ไม่ต้องไล่บี้ผมมาก ผมเป็นคนพูดรู้เรื่อง" พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว

พ.ต.ท.ทักษิณบอกอีกว่า ถ้าจะให้ตนหยุด หรือพูดกับเสื้อแดง ต้องถามว่า ถ้าปล้นเขา เอาทรัพย์เขาไป แล้วบอกเขาอยู่นิ่งๆ นั่นไม่ถูกต้อง แต่ถ้าคืนความเป็นธรรมให้ประชาชนก็สามารถมาคุยกับตนได้ทุกเรื่อง พร้อมทั้งท้าให้รัฐบาลยุบสภาเลือกตั้ง เพราะถ้าเสื้อแดงชนะจะได้แก้รัฐธรรมนูญเอาของปี 40 กลับคืนมา เพื่อให้อำนาจเป็นของราษฎรเสียที

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า อำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหารและอำนาจตุลาการ ต้องถ่วงดุลอย่างเหมาะสม ยึดโยงอำนาจสูงสุดของประเทศคือราษฎรทั้งหลาย พอได้แล้วกับอำนาจนอกระบบ การอภิปรายไม่ไว้วางใจเที่ยวนี้คงมีของสนุกให้ดูกันเยอะ ขณะเดียวกันยืนยันว่าไม่ได้อยากกลับมาเป็นนายกฯ แต่อยากกลับมาทำงานรับใช้ประชาชน

หลังจากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณได้นำจุดเทียนชัยและกล่าวคำถวายพระพร ร่วมร้องเพลงสดุดีมหาราชา เพลงสรรเสริญพระบารมี ก่อนจะจบการวิดีโอลิงก์

ก่อนหน้านั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการชุมนุมครั้งนี้การ์ดเสื้อแดงตั้งด่านตรวจบัตรประชาชนหรือบัตรสมาชิก นปช. ผู้ที่เข้าร่วมชุมนุม เพื่อตรวจสอบว่าเป็นคนต่างด้าวหรือไม่ เมื่อตรวจบัตรผ่านแล้วก็จะให้ผู้ชุมนุมเช็ดเท้ากับป้ายหาเสียง ที่มีภาพใบหน้าของคนในรัฐบาล อาทิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายสกลธี ภัททิยกุล นายบุญยอด สุขถิ่นไทย 2 ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลา 13.50 น.วันเดียวกัน การ์ด นปช.ได้คุมชายฉกรรจ์ 3 คนที่พกบัตรคนต่างด้าว เป็นชาวกัมพูชา 2 คน และพม่า 1 คน โดยคุมตัวทั้ง 3 คน ส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ สอบสวน

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำเสื้อแดง กล่าวว่า ชายต่างด้าว 3 คนที่จะเข้ามาในพื้นที่ชุมนุมและส่งให้ตำรวจสอบปากคำและตรวจสอบนั้น 2คนเป็นชาวพม่าชื่อนายซันโต๊ส จอมลาไกลและนายราชา บระตาไร ส่วนอีกคนเป็นชาวกัมพูชาชื่อนายเพียเรีย เปา หลังจากนี้จะประ สานงานกับตำรวจที่กำลังสอบปากคำว่า มีเจตนาอะไรหรือมีเบื้องหลังอย่างไรหรือไม่ หากสอบแล้วพบว่ามีเบื้องหน้าเบื้องหลัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ต้องรับผิดชอบ ดังนั้นขณะนี้หากใครที่เตรียมจัดคนต่างด้าว เพื่อเข้ามาป่วนการชุมนุม ขอให้เรียกตัวกลับทันที

ด้านนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า เท่าที่ได้รับรายงานพบว่ามีผู้ชุมนุมราว 7,000 คน โดยเป็นเครือข่ายที่จัดตั้งมาเป็นขาประจำ แต่การชุมนุมไม่สมควร เพราะอยู่ในช่วงคนไทยเฉลิมฉลอง เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการชุมนุม แต่เรื่องนี้ถือเป็นสิทธิ ก็ห้ามไม่ได้

นายบุญจงกล่าวถึงกรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง ปราศรัยบนเวทีว่า นายเนวิน ชิดชอบ ขนคนบุรีรัมย์แฝงตัวสวมเสื้อแดง และเหล็กแป๊บมาชุมนุมว่า เป็นการพูดเท็จทั้งสิ้น และให้ร้ายคนอื่น เพราะการจัดงานเฉลิมพระเกียรติที่ลานพระบรมรูปทรงม้านั้น แต่ละจังหวัดจะมาชมการแสดงด้วย วันที่ 10 ธันวาคม เป็นคิวของ จ.บุรีรัมย์พอดี และจังหวัดอื่นก็มาร่วมงานด้วย และไม่มีการถือเหล็กแป๊บมา แต่มาด้วยความจงรักภักดี

รายงานข่าวจากกระทรวงมหาดไทยแจ้งว่า วอร์รูมติดตามสถานการณ์ได้สรุปผลการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ณ เวลา 18.00 น. ว่า มีผู้เข้าร่วมชุมนุมประมาณ 8,000 คน ส่วนใหญ่มาจากภาคเหนือและภาคอีสาน เช่น เชียงใหม่ ขอนแก่น อุบลราชธานี เป็นต้น ส่วนความเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงตามต่างจังหวัดนั้น พบว่า ที่ จ.แพร่ กลุ่ม นปช. 20 คน นำโดยนายสมยศ เหลืองสมบูรณ์ จ.อุบลราชธานี กลุ่มคนรักทักษิณอุบลฯ นำโดยนายประยุทธ มูลสาร หรือ ดีเจหนึ่งนิรนาม จ.ขอนแก่น กลุ่มคนเสื้อแดงชุมแพ 51 นำโดยนายวีระศักดิ์ แสนกลาง

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook