เซียนพระมหาสารคามเผยพระนาดูนราคาสูงลิ่ว

เซียนพระมหาสารคามเผยพระนาดูนราคาสูงลิ่ว

เซียนพระมหาสารคามเผยพระนาดูนราคาสูงลิ่ว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เซียนพระเมืองมหาสารคามเผย พระกรุพระธาตุนาดูนราคาสูง พุ่งหลักแสนหลังได้รับความนิยมมาก เชื่อพระที่หาย มีทั้งแท้และปลอม เหตุบางรุ่นหาไม่ได้แล้ว ผอ.สำนักศิลปากรที่ 12 โคราชสั่งคุมเข้มพิพิธภัณฑ์ในพื้นที่ 4 จังหวัดอีสานใต้ หวั่นถูกขโมยอีก

จากกรณีพระถูกโจรกรรมที่พิพิธภัณฑ์จังหวัดขอนแก่น นายจำรูญ วิเศษยิ่ง ประธานชมรมพระเครื่องเมืองมหาสารคาม กล่าวว่า ในขณะนี้พระกรุนาดูน กำลังเป็นที่ต้องการของนักเล่นพระทั้งหลาย ซึ่งแต่ก่อนราคาไม่สูงมากนักองค์ละหลักหมื่นต้นๆ แต่ปัจจุบันพระกรุนาดูนหายากมาก เพราะพระนาดูนตกไปอยู่ในมือของผู้ใหญ่ ทำให้ในปัจจุบันราคาพระสูงขึ้นถึงหลักแสนบาท ถ้าองค์สวยๆพิมพ์หายาก ราคาก็ประมาณ 3 แสนบาท สำหรับพระที่มีให้เห็นในวงการเซียนพระ มักไม่ค่อยสมบูรณ์ หักบ้าง แต่เซียนก็จะนำไปซ่อมให้จนสมบูรณ์ เพื่อให้เช่าต่อในราคาที่สูง

ส่วนพระนาดูนของเซียนในจังหวัดมหาสารคามที่เก็บไว้ที่บ้านก็เคยถูกโจรกรรมไป เวลาผ่านไปสักระยะพระที่หายไปก็มีผู้พบเห็นในท้องตลาด ฉะนั้นพระกรุนาดูนที่ถูกโจรกรรมไปจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขอนแก่นนั้น เชื่อว่าผู้ที่เข้าไปโจรกรรมต้องมีความชำนาญเรื่องพระเป็นอย่างดี และเชื่อว่าขณะนี้พระยังถูกเก็บไว้อย่างดี พอเรื่องเงียบจะต้องมีผู้นำออกมาให้เห็นในวงการพระแน่นอน สำหรับพระที่หายไป 55 องค์นั้น เชื่อว่าจะมีพระแท้บ้างและมีพระไม่แท้บ้าง เพราะพระบางพิมพ์ พิพิธภัณฑ์หาไม่ได้ จึงจำเป็นต้องทำเลียนแบบองค์จริงเพื่อไว้ศึกษาค้นคว้าต่อไป

สั่งคุมเข้มพิพิธภัณฑ์4จังหวัดอีสานใต้

นายศักดิ์ชัย พจน์นันท์วาณิชย์ ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปากรที่ 12 นครราชสีมา เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานศิลปากรที่ 12 นครราชสีมาได้สั่งการไปยังพิพิธภัณฑ์ทุกแห่งในพื้นที่รับผิดชอบ 4 จังหวัดอีสานตอนล่าง ประกอบด้วย นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ ให้พิพิธภัณฑ์ทุกแห่งตรวจสอบระบบรักษาความปลอดภัย กล้องวงจรปิด และกำชับให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตรวจตราโดยรอบพิพิธภัณฑ์เข้มงวดยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันโบราณวัตถุและสมบัติล้ำค่าถูกคนร้ายโจรกรรม

โดยเฉพาะพิพิธภัณฑ์แห่งชาติพิมาย อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นที่เก็บรักษาโบราณวัตถุกว่า 7,900 ชิ้น อายุตั้งแต่ก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งชิ้นที่สำคัญที่สุดคือ ประติมากรรมรูปแกะสลักพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 อายุกว่า 1 พันปี ทำด้วยหินทราย ซึ่งเป็นประติมากรรม 1 ใน 2 ชิ้นในโลก โดยอีกชิ้นเก็บรักษาอยู่ที่พิพิธภัณฑ์กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ซึ่งเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติพิมายได้ทำการตรวจสอบคุณภาพของระบบกล้องวงจรปิดจำนวน 8 ตัวพบว่าอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ พร้อมกันนี้ทางพิพิธภัณฑ์สั่งการให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเดินตรวจเวรยามอย่างเข้มงวด โดยในช่วงกลางวันจะมีเจ้าหน้าที่ของพิพิธภัณฑ์ยืนประจำทั่วพิพิธภัณฑ์รวม 6 จุด ส่วนช่วงกลางคืนจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเดินตรวจตราทั้งภายในและภายนอกพิพิธภัณฑ์ทุกๆ 30 นาที

ผวจ.กาฬสินธุ์สั่งคุมเข้มวัตถุโบราณ

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 11 ธ.ค. 52 ที่วัดโพธิ์ชัยเสมาราม ต.หนองแปน อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ลงพื้นที่เมืองโบราณฟ้าแดดสงยาง เพื่อตรวจสอบวัตถุโบราณที่เหลือในพิพิธภัณฑ์เมืองฟ้าแดดสงยาง ที่ตั้งอยู่ภายในวัด หลังจากที่มีการโจรกรรมวัตถุโบราณพันปี 91 รายการไปจากพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ จ.ขอนแก่น ซึ่งหนึ่งในทรัพย์สินที่ถูกโจรกรรมไปนั้นมีพระสัมฤทธิ์ เมืองฟ้าแดดสงยางหายไปด้วย โดยมีพระอธิการสานิตย์ วราโภ เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัยเสมาราม และชาวบ้านได้ร่วมให้ข้อมูล

นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า มรดกของคนกาฬสินธุ์ที่ถูกโจรกรรมไปคือพระสัมฤทธิ์ ที่ถูกค้นพบเมื่อปี พ.ศ. 2522 ที่บริเวณคูเมืองฟ้าแดดสงยาง ที่ปัจจุบันคือ ต.หนองแปน อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ โยพระสัมฤทธิ์ที่ถูกโจรกรรมไปนั้นมีความงดงามมาก เป็นพระที่บ่งบอกได้ว่าในพื้นที่แห่งนี้พระพุทธศาสนา นิกายมหาหินยาน มีความเจริญมากเพียงใด ที่พบจากพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ พระพิมพ์ดินเผา ใบเสมา และพระธาตุยาคู ซึ่งทั้งหมดมีอายุกว่า 1,300 ปี สิ่งที่ต้องดำเนินการคือการเฝ้าระวังการขโมยวัตถุโบราณออกจากพื้นที่ไป เพราะตอนนี้สิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงจำหลัก ใบเสมาที่จำหลักเล่าเรื่องพุทธชาดก โดยเป็นฝีมือของกลุ่มช่างพื้นถิ่นที่มีความสวยงามมาก เพราะในอดีตใบเสมาที่มีความงดงามถึงแม้ขนาดใหญ่ยังถูกขโมยออกจากพื้นที่ไปเช่นกัน

ทั้งนี้ได้ขอความร่วมมือจากชาวบ้าน ได้ให้ความสำคัญและช่วยกันดูแลรักษาสมบัติและมรดกพวกนี้ไว้เพราะคุณค่าทางเงินทองวัดไม่ได้กับคุณค่าทางจิตใจ นอกจากนี้ยังได้ประสานไปยังปรานชมรมพระเครื่องจ.กาฬสินธุ์ ให้ช่วยตรวจดูการตลาดเช่าพระในพื้นที่เพราะหากพบว่ามีการเช่าพระหรือการแลกเปลี่ยนพระที่คาดว่าน่าจะเป็นสิ่งของที่หายไปต้องช่วยแจ้งมายังจังหวัดเพื่อเข้าทำการตรวจสอบ ส่วนในพื้นที่ได้กำชับให้อปท.และตำรวจได้กวดขันมากยิ่งขึ้น

นายลี คชคีรี อายุ 62 ปี ชาวบ้านต.หนองแปน กล่าวว่า พระที่ถูกค้นพบและนำไปเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ จ.ขอนแก่นนั้น ตนเองเป็นคนหนึ่งที่ได้เข้าไปรับจ้างในการขุดค้นร่วมกับกรมศิลปากร เมื่อขุดค้นพบแล้วก็ไม่กล้าเก็บไว้เป็นของตนเอง เพราะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่กลับรู้สึกเสียใจที่มันได้หายไปจากที่เก็บรักษา เราเองก็มองว่าตรงจุดนั้นจะเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีกว่าที่เราชาวบ้านจะทำได้ ถ้ารู้ว่ามันจะหายไปแบบนี้คงจะขอเก็บรักษาไว้ที่วัดดีกว่า แต่ก็อยากให้คนที่เอาไปมาเก็บรักษาไว้ที่เดิมไม่อยากให้มันหายไปจนดูแล้วเสียใจมาก ๆ

ด้านพระอธิการสานิตย์ วราโภ เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัยเสมาราม กล่าวว่า ตอนนี้สิ่งที่เหลืออยู่ในพื้นที่ก็มีใบเสมาที่มีความสวยงามทางประวัติศาสตร์และทางพระพุทธศาสนา ส่วนมรดกที่สูญหายไปตอนนี้นอกจากรู้สึกเสียดายอย่างมากแล้ว สิ่งหนึ่งที่อยากวิงวอนไปถึงผู้ก่อเหตุคืออยากให้เอากลับมาไว้ที่เดิม อยากให้คิดว่ามีเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่หาไม่ได้แล้วถ้าไปตกอยู่ในมือใครคนใดคนหนึ่งแล้วเอาเป็นทรัพย์สินของตนเองมันไม่ถูกต้อง เพราะทุกอย่างมันเป็นสมบัติของทุกคนในชาติ

ขณะเดียวกันเมื่อเวลา 14.30 น. ผู้ช่วยศาตราจารย์ ชัยชนะ แสงสว่าง อาจารย์จากภาควิชาการวางแผนภาคและเมือง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มิหาวิทยาลัย ได้นำคณะลงพื้นที่เมืองฟ้าแดดสงยาง ต.หนองแปน อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ เพื่อรับฟังความคิดเห็นปรึกษาหารือกับประชาชนครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการของจ.กาฬสินธุ์ที่ต้องการปรับปรุงพัฒนาและอนุรักษ์เพื่อเป็นจุดท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ของจ.กาฬสินธุ์ โดนมีการจัดขึ้นบริเวณลานเอนกประสงค์ เขตอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ศิลปกรรมจ.กาฬสินธุ์ ซึ่งมีประชาชนกว่า 300 คนร่วมรับฟังและนำเสนอความคิดเห็น

ขณะที่ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นและหารือปรึกษาประชาชนที่เข้าร่วมได้แสดงทัศนเกี่ยวกับมรดกทางวัฒนธรรมที่สูญหายไปจากพิพิธภัณฑ์แห่งชาติจ.กาฬสินธุ์ ซึ่งประชาชนมีความกังวลเนื่องจากเป็นสิ่งของศักดิ์สิทธิ์ อยากให้นำกลับเอาคืนมาให้ได้และนอกจากนั้นยังมีความต้องการที่จะนำมาเก็บรักษาไว้ที่จุดค้นพบและจุดกำเนินคือที่พระธาตุยาคู เมืองฟ้าแดดสงยางในอดีต หรือสถานที่ในปัจจุบันคือ ต.หนองแปน อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ นอกจากนี้ทางแกนนำชาวบ้านยังจะเตรียมพิธีศักดิ์สิทธิ์เพื่อทวงพระทั้งหมดกลับคืนมาตามความเชื่อ และความเคารพที่มีต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ผีบรรพบุรุษเมืองฟ้าแดดสงยาง โดยจะทำพิธีที่บริเวณพระธาตุยาคู ต.หนองแปน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์

ผศ.ชัยชนะ แสงสว่าง กล่าวว่า พระที่สูญหายไปนับเป็นพระที่มีความงดงามมาก มีคณะค่าทางประวัติศาสตร์สูงสุด โดยเฉพาะพระพิมพ์ดินเผา และพระสัมฤทธิ์ฟ้าแดดสงยาง เพราะมีความสมบูรณ์ถือเป็นแหล่งกำเนิดของพระในประเทศไทยและแถบภาคอีสาน เนื่องจากการรับต่ออารยธรรมด้านความเชื่อในการนับถือพระเถร พระผู้ใหญ่

ในช่วงของการลงพื้นที่หลายสิบปีได้พบเห็นพระพิมพ์เหล่านั้นจำนวนมาก ซึ่งมีความงดงามมาก ไม่ว่าจะเป็นพระปางมารวิชัย ปางสมาธิ โดยเฉพาะพิมพ์พระเมืองฟ้าแดด นับเป็นวัตถุโบราณชิ้นเอกที่หาไม่ได้แล้วในโลกนี้ เพราะเป็นฝีมือที่งดงามมีความผสมผสานระหว่างฝีมือของช่างพื้นเมืองท้องถิ่นกับอิทธิพลที่ได้รับสืบเนื่องมาจากศิลปะสมัยทวาราวดี ที่มีอายุเก่าแก่นานกว่า 1,300 ปี โดยตั้งประเด็นไว้ในกลุ่มที่เอาไปคือ กลุ่มแรกน่าจะเป็นมือปืนรับจ้าง หรือแก๊งค์ขโมย และกลุ่มที่สองคือกลุ่มที่เป็นเอเย่นต์โดยตรง ส่วนเหตุผลที่เจาะจงให้เป็นพระจากพระธาตุนาดูนแลละเมืองฟ้าแดดนั้น เนื่องจากพระจากทั้งสองแห่งมีอายุไล่เลี่ยกันและถือเป็นต้นกำเนิดของพระพพุทธรูป พระพิมพ์ของไทย เพราะเป็นพระที่ได้รับอิทธิพลจากการก่อสร้างมาจากพระพุทธศาสนาในลัทธินิกายมหายาน

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook