ศิวรักษ์ ยันอยากกลับไปทำงานที่เขมร

ศิวรักษ์ ยันอยากกลับไปทำงานที่เขมร

ศิวรักษ์ ยันอยากกลับไปทำงานที่เขมร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วิศวกรไทย ศิว รักษ์ ชุติพงษ์ เผย ส่วนตัวอยากกลับไปทำงานกัมพูชาอีก ระบุ อยากพบ คำรบ เพื่อถามเจตนารมย์ให้นำตารางบิน ทักษิณ ไปให้ ด้าน ทักษิณ ทวิตซัด บัวแก้ว-คำรบ ใช้เด็กเป็นเครื่องมือ

(14ธ.ค.) นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทยให้สัมภาษณ์ที่ประเทศกัมพูชา ภายหลังนายฮุน เซน ทำพิธีการส่งตัวให้นางสิมารักษ์ ณ นครพนม ที่บ้านพักนายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ว่า ตนไม่คิดว่าการที่ถูกควบคุมตัวครั้งนี้เป็นการจัดฉาก เพื่อผลทางการเมือง เพราะตลอด 32 วันที่ถูกคุมขังตนนอนไม่หลับสักคืน เพราะคิดมากและกลัวจะติดคุกยาว นอกจากนี้ยังต้องการพบนายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เพื่อขอทราบเจตนารมย์ที่ให้ตนนำตารางการบินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มามอบให้

นายศิวรักษ์ กล่าวต่อว่า ตนซาบซึ่งที่สมเด็จนโรดม สีหมุณี ที่พระราชทานอภัยโทษให้ ซึ่งอนาคตตนยังไม่ได้ปรึกษาใครในครอบครัว แต่โดยส่วนตัวแล้วตนอยากจะกลับไปทำงานที่ประเทศกัมพูชาอีก

ด้านนางสิมารักษ์ ณ นครพนม มารดาของนายศิวรักษ์ กล่าวว่า อยากให้ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องทำให้ไทยและประเทศกัมพูชา กลับมามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ซึ่งนายฮุน เซน บอกว่า ท่านมีความสัมพันธ์ที่ดีกับประชาชนคนไทย แต่ท่านมีปัญหากับผู้บริหารบางคนเท่านั้น

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานในวันนี้ โดยอ้างเจ้าหน้าที่และผู้เห็นเหตุการณ์ว่า ในวันนี้ทางการกัมพูชาได้ปล่อยตัวนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทยวัย 31 ปี ผู้ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกศาลกัมพูชาตัดสินลงโทษจำคุก 7 ปีในข้อหาจารกรรมตารางการบินในระหว่างการเยือนกัมพูชาเมื่อเดือนที่แล้ว ของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ก่อนที่จะได้รับพระราชทานอภัยโทษจากกษัตริย์นโรดม สีหมุนีแล้ว ซึ่งการปล่อยตัวมีขึ้นในช่วงการเยือนกัมพูชาของพันตำรวจโททักษิณ ผู้ซึ่งเมื่อวันอาทิตย์ได้แวะเยี่ยมนายศิวรักษ์ช่วงสั้นๆที่เรือนจำเพซอน ในกรุงพนมเปญด้วย

ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า นายศิวรักษ์ได้ออกจากเรือนจำเพซอนในเช้าวันนี้โดยขบวนรถ 3 คัน หลังจากได้รับพระราชทานอภัยโทษเมื่อวันศุกร์ ขณะที่นายเฟย สีพัน โฆษกคณะรัฐมนตรี กัมพูชา เปิดเผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า จะมีพิธีส่งมอบตัวนายศิวรักษ์ให้กับมารดาอย่างเป็นทางการ ที่บ้านพักของนายฮฺน เซ็น ซึ่งนายกรัฐมนตรีฮุนเซ็น จะเป็นผู้แจ้งเรื่องการพระราชทานอภัยโทษให้นายศิวรักษ์ทราบ และคาดว่าพันตำรวจโททักษิณจะเข้าร่วมงานพร้อมกับสมาชิกพรรรคฝ่ายค้านจากไทย

รายงานข่าวระบุว่า พันตำรวจโททักษิณผู้ หมดอำนาจเพราะถูกรัฐประหารเมื่อปี 2549 และอยู่ในระหว่างหลบหนีโทษจำคุก 2 ปีในไทยในข้อหาทุจริต เดินทางถึงกรุงพนมเปญเมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งรัฐบาลไทยบอกว่าจะกดดันครั้งใหม่ให้กัมพูชาส่งตัวเขาในฐานะผู้ร้ายข้าม แดนแต่นายกอย กอง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชากลาวว่า "เสียเวลาเปล่า"

ด้านพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ว่า "ผมมาถึงกัมพูชาเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เมื่อเย็นวานนี้ ด้วยความทุลักทุเลจากการหาทางสกัดกั้นทุกวิถีทางของ"อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ"และ"กษิต ภิรมย์"โดยขอความร่วมมือกับทางต่างประเทศ จากพฤติกรรมพบได้ว่าไม่ใช่การทำหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีและรมต.ต่างประเทศ แต่เป็นการไล่ล่าและชำระแค้นทางการเมืองมาก กว่า ผมจึงขอร้องว่าไม่มีประโยชน์หรอก ไปทำงานรับใช้ประชาชนและประเทศเถอะงานในหน้าที่ยังบกพร่องอยู่มาก ท่านทำอะไรผมรู้หมด ทุกประเทศเขาบอกว่าเขาอึดอัด ผมเป็นมาเกือบ 6 ปีพอมีพวกบ้างละ ทำอะไรขอให้ทำในกรอบกฎหมายระหว่างประเทศ บนพื้นฐานของการให้ความเคารพในอธิปไตยแห่งดินแดนเขา และมีมารยาทตามประเพณีทางการทูตเขาจะได้ไม่ดูถูก"

หลังจากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ทวิตว่า "ขอเปลี่ยนเรื่อง โดยบอกว่าเมื่อวานนี้ได้ไปเยี่ยมนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ และพบแม่เขาด้วย ได้ซักถามพบว่าเป็นพฤติกรรมเดิมๆของกระทรวงการต่างประเทศที่คอยติดตามผม เด็กก็เลยถูกกต.และ"นายคำรบ"ใช้ เป็นความแฟร์ของท่านฮุนเซนที่ขอพระราชทานอภัยโทษให้ เพราะนายคำรบมีเอกสิทธิ์ทางการทูตดำเนินคดีไม่ได้ เด็กเป็นเพียงเครื่องมือที่ถูกไหว้วานแบบไทยๆ"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้ รัฐบาลกัมพูชา จะทำพิธีปล่อยตัวนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรไทยที่ถูกกัมพูชาจับกุมข้อหาจารกรรมข้อมูลด้านความมั่นคงของทางราชการ โดยจะมีพิธีการปล่อยตัวที่บ้านวิมานเอกราช ซึ่งเป็นบ้านพักสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา

ด้านนางสิมารักษ์ ณ นครพนม แม่วิศกรไทย กล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เป็นการกระทำเพราะมีผู้สั่งการให้ดำเนินการ หลังจากทราบข่าวว่าลูกชายได้รับการปล่อยตัวรู้สึกเบาใจ และหลังรับลูกที่บ้านสมเด็จฮุนเซ็นแล้ว ก็จะพาลูกชายเดินทางกลับไทยทันทีเมื่อ ถึงเดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ จะเปิดแถลงข่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook