ศูนย์เตือนภัยฯ ติดตั้งทุ่นตรวจจับแผ่นดินไหวบริเวณอันดามัน 2 จุด

ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ใช้งบ 162 ล้านบาทติดตั้งทุ่นลอยตรวจจับแผ่นดินไหวใต้ท้องทะเล 2 ทุ่นบริเวณหมู่เกาะสุรินทร์และเกาะภูเก็ต มั่นใจ ช่วยป้องกันและเตือนภัยแผ่นดินไหวใต้ท้องทะเลก่อนเกิดสึนามิได้แน่นอน นายสือ ล้ออุทัย ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที กล่าวในการลงนามจัดซื้อ จัดจ้าง โครงการติดตั้งทุ่นลอยน้ำลึกในทะเลอันดามันหรือทุ่นตรวจจับการสั่นสะเทือนใต้ท้องทะเล จำนวน 2 ทุ่น ว่า การจัดซื้อและติดตั้งทุ่นดังกล่าวใช้งบประมาณ 162 ล้านบาท ซึ่งผู้รับผิดชอบจะต้องดำเนินการติดตั้งใต้ท้องทะเลฝั่งอันดามันใน 2 จุดคือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ห่างออกไป 260 กิโลเมตรและบริเวณเกาะภูเก็ตห่างออกไป 248 กิโลเมตร และจะต้องให้แล้วเสร็จพร้อมใช้งานเตือนภัยได้ภายใน 330 วัน เพื่อใช้เป็นระบบเตือนภัยล่วงหน้าช่วยลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ นักท่องเที่ยว ตลอดจนช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์สร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย โดยนายวิริยะ มงคลวีราพันธ์ ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทุ่นเตือนภัยดังกล่าว ผลิตและได้มาตรฐานจากประเทศอิตาลี และจะต้องมีการเปลี่ยนแบตเตอรี่ทุก 2-3 ปี เพื่อให้การตรวจจับแผ่นดินไหวเกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีประสิทธิภาพการตรวจจับแผ่นดินไหวใต้ท้องทะเลสามารถตรวจการสั่นสะเทือนของแผ่นดินได้ตั้งแต่ 4 ริกเตอร์ขึ้นไป และจะแจ้งเตือนมายังศูนย์ควบคุมทุ่นทุกครั้งที่สามารถตรวจจับการสั่นสะเทือนได้เกิน 5 ริกเตอร์ขึ้นไป ซึ่งการแจ้งเกิดเหตุแผ่นดินไหวใต้ท้องทะเลจากทุ่นดังกล่าว ศูนย์จะไม่ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนทุกครั้ง เนื่องจากการสั่นสะเทือนเพียงไม่กี่ริกเตอร์ไม่เกิดผลกระทบและความเสียหายใดๆ ศูนย์เตือนภัยจะแจ้งให้สาธารณชนทราบและเฝ้าระวังก็ต่อเมื่อ พบการสั่นสะเทือนใต้ท้องทะเลเกินกว่า 5-7 ริกเตอร์ขึ้นไปซึ่งจะสามารถก่อให้เกิดสึนามิได้ ทั้งนี้ ทุ่นฯดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการแจ้งเตือนภัยไปสู่ประชาชนในท้องที่สามารถกระทำได้ภายในเวลา 5 นาทีหลังจากพบแผ่นดินไหวใต้ท้องทะเล และในอนาคตจะเร่งการแจ้งไปสู่ประชาชนภายใน 3 นาทีให้ได้ เพื่อให้ประชาชนได้มีเวลาเตรียมตัวหลบภัยมากขึ้น เพราะแผ่นดินไหวจะก่อให้เกิดสึนามิและขึ้นสู่ฝั่งภายใน 30 นาที