คลัง ชง ครม.ต่ออายุ 5 มาตรการ อีก 6 เดือน

คลังเสนอ ครม.ต่ออายุ 5 มาตรการ 6 เดือนอีกครั้ง เล็งปรับรายละเอียดเล็กน้อยให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ส่วนมาตรการอสังหาฯ ยังไม่ฟันธงจะยืดเวลาให้หรือไม่ แนะประชาชนใช้สิทธิ์ก่อนหมดอายุมาตรการ

นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 15 ธันวาคมนี้ กระทรวงการคลังจะเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาขยายโครงการ 5 มาตรการ 6 เดือน ที่จะสิ้นสุดในเดือนธันวาคมปีนี้ โดยจะเสนอให้คงทั้ง 5 มาตรการ แต่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของครม.ว่าจะเห็นชอบตามที่เสนอไปหรือไม่ โดยหากต่ออายุโครงการก็ไม่ควรกำหนดเวลาเกิน 6 เดือนเพื่อที่จะทบทวนความเหมาะสมอีกครั้ง

สำหรับทั้ง 5 มาตรการที่เสนอไปนั้นมีทั้งส่วนที่คงเดิม และเปลี่ยนแปลงในรายละเอียดบ้างเล็กน้อย เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์และช่วยให้เกิดการประหยัดพลังงาน หรือมีผลในทางปฏิบัติได้จริง

ส่วนมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์ ทั้งในส่วนของการหักลดหย่อนภาษีเงินได้ 3 แสนบาทในส่วนของเงินต้นที่ซื้อที่อยู่อาศัยและโอนภายในสิ้นปีนี้ และการลดค่าธรรมเนียมการโอน ภาษีธุรกิจเฉพาะที่จะหมดอายุเดือนมีนาคม 2553 จะยังไม่พิจารณาเพราะไม่ต้องการส่งสัญญาณให้ผู้ซื้อบ้านต้องชะลอการซื้อออกไป

"จุดประสงค์ของการให้หักลดหย่อนภาษีสำหรับเงินต้นซื้อบ้านได้ 3 แสนบาท เพื่อต้องการกระตุ้นให้ประชาชนซื้อและโอนภายในเดือนธันวาคมปีนี้ จึงยังบอกไม่ได้ว่าจะต่ออายุหรือไม่และเมื่อยังมีความไม่แน่นอนสูงจึงอยากให้ประชาชนที่กำลังตัดสินใจรีบใช้สิทธิภายในเดือนนี้ก่อนจะหมดอายุมาตรการ" นายกรณ์กล่าว

สำหรับโครงการ 5 มาตรการ 6 เดือน เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพให้แก่ประชาชนที่มีรายได้น้อยที่ต่ออายุมาแล้ว 3 ครั้ง ประกอบด้วย มาตรการที่ 1 ลดค่าใช้จ่ายน้ำประปาของครัวเรือน ที่ภาครัฐจะรับภาระค่าใช้จ่ายการใช้น้ำสำหรับผู้ใช้น้ำประเภทที่อยู่อาศัยและผู้เช่าที่อยู่อาศัยที่มีปริมาณการใช้น้ำเดือนละ 0-30 ลูกบาศก์เมตร มีประชาชนได้ประโยชน์ 4 ล้านครัวเรือน

มาตรการที่ 2 ลดค่าใช้จ่ายไฟฟ้าของครัวเรือน รัฐจะรับภาระค่าใช้จ่ายไฟฟ้าสำหรับครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกินเดือนละ 90 หน่วย มีประชาชนได้รับประโยชน์ 8.5 ล้านครัวเรือน มาตรการที่ 3 ลดค่าใช้จ่ายเดินทางรถโดยสารประจำทาง ประชาชนได้ประโยชน์วันละ 4.3 แสนราย มาตรการที่ 4 ลดค่าใช้จ่ายเดินทางโดยรถไฟชั้น 3 รัฐจะรับภาระค่าใช้จ่ายค่าโดยสารรถไฟชั้น 3 เชิงสังคม 164 ขบวน และรถไฟชั้น 3 เชิงพาณิชย์ 8 ขบวน มีประชาชนได้ประโยชน์เดือนละ 2.8 ล้านราย และมาตรการสุดท้ายคือชะลอการปรับราคาก๊าซหุงต้มภาคครัวเรือน