ศธ.ชี้หลักสูตรใหม่ฝึกเด็กใช้สมองมากขึ้น

ศธ.ชี้หลักสูตรใหม่ฝึกเด็กใช้สมองมากขึ้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงของ ศธ. เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ว่า ที่ประชุมได้กำหนดแนวปฏิบัติในการใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 ซึ่งจะเริ่มใช้ในเดือนพฤษภาคม ปี 2553 ในระดับประถมศึกษาทั้งหมด และชั้นม.3-4 โดยหลักสูตรใหม่จะปรับระบบการเรียนการสอนเพื่อให้เด็กคิดวิเคราะห์เป็น และสอนท่องจำเท่าที่จำเป็น มีการลดความซ้ำซ้อนของเนื้อหาสาระวิชาที่เรียนได้ถึง 30% ขณะเดียวกันตัวชี้วัดที่มีอยู่ 3,000-4,000 ตัวชี้วัดในช่วงเวลาเรียน 12 ปี จะปรับลดให้เหลือ 2,165 ตัวชี้วัด ซึ่งการปรับปรุงเนื้อหาและลดตัวชี้วัดจะไม่ทำให้คุณภาพลดลง แต่จะมีผลดีที่จะทำให้เด็กมีโอกาสเรีกห้องเรียนได้อย่างสร้างสรรค์มากขึ้น เพราะเมื่อเนื้อหาซ้ำซ้อนถูกลดลงก็จะมีเวลาเรียนนอกห้องเรียนเพิ่มขึ้น

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า การเรียนนอกห้องเรียนจะเน้น 3 ส่วน คือ 1. ทุกโรงเรียนต้องหาแหล่งเรียนรู้ที่จะนำไปสู่การเรียนนอกห้องเรียน เช่น สวนครัว หน้าเสาธง หรือสถานที่สำคัญภายในโรงเรียน 2. โรงเรียนจะต้องหาแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่นของตนเอง และ 3. การจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพ เช่น เข้าค่าย ทัศนศึกษา ศิลปะ กีฬา หรือดนตรี ซึ่งทั้งหมดนี้จะนำไปสู่การปรับตารางสอนเพื่อลดชั่วโมงเรียนจากปัจจุบันอยู่ที่เรียน 30 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งเชื่อว่าการปรับระบบการเรียนการสอนจะยกระดับคุณภาพการศึกษาให้สูงขึ้น โดยนอกจากเด็กจะรู้เรื่องวิชาการแล้วยังจะรู้จักคิดวิเคราะห์เป็นมากขึ้นด้วย

สิ่งที่จะเกิดขึ้นใหม่คือกระบวนการสอนจะเน้นให้เด็กเขียนเรียงความและย่อความ และต่อไปจะมีข้อสอบทั้งอัตนัยและปรนัย นอกจากนี้จะเน้นการแนะแนวตั้งแต่ระดับปฐมวัยจนถึงมัธยมศึกษาตอนปลายในรูปแบบของครูที่ปรึกษา เพื่อช่วยให้เด็กสามารถค้นพบตัวเองตั้งแต่เบื้องต้นว่าจะเรียนต่ออย่างไร และที่ไหน โดยควรจะเริ่มต้นตั้งแต่ชั้นม.1 เป็นอย่างช้า นายจุรินทร์ กล่าว.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook