ตำหนิกษิต-คำรบไม่พบกมธ.

ตำหนิกษิต-คำรบไม่พบกมธ.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
หลบชี้แจงกรณีเขมรเสื้อแดงตั้งฉายารบ.

กษิต-คำรบ หลบหน้า กมธ.การต่างประเทศที่เชิญมาชี้แจงกรณีหลอกใช้วิศวกรไทยฉกตารางบิน ทักษิณ จนต้องติดคุกเขมร จี้นายกฯถึงเวลาต้องกำจัดจุดอ่อน ด้าน กษิต ร่อนแถลงการณ์แจงไม่ได้สั่ง คำรบ ทำจารกรรมข้อมูล แต่เป็นการทำหน้าที่ตามปกติ โยนบาปสัมพันธ์ 2 ชาติร้าวเพราะกัมพูชาแทรกแซงกิจการภายในของไทย ตั้งท่ากลบเกลื่อนจี้ถามเขมรดักฟังโทรศัพท์ ด้าน เพื่อไทย โวซักฟอกรัฐบาลปีหน้าตาย คาเขียงแน่ แย้มมีหนอนในรัฐบาลแอบส่งหลักฐานการโกงมาให้ ด้านเสื้อแดงตั้งฉายา รัฐบาลเทพรับประทาน มาร์ค เป็นเด็กดื้อข้างโพเดี้ยม ตัดสินใจพลาดเกือบทุกเรื่อง แถมไม่ฟังเสียงทักท้วง ด้านกษิต ฉายา กุ๊ยมีเส้น สร้างความขัดแย้งอย่างไรใครก็เขี่ยไม่กระเด็น ส่วนขุนคลังซิว เปรตกู้สู้ทุกดอก (เบี้ย) เพื่อเอา เงินมาจุนเจือรัฐบาล โดยไม่รู้ว่าจะหามาใช้คืนอย่างไร

* กษิต-คำรบหลบไม่มาชี้แจง

เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณาการจับตัวนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทย โดยเชิญนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ และนายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เลขานุการสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ มาให้ปากคำ แต่ทั้งสองคนไม่มาตามคำเชิญ โดยได้ส่งนายอิศร ปกมนตรี เอกอัครราชทูตประจำกระทรวงการต่างประเทศ และ น.ส.มธุรสพจนา อิทธิรงค์ รองอธิบดีกรมการกงสุล มาชี้แจงแทน

นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น ประธาน กมธ.การต่างประเทศ กล่าวก่อนการประชุมว่า กรณีดังกล่าวกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ กมธ.ต้องการให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวของนายศิวรักษ์ จึงขอแจ้งไปยังนายศิวรักษ์ว่า หากต้องการเรียกร้องความเป็นธรรม กมธ.พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ ส่วนการที่ รมว.ต่างประเทศ ไม่มาชี้แจงเป็นเรื่องที่สมควรตำหนิ ถือเป็นการไม่ให้ความสำคัญกับกระบวนการตรวจสอบของรัฐสภา สมควรที่นายกฯจะปรับเอาจุดอ่อนของรัฐบาลออก

* อาจมีไอ้โม่งอยู่หลังคำรบ

นายต่อพงษ์กล่าวอีกว่า เรื่องที่เกิด ขึ้นไม่ได้เป็นการจัดฉาก เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีความเป็นธรรมชาติ และคงไม่มีแม่คนใดที่ยอมเอาชีวิตของลูกมาเสี่ยง เมื่อถามต่อว่า การตรวจสอบในครั้งนี้จะขยายประเด็นไปถึงเทปลับที่ทางการกัมพูชาอ้างว่าได้มีการอัดเสียงนายคำรบและนายศิวรักษ์ ไว้ด้วยหรือไม่ นายต่อพงษ์กล่าวว่า การ สอบสวนไปยังปลายทางคือกัมพูชาคงทำไม่ได้ คงมีแต่การสอบถามตัวแทนของกระทรวงฯว่าได้มีการโทรศัพท์ไปหานายศิว รักษ์จริงหรือไม่ และโทรฯไปกี่ครั้ง อย่างไรก็ ดีหาก กมธ. ต้องการทราบข้อมูลในส่วนนี้ก็ มีอำนาจที่จะขอข้อมูลได้

ภายหลังการประชุมนายต่อพงษ์ให้สัมภาษณ์ว่า กมธ. ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ครบถ้วน เนื่องจากการชี้แจงยังไม่ครบองค์ประเด็น ที่ตั้งไว้ ซึ่งจะให้อนุ กมธ. ไปพิจารณาเชิญนายกษิตและนายคำรบมาให้ข้อมูลอีกครั้ง เพราะเรื่องการเมืองเป็นเรื่องที่ข้าราชการตอบไม่ได้ หากท่านไม่สนใจต่อ กมธ.หรือต่อสภาปัญหาก็จะไม่จบ การชี้แจงตัวแทนของกระทรวงไม่ได้รับข้อมูลอย่างแท้จริง ทำให้คนยังสงสัยว่านายคำรบกระทำการเองหรือมีไอ้โม่งที่ไหนสั่งการ และไอ้โม่งที่ว่ากินเงินหลวงอยู่หรือไม่ หรือเป็นคนนอก ราชการ และในประชุมครั้งหน้า กมธ. จะเชิญนายศิวรักษ์มาให้ข้อมูลด้วย

* หาข่าวเรื่องปกติไม่ใช่สายลับ

ด้าน น.ส.รัชดา ธนาดิเรก ส.ส.กรุง เทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ โฆษก กมธ. กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ได้มีตัวแทนกองทัพอากาศมาชี้แจงกรณีการจัดเตรียมเครื่องบินเอฟ 16 เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ โดยตัวแทนกองทัพอธิบายว่า ในสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ จำเป็นต้องจัดเตรียมกำลังพร้อมไว้ และในเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่บินผ่านน่านฟ้าก็ไม่จำเป็นต้องดำเนินการอะไร แต่ถ้าบินเข้ามากองทัพก็อาจจะบินประกบเพื่อบังคับให้นำเครื่องลง ถ้าไม่ลงก็ทำได้แค่ขับฉวัดเฉวียนล้อมหน้าล้อมหลังคงจะไม่ยิง

รายงานข่าวแจ้งว่า การซักถามตัวแทน จากกระทรวงการต่างประเทศ กมธ. จากพรรคเพื่อไทย พยายามสอบถามถึงกรณีที่นายคำรบขอข้อมูลการบินจากนายศิวรักษ์จริงหรือไม่ ซึ่งตัวแทนจากกระทรวงการต่างประเทศชี้แจงว่า กระทรวงได้สอบถามนายคำรบแล้วทราบว่า ได้โทรศัพท์ไปถามว่ามาถึงหรือยัง นายศิวรักษ์ก็ตอบมาว่ามาแล้ว ซึ่งการหาข่าวแบบนี้เป็นเรื่องปกติไม่ได้ถือว่าเป็นสายลับ

* คำรบอยากเคลียร์ศิวรักษ์

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขา นุการ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ตอนนี้นายคำรบอยากพูดคุยกับนายศิวรักษ์เพื่อทำความเข้าใจไม่ให้ปัญหาลุกลาม ส่วนที่มีข่าวว่าครอบครัวของนายศิวรักษ์จะฟ้องกระทรวงการต่างประเทศนั้น เชื่อว่านายศิวรักษ์คงไม่ทำ เว้นแต่จะมีคนยุแหย่ ส่วนกรณีที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ระบุว่ามีเทปดักฟังการสนทนา รวมถึงการบันทึกหมายเลขโทรศัพท์นั้นคงต้อง ทำความกระจ่างกับกัมพูชา ถ้าเกิดขึ้นกับ ประเทศใด เท่ากับว่าเป็นการละเมิดกฎหมาย ระหว่างประเทศ โดยอาจจะทำหนังสือถึง กัมพูชาเพื่อสอบถามข้อมูลดังกล่าว

นายชวนนท์ยังกล่าวถึงตัวแทน กระทรวงการต่างประเทศที่ไปชี้แจงกับคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทน ราษฎรแทนนายกษิตและนายคำรบว่า เป็นสิ่งที่ดีที่ได้มีโอกาสชี้แจงกับ กมธ. ที่นาย กษิตไม่ไปชี้แจงด้วยตัวเอง เพราะติดภารกิจ ร่วมคณะของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้า จุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จยัง สาธารณรัฐประชาชนจีน

* อาทิตย์หน้าเข้าพบบิ๊กจิ๋ว

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงข่าวนายศิวรักษ์หารือกับทีมกฎหมายเพื่อขอคำปรึกษาในการฟ้องเอาผิดกระทรวงการต่างประเทศ กรมการกงสุล และนายคำรบว่า นางสิมารักษ์โทรศัพท์ มาหาบอกว่าไม่สบายใจต่อท่าทีของกระทรวง การต่างประเทศที่ไม่มีความรับผิดชอบ และยังมีการขุดคุ้ยความสัมพันธ์ของครอบครัว นายศิวรักษ์ กับ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยกล่าวหาว่าเป็นการจัดฉาก ตนได้บอกไปว่าถ้าไม่สบายใจก็สามารถฟ้องร้องดำเนินคดีได้ นางสิมารักษ์จึงอยู่ระหว่างการปรึกษากับญาติว่าจะดำเนินการอย่างไรในเรื่องนี้

ด้าน นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นคร พนม พรรคเพื่อไทย หนึ่งในคณะ ส.ส. ที่เดินทางไปรับตัวนายศิวรักษ์ กลับประเทศไทย กล่าวว่า เท่าที่ทราบนายศิวรักษ์ไม่ประสงค์ที่จะดำเนินการยื่นฟ้องร้อง เนื่องจากต้องการกลับไปทำงานที่ประเทศกัมพูชา อย่างไรก็ตามคาดว่านายศิวรักษ์จะเข้าพบ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย เพื่อกราบขอบพระคุณภายในสัปดาห์หน้า

* เทือกชี้อยากฟ้องทำได้

ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงข่าวนายศิวรักษ์จะยื่นฟ้องร้องกระทรวงการต่างประเทศและนายคำรบว่า สามารถใช้สิทธิได้ตามกฎหมาย เมื่อถามว่า มีข้อสังเกตว่าพรรคเพื่อไทย และ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจ อยู่เบื้องหลังให้นายศิวรักษ์ฟ้องครั้งนี้ นาย สุเทพ กล่าวว่า ขอไม่พูดถึง พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคเพื่อไทย แต่เรื่องของนายศิวรักษ์เป็นเรื่องของประชาชน ที่รัฐไม่ควรไปโต้ แย้งหรือไปมีปัญหากับประชาชน ต่อข้อถาม ว่ารัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรกับกรณีที่ นายศิวรักษ์ระบุว่าทางกัมพูชาดักฟังโทรศัพท์ ของเรา นายสุเทพกล่าวว่า บ้านเราก็ยังมี ดักฟัง แม้แต่ตนก็ยังโดน

รองนายกฯยังกล่าวถึงการฟื้นความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาว่า ต้องดูว่าเหตุมันเริ่มมาจากเรื่องอะไรและต้องกลับไปแก้ที่เรื่องนั้น เมื่อถามว่า ตราบใดที่ทางกัมพูชายังไม่ปลด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกจากตำแหน่งที่ปรึกษารัฐบาลกัมพูชา แสดงว่าความสัมพันธ์จะยังไม่คืบหน้าใช่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า คงต้องเป็นไปอย่างนี้ก่อน

* มาร์คจี้เขมรแจงดักฟัง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบว่านายศิวรักษ์จะถูกฟ้องร้องเรื่องอะไร นายศิวรักษ์ไม่ มีเจตนาที่จะทำอะไรผิด แต่สิาลตัดสิน เป็นการพูดถึงผลกระทบที่มีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ และตนเห็นว่าการกระทำของนาย ศิวรักษ์ยังไม่มีอะไรที่เป็นปัญหา เมื่อถามว่า นายศิวรักษ์และครอบครัวพูดตลอดว่าไม่ได้เป็นการจัดฉากและถูกกระทำ นายกฯกล่าว ว่า ตนก็ไม่เชื่อว่านายศิวรักษ์จะไปมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่สังคมต้องมองย้อนว่าสิ่งที่เกิด ขึ้นนั้นเป็นปัญหาจากใคร

ต่อข้อถามว่า ขณะนี้มีการอ้างว่ารัฐบาลไทยโดยกระทรวงการต่างประเทศละเมิดสิทธิ และเป็นต้นเหตุให้นายศิวรักษ์ต้องถูกจำคุก นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นการใช้สิทธิตามกฎหมาย ตนยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีนโยบายที่จะไปให้ใครทำอะไรที่ผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศ เมื่อถามต่อว่า นายศิวรักษ์ระบุว่ามีการดักฟังทางโทรศัพท์จะมีการสอบถามทางการกัมพูชาหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้าเรื่องนี้เป็นจริงทางการกัมพูชาต้องชี้แจง เพราะกระทบภาพลักษณ์ของกัมพูชาในสายตาของประชาคมโลก

* บัวแก้วแก้ตัวไม่ได้สั่งการ

วันเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า นาย กษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ ได้ออกแถลงการณ์กรณีที่นายศิวรักษ์ถูกทางการกัมพูชาจับกุมและดำเนินคดี และได้รับพระราชทานอภัยโทษว่า ยินดีกับนายศิวรักษ์และครอบครัวที่ได้รับอิสรภาพ ที่ผ่านมากระทรวงฯให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครัวของนายศิวรักษ์อย่างดีที่สุด อย่างไรก็ตามกระทรวง เคารพการตัดสินใจของนายศิวรักษ์และครอบครัว ในกรณีที่นางสิมารักษ์ ณ นคร พนม มารดาของนายศิวรักษ์ได้ประสานผ่าน พรรคเพื่อไทยให้ช่วยเหลือบุตรชาย

นายกษิตระบุด้วยว่า กระทรวงฯไม่เคยกล่าวหาว่านายศิวรักษ์และครอบครัวจัดฉากสร้างเรื่องให้เกิดปัญหาขึ้น เจ้าหน้าที่ทุกระดับของกระทรวงฯยืนยันตลอดว่านายศิวรักษ์เป็นคนไทยที่ไปประสบความเดือดร้อนในต่างประเทศ ย่อมมีสิทธิที่จะได้รับ ความช่วยเหลือ ส่วนการกล่าวหาว่ามีการสั่งการจากกรุงเทพฯให้ดำเนินการจารกรรมโดยใช้นายศิวรักษ์เป็นเครื่องมือนั้น ยืนยันว่าไม่เคยสั่งการให้นายคำรบไปจารกรรมในกัมพูชา แต่ต้นเหตุเป็นเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปกัมพูชาโดยมีสถานะเป็นนักโทษหนีคดีและเป็นที่ต้องการตัวของกระบวนการยุติธรรมไทย

* ยันคำรบทำตามหน้าที่

การปฏิบัติงานของนายคำรบเป็นการปฏิบัติราชการตามปกติเพื่อหาข้อมูลยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ที่ใด เพื่อขอรับตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนจากรัฐบาลกัมพูชา ข้อมูลเกี่ยวกับการมาถึงกรุงพนมเปญของ พ.ต.ท. ทักษิณ เป็นข้อมูลเปิดเผย เพราะทางการกัมพูชาแจ้งให้สื่อมวลชนกัมพูชาและต่างประเทศไปทำข่าวที่ท่าอากาศยานโปเชนตง สถานเอกอัครราชทูตไทยฯได้รายงานเข้ามายังทางกระทรวงฯเพื่อประสานงานกับสำนักอัยการสูงสุดให้ดำเนินการขอให้ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน นายกษิตระบุในแถลงการณ์

สำหรับการเรียกร้องให้นายคำรบออกมาชี้แจงนั้น นายกษิตชี้แจงว่า ไม่ใช่แนวปฏิบัติของกระทรวงฯที่จะให้ข้าราชการออกมาชี้แจงในเรื่องการปฏิบัติราชการ นายคำรบและนายศิวรักษ์เป็นผู้บริสุทธิ์ที่ตกเป็นเหยื่อจากเหตุการณ์ครั้งนี้ เมื่อมีการนำไปใช้เป็นประเด็นทางการเมือง นายคำรบถูกประกาศให้เป็นบุคคลที่ไม่พึงปรารถนาของกัมพูชา ทราบว่านายคำรบรู้สึกเสียใจกับผลกระทบที่เกิดขึ้นกับนายศิวรักษ์

* โยนบาปเขมรทำสัมพันธ์ร้าว

นายคำรบยืนยันว่าการโทรศัพท์สอบถามนายศิวรักษ์ เพื่อยืนยันการลงจอดของเครื่องบิน พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น เป็นการสอบถามหลังจากเครื่องบินลงจอดแล้ว 20 นาที และดำเนินการโดยบริสุทธิ์ใจเป็นการปฏิบัติราชการตามปกติ อย่างไรก็ตามนายคำรบได้เคยฝากข้อความแสดงความกังวลไปกับเพื่อนของนายศิวรักษ์ รวมทั้งได้ช่วยประสานงานกับกรมการกงสุลและสถานเอกอัครราชทูตไทยฯในการให้ความช่วยเหลือนายศิวรักษ์ แถลงการณ์ระบุ

สำหรับปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชานั้น นายกษิตระบุว่า เกิดจากการที่ผู้นำรัฐบาลกัมพูชาดำเนินการแทรกแซงกิจการภายในและดูหมิ่นกระบวนการยุติธรรมของไทย ตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา ก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในประเทศไทย และต่อเนื่องเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน การแก้ไขปัญหานี้ให้ได้ผลต้องแก้ที่ต้นเหตุ

* ฮุนเซนกร้าวรอมาร์คล้ม

ด้านสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ว่า สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรี กัมพูชา กล่าวในระหว่างร่วมงานพิธีแห่งหนึ่งในกรุงพนมเปญเมื่อวันพุธว่า ความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชากับไทยที่สะดุดลง จะไม่สามารถกลับคืนสู่ปกติได้ จนกว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันของไทย จะแพ้การเลือกตั้งพ้นจากอำนาจ ผมขอบอกคุณ (นายกฯ อภิสิทธิ์ของไทย) ว่า ผมจะรอจนกว่ารัฐบาลใหม่ของไทยขึ้นสู่อำนาจ เพื่อให้ส่งทูตไทยกลับไปยังกัมพูชา สมเด็จฮุนเซน กล่าว และ ว่า ผู้นำไทยหยิบยกเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ลืมพูดถึงเรื่องปราสาทเขาพระวิหาร

* พท.จัดทัพซักฟอกรัฐบาล

สำหรับการเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในสมัยประชุมหน้านั้น รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยเปิดเผยว่า พรรค แบ่งคณะทำงานติดตามการปฏิบัติงานรัฐบาลเป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.กระทรวงเศรษฐกิจ ติดตามการทำงานของกระทรวงการคลัง เกษตรฯ อุตสาหกรรม พาณิชย์ การท่องเที่ยวฯ คมนาคม พลังงาน และ แรงงาน มีนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีต รมว.พาณิชย์ ดูแล

2.กระทรวงด้านสังคม ติดตามการ ทำงานของกระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม การพัฒนาสังคมฯ สาธารณสุข มีนายวิชาญ มีนชัยนันท์ อดีต รมช.สาธารณสุข รับผิดชอบหลัก 3.กระทรวงเทคโนโลยี ติดตามการทำงานของกระทรวงเทคโนโลยีฯ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และทรัพยากรธรรมชาติฯ ผู้รับผิดชอบหลักคือนายวุฒิพงศ์ ฉายแสง อดีต รมว.วิทยาศาสตร์ 4.กระทรวงด้านความมั่นคง ติดตามการทำงานของสำนักนายกฯ กลาโหม มหาดไทย การต่างประเทศ และยุติธรรม มี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย รับผิดชอบ

* แย้มคนในแอบส่งข้อมูลให้

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กรุง เทพฯ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯและรัฐมนตรีรายบุคคลพร้อมยื่นถอดถอนออกจากตำแหน่ง เบื้องต้นจะมีผู้ถูกอภิปรายจำนวน 6 คน ซึ่งในจำนวนนี้รวมนายกฯและนายกษิตด้วยแน่นอน เมื่อรัฐบาลยืนยันในความถูกต้องสิ่งที่ดำเนินการมาตลอด ก็เลี่ยงไม่พ้นต้องเจอการอภิปรายไม่ไว้วางใจแน่นอน และข้อมูลที่ใช้อภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ตนมั่นใจในน้ำหนักของหลักฐาน จะพูดด้วยเหตุและผลไม่ใช่การกล่าวหา

เมื่อถามว่า จะสร้างมิตรทางการเมืองโดยเลี่ยงอภิปรายรัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคหรือไม่ น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวรับรองว่า ไม่มีเรื่องทำนองนี้แน่ รับรองตายคาเขียงแน่ ๆ อย่างไรก็ตามยอมรับว่าข้อมูลบางเรื่อง พรรคได้มาจากคนในพรรครัฐบาล เพราะมีการเบิกจ่ายงบฯจำนวนมากและผิดสังเกตว่าจะมีความไม่ชอบมาพากล โดยเฉพาะสำนักนายกฯ ส่วนกรณีนายศิวรักษ์น่าจะเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จะนำมาใช้อภิปรายไม่ไว้วางใจ

* 1ปีรัฐบาลล้มเหลวไม่เป็นท่า

ด้านนายคณวัฒน์ วศินสังวร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงผลประเมินผลการทำงานรัฐบาลว่า ช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา นโยบาย และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ตัวนายอภิสิทธิ์เข้ามาเป็นผู้สร้างความขัดแย้งเสียเอง มิหนำซ้ำกลับอ่อนด้อยในการดำเนินนโยบายต่างประเทศ การกระตุ้นเศรษฐกิจล้มเหลวเต็มไปด้วยการทุจริตคอร์รัปชั่น ในลักษณะการกู้มาโกง สร้างหนี้สาธารณะจำนวนมากให้คนไทยทั้งชาติแบกรับ

นางจุรี วิจิตรวาทการ เลขาธิการองค์กรเพื่อความโปร่งใสในประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการคอร์รัปชั่นของรัฐบาลว่า คงไม่ต่างจากปีที่ผ่านมา เห็นได้จากข่าวการทุจริตโครงการชุมชนพอเพียง ส่วนการให้คะแนนรัฐบาลปัจจุบันในการปราบปรามคอร์รัปชั่นนั้น ยากจะให้คะแนนกับรัฐบาลเพราะผสมกันหลายพรรค แต่ถ้าถามถึง นายกฯตนให้คะแนนว่าสอบผ่าน น่าจะยู่ประมาณเอลบ อย่างไรก็ตามอยากให้นายกฯออกมาตรการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่นให้ชัดเจนขึ้น

* พักราชการเสธ.แดงรอชี้ผิด

ส่วนการเมืองอื่น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการสั่งพักราชการ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ว่า ปลัดกระทรวงกลาโหมกำลังดำเนินการ เราต้องให้ความเป็นธรรม ทุกคนจะต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ทหารก็จะต้องอยู่ภายใต้ระเบียบวินัย ส่วนจะให้พักราชการหรือไม่นั้น ยังไม่ทราบ ต้องให้กรมพระธรรมนูญพิจารณา

ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. กล่าวว่า การดำเนินการกับ พล.ต. ขัตติยะเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ไม่ได้มีการกลั่นแกล้ง ส่วนกรณีที่ พล.ต.ขัตติยะยื่นร้องเอาผิดกับกรณีที่ไปออกทีวีไล่นายสมชายนั้น สามารถทำได้ ไม่มีปัญหาอะไร

* ฉายารัฐบาลเทพรับประทาน

วันเดียวกันสถานีประชาชน (พีเพิลชาแนล) ได้ตั้งฉายารัฐบาล โดยรัฐบาลได้ฉายาว่า รัฐบาลเทพรับประทาน เนื่องจากมักจะอ้างเรื่องผลประโยชน์ประชาชน แต่ที่ออกมาคือการทุจริตไม่คำนึงถึงปากท้องและส่วนรวม จึงตลบอบอวลไปด้วยผลประโยชน์ทางตัวเลขและคอมมิชชั่นในลักษณะมูมมามไม่อายฟ้าดินและไม่เกรงใจประชาชน

พรรคร่วมรัฐบาลได้ฉายาว่า สวนสัตว์ซ่อนดาบ เหมือนเอาเสือ สิงห์ กระทิง แรด มาเกาะเกี่ยวกันทางผลประโยชน์ ขณะที่มือหนึ่งก็พร้อมที่จะจ้วงแทงทันที สำหรับสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาได้ฉายาว่า สภาตกเลข เนื่องจากในรอบ 10 เดือน สภาล่มไปแล้ว 11 ครั้ง แต่ยังมีหน้าขอขึ้นเงินเดือนให้กับตัวเอง นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภาได้ฉายาว่า ชัยชวนชื่น มักจะใช้มุกตลกหากินเอาตัวรอดเพื่อเรียกบรรยากาศการประชุมให้สามารถกลับมาประชุมต่อได้เสมอ

* มาร์คเด็กดื้อข้างโพเดี้ยม

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ฉายา เด็กดื้อข้างโพเดี้ยมเนื่องจากการตัดสินใจในหลายเรื่องมักผิดพลาดเสมอ และมักจะแก้ตัวไปน้ำขุ่น ๆโดยไม่ฟังเสียงทักท้วงจากใคร ส่วน พล.ต. สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ได้ฉายาว่า สิงห์ไวน์ส่งไม้ต่อ เนื่องจากมี แนวคิดที่จะสละเก้าอี้ให้ลูกชายได้สัมผัส นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ได้ฉายาว่า มาเฟียความมั่นคง เพราะหวาดระแวงคนเสื้อแดง และมักอ้างสถานการณ์เพื่อฉวยโอกาสประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง

นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ได้ฉายาว่า เจ้าคุณเละ ตร วจสอบไปทุกเรื่องจนไปทะเลาะกับกระทรวงพาณิชย์ ยกเว้นงานที่ตัวเองรับผิดชอบ โดยเฉพาะการทุจริตในโครงการชุมชนพอเพียง ที่มีการปล่อยตู้น้ำฝังเพชรอาละวาด จนถูกวิจารณ์อย่างหนักโดยไม่ทิ้งร่องรอยความละเอียดไว้เลย นายวีระชัย วีระเมธีกุล รมต.สำนักนายกฯ ได้ฉายาว่า ตี๋ซีพีโลกลืม เนื่องจากเขยซีพีคนนี้ผลงานไม่เป็นที่ปรากฏ

* กษิตฉายากุ๊ยมีเส้น

นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ ได้ฉายาว่า กุ๊ยมีเส้น เนื่องจากพฤติกรรมที่ผ่านมามีแต่ทะเลาะกับคนอื่น รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านไม่มีผลงานที่เป็นชิ้นเป็นอัน แต่นายอภิสิทธิ์ต้องประคบประหงมไว้ เพื่อไม่ให้เกิดรอยร้าวกับพันธมิตรฯ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.สำนักนายกฯได้ฉายาว่า ลำโพงดอกแหว่ง เนื่องจากดูแลสื่อของรัฐ และมักจะล้ำเส้นจนเข้าข่ายเป็นการแทรกแซงสื่อ

นายไพฑูรย์ แก้วทอง รมว.แรงงาน ได้ฉายาว่า จับกังว่างงาน เนื่องจากรับงานไปทำไม่สำเร็จก็โยนงาน นายธีระ สลักเพชร รมว.วัฒนธรรม ได้ฉายาว่า วัฒนกรรม เข้ามาทำงานตำแหน่งนี้ได้ด้วยโควตา ทั้งที่ไม่สันทัดจึงถือว่าเป็นกรรมของวัฒนธรรมไทย นายวิทยา แก้วภราดัย รมว. สาธารณสุข ได้ฉายาว่า หมอหมดน้ำยา เพราะไม่สามารถแก้ไขปัญหาไข้หวัดใหญ่ฯ 2009 รวมถึงกรณีการทุจริตในโครงการไทยเข้มแข็ง

* เจ๊วาสุดโก้ศรีสุดทน

นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ ได้ฉายาว่า ศรีสุดทน เนื่องจากเข้าแก้ปัญหาแบบเดินหน้าชน นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ ได้ฉายาว่า รองบ่อนอ่อนซ้อม เนื่องจากเวลาติดตามนายอภิสิทธิ์ไปต่างประเทศ มักถูกลักไก่ เรียกว่าไม่ทันเกม นายโสภณ ซารัมย์ รมว. คมนาคม ได้ฉายาว่า ซาเล้งล้อหลุด เนื่องจากเจอมรสุมเล่นงานหนัก กรณีสหภาพการรถไฟสายพันธมิตรฯหยุดการเดินรถไฟสายใต้ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ได้ฉายาว่า คุณปู่สารพัดพิษ เป็นบุคคลที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยไว้เนื้อเชื่อใจ แต่สุดท้ายก็ยอมเสียพวกเสียเพื่อนเพื่อตำแหน่ง

นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รมว.อุตสาห กรรม ได้รับฉายาว่า อุตส่าห์หากินตีนลอย เนื่องจากการเป็นเจ้ากระทรวงโดยตรง แต่ไม่เข้ามาแก้สถานการณ์กรณีการระงับ 65 โครงการมาบตาพุด นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวฯ ได้รับฉายาว่า ทัวร์เป็ดป่วย ปล่อยให้นายอภิสิทธิ์แย่งซีนไปหลายเรื่องไม่เหมาะกับงานที่ต้องแอ๊คทีฟ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาด ไทย ได้รับฉายาว่า พระรองตุ๊กตาทอง เนื่องจากเล่นบทบาทตัวแทนเนวินได้อย่าง เหมาะเจาะ

* ขุนคลังเปรตกู้สู้ทุกดอก(เบี้ย)

นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลัง งาน ได้ฉายาว่า คุณหมอน้ำมันหมด เนื่อง จากผู้คนคาดหวังว่ารัฐบาลนี้จะเข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาราคาพลังงาน แต่กลับไม่เป็นไปดังใจของประชาชนสักเรื่อง นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ได้ฉายาว่า แพนด้าใครอย่าแตะ เพราะหากทำกิจกรรม ร่วมกับแพนด้าน้อยมักจะไม่พลาด ร.ต. (หญิง) ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมว. เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ได้รับฉายาว่า กระจง 3 G เข้ามาเป็นนอมินี ของสามี ซึ่งเป็นผู้จับกระจงได้ที่ภูเก็ต และโครงการ 3 G ก็ยังไม่สามารถผลักดันได้สำเร็จ

น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รมช. ศึกษาธิการ ได้รับฉายาว่า หงส์หยกริมน้ำ เนื่องจากเป็นตัวแทนจากกลุ่มบ้านริมน้ำ ไม่มีใครรู้ว่ากำกับดูแลหน่วยงานใด รู้อย่างเดียวว่าหน้าตาดี นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรฯ ได้ฉายาว่า ต้นกล้าบิ๊กเติ้ง เนื่องจากเป็นคนที่ทำงานตามออร์เดอร์ของนายบรรหาร ศิลปอาชา นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ได้ฉายาว่า เปรตกู้สู้ทุกดอก(เบี้ย) เพราะดูแลเรื่องเงินกู้ทุกรูปแบบทั้งกู้ตรง กู้อ้อม เพื่อเอาเงินที่กู้มาค้ำสถานะของรัฐบาล ส่วน การใช้คืนไปตายเอาดาบหน้า.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook