เครือข่ายครูจี้จุรินทร์ล้มเลือกผู้แทนคุรุสภา
นายประภาส กล่าวว่า จากการติดตามการคัดเลือกผู้แทนคุรุสภา ใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาต่าง ๆ พบว่า มีคณะกรรมการคุรุสภาดำเนินการไม่โปร่งใส โดยส่อว่ามีการเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้อง ที่สำคัญมีเรื่องการซื้อขายตำแหน่งในราคา 400,000-500,000 บาทด้วย โดยมีเงินสะพัดกว่า 80 ล้านบาท มีการเดินสายแบ่งโซนเก็บเงินกันอย่างโจ่งแจ้งบางรายมีการโอนเงินเข้าบัญชี ซวจสอบได้
เรื่องดังกล่าวเป็นการนำมาซึ่งความเสื่อมเสียต่อศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิวิชาชีพครูในฐานะที่คุรุสภาเป็นองค์กรที่ส่งเสริมมาตรฐานและจรรยาบรรณวิชาชีพ รวมทั้งสวนทางกับ นโยบาย 3 D ของ รมว.ศึกษาธิการที่เน้นในเรื่องของคุณธรรม จริยธรรมและการเลือกตั้งตามระบบประชาธิปไตยที่ต่อต้านการซื้อสิทธิ ขายเสียง นายประภาส กล่าวและว่า ทางเครือข่ายสมาคมวิชาชีพครูจึงมายื่นเอกสารและหลักฐาน พร้อมเรียกร้องให้ รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะประธาน ก.ค.ศ. พิจารณายับยั้งการแต่งตั้งผู้แทนคุรุสภาใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ และตรวจสอบความไม่โปร่งใสในการเลือกตั้ง พร้อมแก้ไขกฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการได้มาซึ่งผู้แทนคุรุสภา ใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา เพื่อเป็นการกวาดล้างความเน่าเฟะที่เกิดขึ้นให้หมดไป และเรียกความเชื่อมั่นและศรัทธาคืนจากสังคม เพราะคนเหล่านี้เมื่อเข้าไปแล้วก็จะเรียกทุนคืนด้วยการเรียกเงินทองจากการย้ายครูคิดเป็นกิโลเมตร การสอบบรรจุผู้บริหาร การพิจารณาความดีความชอบ การเลื่อนวิทยฐานะ และช่วยเหลือให้พ้นผิดจากการสอบวินัย อย่างไรก็ตามหากไม่มีการดำเนินการตามข้อเรียกร้อง ทางเครือข่ายสมาคมวิชาชีพครู จะรวมพลประมาณ 1,000 คน มาเรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อ
ด้าน รศ.ดร.สุขุม กล่าวว่า ตนได้รับเอกสารหลักฐานพร้อมข้อเรียกร้องของเครือข่ายสมาคมวิชาชีพครูไว้พิจารณา นอกจากนี้ยังมีผู้ที่อยู่ในแวดวงการศึกษาให้ข้อมูลมาอีกว่าการเลือกตั้งผู้แทนครูในสายมัธยมศึกษา มีการซื้อเสียงกันเป็นจำนวนมาก โดยระดับผู้บริหารสถานศึกษาจะได้ค่าหัวคะแนน รายละ 10,000 บาท ส่วนครูจะได้ครั้งแรก 300 บาท และในโค้งสุดท้ายจะจ่ายให้จนครบ 1,500 บาท ซึ่งตนจะนำเรื่องนี้เข้าพิจารณาในการประชุม กกต.ศธ. และจะเร่งตรวจสอบเพื่อหาข้อสรุป เพื่อให้ ก.ค.ศ. ที่มีนายจุรินทร์เป็นประธาน ใช้ประกอบการพิจารณาเพื่อรับรองหรือไม่รับรองผลการเลือกตั้งและการสรรหาผู้แทนใน ก.ค.ศ., อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา และ อ.ก.ค.ศ.ส่วนราชการ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 18 ธ.ค.นี้ ทั้งนี้หากมีหลักฐานชัดเจนหรือมีข้อให้กังขา ก.ค.ศ.ก็มีสิทธิที่จะสอย แจกใบเหลืองหรือใบแดงได้ และผู้ที่ถูกตัดสิทธิหากมีการเลือกตั้งใหม่จะ ไม่สามารถมาสมัครรับการเลือกตั้งได้อีก.