เมื่อราชันลูกหนังซีเกมส์สิ้นลาย

เมื่อราชันลูกหนังซีเกมส์สิ้นลาย

เมื่อราชันลูกหนังซีเกมส์สิ้นลาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ช็อกสนั่นเมืองไทย และกลายเป็นข่าวใหญ่ระดับอาเซียน เมื่อ "ราชันลูกหนังซีเกมส์" อย่าง ทีมชาติไทย กลายเป็น "เสือสิ้นลาย" กระเด็นตกรอบแรกฟุตบอลกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 "เวียงจันทน์เกมส์" ที่ประเทศลาว

ใครเลยจะคิดว่าอดีตแชมป์ 13 สมัยและเจ้าของตำแหน่งแชมป์เก่า 8 สมัยติดต่อกัน ต้องมาตกรอบแบบไม่เหลือลายแบบนี้
 
ความพ่ายแพ้ต่อ "เสือเหลือง" มาเลเซีย 1-2 ที่สนามกีฬาแห่งชาติลาว ทำให้ทีมชาติไทยหยุดสถิติคว้าแชมป์ติดต่อกันไว้ที่ 8 สมัย และยุติสถิติไม่แพ้ใครในซีเกมส์ (นับเฉพาะ 90 นาที) ไว้ที่ 53 นัด ที่สำคัญยังถือเป็นการตกรอบแรกในซีเกมส์เป็นครั้งแรกในรอบ 36 ปี
 
เกิดอะไรขึ้นกับทีมชาติไทย ? นี่คือคำถามของแฟนบอลไทยที่ยังช็อกกับผลงานของนักเตะ
 
คงจะไม่มีใครที่ตอบคำถามนี้ได้ดีเท่ากับ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่ถือเป็นคนดูแลวงการฟุตบอลของประเทศนี้และควรจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อผลงาน ที่น่าผิดหวังของทีมชาติไทยด้วย
 
แต่สมาคมฟุตบอลไทยคงจะไม่ออกมาตอบคำถามอะไรในตอนนี้ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติเสมอมา เพราะยามใดที่ทีมชาติไทยล้มเหลว สมาคมฟุตบอลไทยมักลอยตัวอยู่เหนือปัญหาเกือบจะทุกครั้ง
 
กรณีที่ทีมฟุตบอลไทยตกรอบแรกใน "เวียงจันทน์เกมส์" ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเกิดจากการบริหารที่ผิดพลาดของสมาคมฟุตบอลไทย
  
ย้อนกลับไปในเดือนมีนาคม ทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ออก สตาร์ทเตรียมทีมเป็นครั้งแรกด้วยการประกาศแต่งตั้ง "บังมาด" สามารถ มะลูลีม นักการเมืองและสภากรรมการบริหารของสมาคมฟุตบอลไทย เข้ามาเป็นผู้จัดการทีม พร้อมกับให้ ปีเตอร์ รีด รับบทหัวหน้าผู้ฝึกสอนควบกับทีมชาติไทยชุดใหญ่

คำถามเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนนั้นว่า แล้ว ปีเตอร์ รีด จะถ่างขาทำงาน 2 ทีมได้อย่างไร เพราะช่วงปลายปีทีมชาติไทยชุดใหญ่มีคิวเตะเอเชี่ยนคัพคาบเกี่ยวกับการเตรียม ทีมซีเกมส์ แต่สมาคมฟุตบอลไทยกลับไม่แยแสกับการทักท้วงใดๆ

 

ทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ประเดิม อุ่นเครื่องกับ "กีวี" นิวซีแลนด์ เป็นนัดแรกในเดือนมีนาคม แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีการเตรียมทีมอีกเลย จนเวลาล่วงผ่านเลยไปกว่า 6 เดือน ปีเตอร์ รีด ตัดสินใจลากลับประเทศและทีมชาติไทยได้ ไบรอัน ร็อบสัน เข้ามาเป็นเฮดโค้ชคนใหม่
 
เมื่อ "ร็อบโบ้" รับงานคุมทีมชาติไทย สมาคมฟุตบอลไทยตัดสินใจมอบหมายให้ สตีฟ ดาร์บี้ มือขวาของ ปีเตอร์ รีด ทำหน้าที่เฮดโค้ชทีมชาติไทยชุดซีเกมส์
 
ถึงตรงนี้มีคำถามเกิดขึ้นอีกว่า สตีฟ ดาร์บี้ เหมาะสมขนาดไหน เพราะจะว่าไปแล้ว สตีฟ ดาร์บี้ ใช่จะเป็นโค้ชระดับ "ของขึ้นห้าง" แต่เหมือนโค้ชพเนจรมากกว่าเพราะเคยทำงานหลายแห่งในอาเซียนทั้งคุมทีมสโมสร ที่สิงคโปร์ มาเลเซีย และคุมทีมฟุตบอลหญิงเวียดนามคว้าแชมป์ซีเกมส์
 
แต่จนแล้วจนรอด สมาคมฟุตบอลไทยก็แต่งตั้ง สตีฟ ดาร์บี้ เป็นเฮดโค้ชทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ทว่าการเตรียมทีมหลังจากนั้นใช่ว่าจะเพียบพร้อม เพราะสตีฟ ดาร์บี้ ยังต้อง "จับปลาสองมือ" ทำหน้าที่ผู้ช่วยของไบรอัน ร็อบสัน ในทีมชุดเอเชี่ยนคัพไปในตัวด้วย
 
ที่สำคัญสมาคมฟุตบอลไทยกลับสั่งให้ทั้งสองทีมเตรียมทีมไปพร้อมๆ กัน ทั้งที่ควรจะแยกการทำงานของทั้งสองทีมให้ชัดเจน ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือทีมซีเกมส์กลายเป็น "ลูกเมียน้อย" ไม่ได้รับความสนใจเหมือนเอเชี่ยนคัพ
 
ทีมซีเกมส์ถูกสั่งให้ไปเตะรายการ 4 เส้าที่ภูเก็ต พร้อมกับทีมชุดเอเชี่ยนคัพ แต่พอถึงวันแข่งขันจริงๆ ทีมซีเกมส์ก็ทำได้ดีที่สุดคือ "อุ่นเครื่องกันเอง" เพราะไบรอัน ร็อบสัน เน้นที่เอเชี่ยนคัพเป็นหลัก
 
หลังจากนั้น สตีฟ ดาร์บี้ ก็ต้องไปช่วยงาน ไบรอัน ร็อบสัน แบบต่อเนื่องจนไม่มีเวลามาเหลียวแลทีมซีเกมส์ จนถึงขั้นที่ว่าทีมซีเกมส์ต้อง ไปเตะรายการ 4 เส้า "สมาร์ทดอร์" ที่ฮานอยแบบไม่มีเฮดโค้ช เพราะสตีฟ ดาร์บี้ ต้องไปช่วยงานในทีมเอเชี่ยนคัพ จน "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ต้องรับบทมวยแทนคุมทัพไป
 
กรณีนี้เกิดเสียงวิจารณ์ถึงความเหมาะสมและการบริหารงานที่ผิดพลาดของสมาคม ฟุตบอลไทยที่สั่งให้ สตีฟ ดาร์บี รับผิดชอบทำ 2 ทีม เพราะเมื่อไปช่วยทีมเอเชี่ยนคัพก็ทำให้ทีมซีเกมส์ไม่ มีการขยับเขยื้อน การฝึกซ้อมของนักเตะหนักทางเล่น "เวทเทรนนิ่ง" จนโดนแซวว่าน่าจะไปแข่งยกน้ำหนักมากกว่าแข่งฟุตบอล เพราะแทบไม่ลงซ้อมในสนามเลย
 
นอกจากนี้สมาคมฟุตบอลไทยยังไม่มีโปรแกรมให้ทีมซีเกมส์ได้อุ่นเครื่องแบบเพียงพอ ก่อนเดินทางสู่ลาว ทีมซีเกมส์ได้ แข่งแค่กับทีมระดับสโมสรของไทย และได้เตะกับ ศรีลังกา ที่เป็นทีมชุดใหญ่เท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นการเตรียมทีมที่แย่ที่สุดของฟุตบอลซีเกมส์ไทยก็ว่าได้
 
เตรียมทีมไม่ดียังไม่พอ สตีฟ ดาร์บี้ ยังเรียกนักเตะมาแบบค้านสายตา โผนักเตะของกุนซือชาวอังกฤษไม่มีชื่อของนักเตะตัวหลักที่ฟอร์มโดดเด่นใน สโมสรระดับ "ไทยพรีเมียร์ลีก" แต่กลับไปเลือกเอานักเตะจากทีมที่ตกชั้น และให้โอกาสนักเตะที่ไม่เคยลงเล่นในลีกสูงสุดเลย
 
สื่อมวลชนและสตาฟฟ์โค้ชพยายามออกมาเตือนว่านักเตะที่มีอยู่ยังไม่ดีพอ แต่ สตีฟ ดาร์บี้ ไม่สนใจคำวิจารณ์และเชื่อมั่นในความคิดของตัวเองเป็นหลัก แถมยังสนใจกับ "ข่าว" มากจนเกินไป จนบรรดานักข่าวต่างบอกว่าน่าเอาเวลาไปทำทีมมากกว่าจะมาสนใจข่าว
 
พอถึงเวลาแข่งขันจริง นักเตะที่ สตีฟ ดาร์บี้ เลือกมาก็แสดงให้เห็นแล้วว่ายังไม่ดีพอสำหรับคำว่าแชมป์ซีเกมส์ และกูรูลูกหนังเกือบทุกสำนักต่างฟันธงว่า สตีฟ ดาร์บี้ ไม่มีกึ๋นพอในการทำทีม
 
คำถามคือ แล้วสมาคมฟุตบอลไทยประกาศแต่งตั้ง สตีฟ ดาร์บี้ มาเป็นเฮดโค้ชได้อย่างไร หรือมองเพียงแค่เป็นโค้ชชาวต่างชาติเท่านั้นจึงให้ความไว้วางใจ
 
นอกจากเลือกโค้ชไม่ดี ยังวางนโยบายการเตรียมทีมแย่ หากจะบอกว่าฟุตบอลไทยมันพัง เพราะ วิสัยทัศน์ ที่เป็น "วิสัยทึบ" ก็น่าจะถูกต้องที่สุดแล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook