กยศ. เดินทางไกล่เกลี่ยข้อพิพาทลูกหนี้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาก่อนฟ้องคดี ที่จังหวัดน่าน

กยศ. เดินทางไกล่เกลี่ยข้อพิพาทลูกหนี้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาก่อนฟ้องคดี ที่จังหวัดน่าน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กยศ. เปิดโอกาสไกล่เกลี่ยข้อพิพาทลูกหนี้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาก่อนฟ้องคดี ที่จังหวัดน่าน ระหว่างวันที่ 19-20 ธันวาคม นี้ วันนี้ (19 ธค.52) ที่บริเวณศาลจังหวัดน่าน นายเสริมเกียรติ ทัศนสุวรรณ ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. นำคณะเจ้าหน้าที่ กยศ. เดินทางมาที่จังหวัดน่าน ตามโครงการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาก่อนฟ้องคดี โดยมี นายโสภณ มัธยันต์พล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดน่าน เป็นประธานเปิดโครงการฯ ซึ่ง กยศ. ร่วมกับศาลจังหวัดน่าน จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 19 20 ธันวาคม 2552 เป็นเวลา 2 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกันที่จะถูกบอกเลิกสัญญามาติดต่อชำระหนี้ที่ค้างชำระ หรือมาติดต่อขอผ่อนชำระหนี้ โดยผู้กู้ยืมต้องเป็นลูกหนี้ค้างชำระตั้งแต่ 5 งวดขึ้นไป และจะต้องถูกดำเนินคดีในปี 2553 เท่านั้น ไปติดต่อประนีประนอมยอมความ สำหรับจังหวัดน่าน มีลูกหนี้ที่อยู่ในเกณฑ์เข้าร่วมโครงการฯ 1,666 ราย มูลค่าหนี้ค้างชำระ 2,727 ล้านบาท โดยวันแรกมีลูกหนี้และผู้ค้ำประกันมาติดต่อขอร่วมโครงการฯ อย่างคึกคัก ทั้งนี้ ผู้ที่เข้าร่วมโครงการไกล่เกลี่ยได้รับสิทธิพิเศษ คือ ลูกหนี้ที่ชำระหนี้ทั้งหมด (ปิดบัญชี) จะได้ลดเบี้ยปรับให้ในอัตราร้อยละ 80 และลูกหนี้ที่ทำสัญญาประนีประนอมยอมความเพื่อผ่อนชำระเป็นรายเดือน ลดเบี้ยปรับให้ในอัตราร้อยละ 50 ผู้กู้ยืมที่เข้าร่วมโครงการฯ ซึ่งได้ทำสัญญาชำระหนี้ทั้งหมด จะต้องทำการชำระหนี้ครั้งเดียว ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2553 มิฉะนั้น ทางกองทุนฯ จะถือว่าผิดสัญญาและจะไม่ได้สิทธิในการลดเบี้ยปรับ ส่วนผู้กู้ยืมที่ทำสัญญาประนีประนอมยอมความต้องชำระเงินกู้ยืมคืนกองทุนฯ เป็นรายเดือน ภายในวันที่ 5 ของทุกเดือน ตามอัตราที่กองทุนฯ กำหนด ภายในระยะเวลาไม่เกิน 9 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปี และหากผิดนัดชำระงวดใดงวดหนึ่งต้องเสียเบี้ยปรับ ร้อยละ 1.5 ต่อเดือน ของหนี้ที่ค้างชำระในแต่ละงวด หากผู้กู้ยืมที่ทำสัญญาประนีประนอมยอมความไม่ปฏิบัติตามสัญญาให้กองทุนฯ สามารถดำเนินคดีโดยไม่ต้องมีหนังสือแจ้งเตือนอีก โดยขอให้ผู้กู้ยืมที่เข้าร่วมโครงการฯ เตรียมเอกสารหลักฐานแสดงตนมาให้พร้อม หากไม่สามารถเดินทางมาด้วยตนเองให้ทำหนังสือมอบอำนาจให้ผู้ที่บรรลุนิติภาวะเป็นผู้มาทำการเจรจาแทน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook