จังหวัดน่าน พร้อมรับมือท่องเที่ยว เร่งเฝ้าระวังโรคในหน้าหนาว

จังหวัดน่าน พร้อมรับมือท่องเที่ยว เร่งเฝ้าระวังโรคในหน้าหนาว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
จังหวัดน่าน เตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางท่องเที่ยวกันเป็นจำนวนมากในช่วงฤดูหนาวโดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาว โดยเน้นเรื่องความสะอาดของอาหารและสุขาภิบาล ที่จังหวัดน่าน เริ่มมีนักท่องเที่ยวทยอยเดินทางมาท่องเที่ยวที่จังหวัดน่านบ้างแล้ว เพราะเป็นช่วงเข้าสู่ฤดูหนาว โดยจะเห็นได้จากช่วงเช้าที่มีหมอกลงหนาทึบ ทำให้ต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ บางช่วงถนนที่มีเขาสูงและลาดชัน อาจทำให้เกิดอันตรายได้ สำหรับที่จังหวัดน่าน มีแหล่งท่องเที่ยวทางด้านศิลปะวัฒนธรรมที่ยังคงยึดขนบธรรมเนียมประเพณีแบบชาวล้านนา เช่น วัดพระธาตุแช่แห้ง วัดภูมินทร์ วัดหนองบัว วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน ซึ่งล้วนแต่มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่โบราณ น่าสนใจและค้นหา นอกจากนี้ ยังมีแหล่งธรรมชาติที่สวยงาม คือ มีอุทยานแห่งชาติ 7 อุทยาน กับ 1 วนอุทยาน ดังนั้น นักท่องเที่ยวจึงนิยมเดินทางมาล่วงหน้า และนิยมมาพักค้างกางเต๊นท์ อย่างเนืองแน่น ทางจังหวัดน่าน จึงได้มีการเตรียมการรองรับนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวที่จังหวัดน่านในช่วงหนาวนี้ โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาว ไม่เพียงแต่ในเรื่องสถานที่พัก โรงแรม ตลอดจนร้านอาหาร จึงจะต้องเน้นในเรื่องของความสะอาด และโรคที่มากับหน้าหนาวนี้ด้วย ด้าน นายเกษม วัฒนธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวว่า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยว จึงต้องการให้ทุกคนได้รับความสุขสบายและประทับใจกลับไปทั้งด้านความปลอดภัย ตลอดจนด้านสุขาภิบาล ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุด โดยเฉพาะไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เป็นสิ่งที่น่าวิตก ที่จะต้องป้องกันและเฝ้าระวังอย่างเร่งด่วน สิ่งหนึ่งที่น่าเป็นห่วง ชาวล้านนาจะมีประเพณีวัฒนธรรมการบริโภคอาหาร ส่วนใหญ่เป็นขันโตกและใช้มือในการรับประทานอาหาร ถึงแม้จะมีช้อนกลาง แต่ยังคงเข้าใจในการใช้ช้อนกลางร่วมกัน ด้วยวิธีใช้ช้อนกลางตักเข้าปาก แล้วนำมาใส่ไว้ส่วนรวมเช่นเดิม ดังนั้นจึงขอฝากรณรงค์คำว่า ไม่ใช้ช้อนร่วมกันผ่านการรับประทานอาหาร นอกจากนี้ ได้สั่งการไปยังผู้ประกอบการร้านอาหาร ชมรมร้านอาหารในจังหวัดน่าน ให้เตรียมช้อนกลางไว้ให้ผู้บริโภค ตลอดจนห้องน้ำและสถานที่ล้างมือต้องสะอาดควบคู่กันไปด้วย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook