กษิตไม่จ้องฆ่าแม้ว รับเอกสารลับจริง

กษิต รับเอกสารลับที่ จตุพร เอามาปูด เป็นของ ก.ต่างประเทศจริง แต่เป็นแค่การสรุปเรื่อง ยันไม่มีความคิด หรือความพยายามทำร้าย ทักษิณ ชี้ถือเป็นเรื่องเลวร้าย ที่เอาเรื่องระหว่างประเทศมาเล่นเกมการเมืองในประเทศ ยันจะต่อสู้โดยยึดหลักความถูกต้อง ไม่สน ทักษิณ ประกาศสร้างบ้านพักในกัมพูชา ติดกับสถานทูตไทย

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 20 ธ.ค. ที่อิมแพค เมืองทองธานี นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ ได้มาร่วมในพิธีเปิดงานเมืองแห่งภูมิปัญญาไทย ( OTOP CITY 2009 ) และให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเอกสารลับว่า เอกสารลับเป็นเอกสารของกระทรวงการต่างประเทศจริง ซึ่งเป็นเอกสารที่สรุปเรื่องราวทั้งหมด แต่ไม่ได้มีความคิดหรือความพยายามที่จะทำร้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือประเทศกัมพูชา ตามที่มีการขยายผลอยู่ขณะนี้

ทั้งนี้ สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ก็พูดแล้วว่ารัก พ.ต.ท.ทักษิณ มากกว่าความสัมพันธ์ของไทย-กัมพูชา สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเลวร้าย ที่มีการเอาเรื่องระหว่างประเทศมาเป็นเกมการเมืองภายใน ซึ่งเราก็ต้องต่อสู้กันต่อไป ไม่ว่าจะเล่นเกมกันแค่ไหน โดยจะยึดหลักความถูกต้อง

นายกษิต กล่าวว่า ในส่วนเรื่องการเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น ก็ต้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาติดคุกก่อน ยืนยันไม่มีใครรังแกสมเด็จฮุนเซน และไม่มีใครบอกให้สมเด็จฮุนเซนตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษา แต่สมเด็จฮุนเซนแต่งตั้งเอง เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศจะสร้างบ้านพักในกัมพูชาติดกับสถานทูตไทย นายกษิต กล่าวว่า "จะสร้างที่ไหนก็สร้างไปเถอะ ไม่มีปัญหา"

เตช ให้เกรด กษิต เอลบ แนะขันติ-ใจเย็น

นายเตช บุนนาค อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในรายการเอ็กคลูชีฟ ทางสถานีข่าวเอฟเอ็ม 100.5 ถึงนโยบายการต่างประเทศไทยในปี 2553 ว่า มีความมั่นใจในกระทรวงการต่างประเทศภายใต้การนำของนายกษิต ภิรมย์ ว่ามีข้อมูลข้อเท็จจริงอยู่ในมือแล้วก็ทราบดีว่า จะต้องทำอะไรต่อไปเพื่อผลประโยชน์ ความมั่นคงของประเทศชาติ เป็นเรื่องนโยบายของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง มีรัฐสภาคอยตรวจสอบ มีรัฐธรรมนูญที่กระทรวงการต่างประเทศต้องไปชี้แจง

ส่วนเรื่องที่จะเน้นเป็นพิเศษถือส่งเสริมความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน ยืนยันถาวรเพราะไทยย้ายหนีเพื่อบ้านไม่ได้

"ความสัมพันธ์ไทย-พม่ามีท่าทีที่สร้างสรรค์ต่อเนื่อง มั่นใจรัฐบาลพม่าเร่งรัดให้จัดการเลือกตั้ง แต่เมื่อผลการเลือกตั้งออกมาแล้วก็ต้องติดตามต่อว่าจะเป็นอย่างไร ส่วนจะเปิดรับให้องค์กรหรือชาติใดเข้าสังเกตการณ์หรือไม่ ขึ้นอยู่กับรัฐบาลพม่าแต่ล่าสุดก็มีการตอบรับที่ดี ให้สหรัฐฯเข้าพบผู้บริหารประเทศได้" นายเตช กล่าว

ต่อข้อถามว่า หลายฝ่ายมองว่า องค์กรสิทธิ์มนุษยชนอาเซียน เป็นเหมือนเสือกระดาษหรือไม่ ที่จะพัฒนาเรื่องสิทธิมนุษยชนในอาเซียนโดยรวม นายเตช กล่าวว่า เขาไม่ชอบคำว่า เสือกระดาษเลย เพราะว่ามันไม่ตรงกับความเป็นจริง เพราะคณะกรรมาธิการชุดนี้ของอาเซียน ก็ไม่ได้เป็นทั้งเสือ ไม่ได้เป็นทั้งกระดาษ แต่เห็นว่า องค์การแบบนี้เป็นสิ่งที่ดีเสมอ แม้ว่าจะไม่สามารถบังคับให้พม่าหรือประเทศใดทำอะไร แต่ประเทศสมาชิกก็ต้องเคารพ ซึ่งเป็นแนวทางที่สร้างสรรค์

เมื่อถามว่า การดำเนินการของอาเซียนต้องเปลี่ยนแปลงจุดใดหรือไม่ ในภาวะที่มีแรงกดดันจากชาติตะวันตก อียู นายเตช กล่าวว่า เขาเองไม่ชอบที่จะถูกแรงกฎดันจากชาติตะวันตก ซึ่งช่วงเขาเองมีหน้าที่อยู่ ไม่เคยรับแรงกดดันจากตะวันตกเลย

ส่วนที่พม่ามีรายงานข่าวการขุดเจาะอุโมงค์ เพื่อทดลองอาวุธนิวเคลียร์โดยมีเกาหลีเหนือเป็นผู้สนับสนุนนั้น นายเตช กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องที่ประเทศตะวันตกมาเปิดเผย แต่เท่าที่ทราบยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่ามีอาวุธนิวเคลียร์จริง

ต่อข้อถามว่า เป็นการเสนอข่าวกันไปเองของประเทศตะวันตก นายเตช กล่าวว่า ก็นัยว่า ประเทศตะวันตกก็มีข่าวกรอง เครื่องมือมากมาย ก็เคยแจ้งว่า อิรักมีอาวุธร้ายแรง ทั้งที่ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบในอิรักก็บอกว่า ไม่มีแล้ว เมื่อบุกรุกเข้าไปก็ปรากฏว่า ไม่มีข่าวกรองของประเทศตะวันตก เกี่ยวกับเรื่องอะไรแบบนี้ จะเป็นที่น่าไว้วางใจแค่ไหนในส่วนที่เกี่ยวกับพม่า ซึ่งเขาก็อยากทราบ

สำหรับสถานภาพความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชาล่าสุดนั้น นายเตช กล่าวว่า เราคงไปโทษกัมพูชาฝ่ายเดียวคงไม่ได้ เพราะว่าคนไทยเรากันเองก็เป็นฝ่ายที่ไปดึงเขาเข้ามา เพราะฉะนั้น เราก็คงแก้ปัญหานี้ด้วยการแก้ปัญหาภายในของเราเองควบคู่กันไปด้วย

"ผมเห็นว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าเศร้า ขณะเดียวกัน ไทยก็ต้องโน้มแน้วให้กัมพูชาเห็นประโยชน์แล้วก็เห็นในเจตนารมณ์ของสมาคมอาเซียนให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ซึ่งผมพูดอยู่ตลอดเวลาว่า มีความปรารถนาด้วยความจริงใจที่จะให้ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาเป็นความสัมพันธ์แห่งมิตรภาพเป็นความสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์ แต่ก็คงต้องใช้เวลา"

เมื่อถามว่า ล่าสุดนายกรัฐมนตรีฮุนเซนของกัมพูชาประกาศไม่ร่วมงานกับรัฐบาลชุดนี้รอรัฐบาลหน้า นายเตช กล่าวว่า ต้องดูว่าต่อไปจะเป็นอย่างไร

เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีฮุนเซน บอกว่า ทำงานด้วยความลำบากกับนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทยคนปัจจุบัน นายเตช กล่าวว่า ก็ต้องทำงานร่วมกันต่อไป เพราะกัมพูชาก็ยังคงเป็นสมาชิกอาเซียน

สำหรับล่าสุดที่ นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.เพื่อไทย นำเอกสารลับราชการแผนประเมินสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ออกเผยแพร่ นายเตช กล่าวว่า เอกสารทางราชการชิ้นนี้ ซึ่งคาดว่า น่าจะอยู่ในระดับลับมากหรือลับที่สุด ไม่น่าจะถูกนำออกมาตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ประจำวัน

"ไม่เป็นสิ่งที่ถูกต้องแน่นอน ซึ่งข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศต้องระมัดระวังการทำงาน ไม่ให้เอกสารทางการราชหลุดออกไปได้"

ส่วนเรื่องนี้จะกระทบความสัมพันธ์ไทยกัมพูชาให้ร้าวลึกลงไปกว่านี้อีกหรือไม่ นายเตช กล่าวว่า ความสัมพันธ์คงไม่ดีไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว แต่ก็แน่นอน เอกสารฉบับนี้ ก็ไม่น่าจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ที่ร้ายแรง ก็คือว่า ทำให้รัฐบาลกัมพูชาทราบท่าทีของรัฐบาลไทยชุดปัจจุบันได้หมด ซึ่งก็ถือว่า ไม่ถูกต้องอีก

เมื่อถามว่า มองว่า ปัญหาไทย-กัมพูชา จะเข้าสู่โต๊ะเจรจาแล้วจบได้หรือไม่ นายเตช กล่าวว่า ต้องอดทนและดูว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไปต้องใจเย็น ๆ

นายเตช กล่าวด้วยว่า เป็นเรื่องดี ที่หลังจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเยือนไทยไทยแล้ว มีความร่วมมือที่ดีช่วยแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งนี้ มองว่า แนวทางของ กอส.ที่มีนายอานันท์ ปันยารชุน เป็นประธาน เป็นทางที่ดีให้อิสระแก่ชุมชนทำให้ปัญหาคลี่คลายได้อย่างแท้จริง แต่ก่อนอื่นต้องมีการพัฒนาขั้นพื้นฐานให้เข้มแข็งก่อน เพราะตอนนี้ก็มี อบต. อบจ. ที่ให้อิสระดูแลอยู่แล้ว

ส่วนปัญหาความมั่นคง หลังไทยจับขบวนการขนอาวุธข้ามชาติไทยจะตกเป็นเป้าจากกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติหรือไม่ นายเตช เชื่อว่า ไทยไม่ตกเป็นเป้าจากลุ่มอาชญากรข้ามชาติเพิ่มขึ้นจากที่ตกเป็นเป้าอยู่แล้ว

"เราเป็นสมาชิกประชาคมโลกที่ดี เราร่วมมือกันระงับการขนส่งอาวุธสงครามร้ายแรง"

เมื่อถามว่า ถ้าจะต้องให้เกรดรัฐมนตรีกษิต จะให้เกรดเท่าไหร นายเตช กล่าวว่า รัฐมนตรีกษิตกับเขา เข้ารับราชการในปีเดียวกัน และเป็นเพื่อนรักกันมาตลอด เพราะฉะนั้น เขาจะให้เกรดอะไร ก็อาจถูกต่อว่า ว่าให้เกรดสูง ๆ ดังนั้น จะขอให้ เกรด เอ ลบแล้วกัน

"ขอให้ท่านทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองต่อไปแล้วก็ให้ใช้ความอดทนใจเย็น รักษาขันติไว้มากมาก ส่วนปีใหม่นี้จะไปพักผ่อนที่บ้านพักในต่างจังหวัด"