อุทธรณ์ยกคำร้องบังคับคดี''ทีพีไอ''
ภายหลังศาลยกคำร้อง ผู้รับมอบอำนาจ บมจ.ทีพีไอ ฯ กล่าวว่า เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งไม่ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้ว ตามกฎหมายยังใช้สิทธิยื่นฎีกาได้ต่อไป ส่วนศาลจะมีคำสั่งอย่างไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเราใช้ช่องทางตามกฎหมายที่มีอยู่เพราะเห็นว่าการบังคับคดีต้องรอให้คดีหลักถึงที่สุดก่อน โดยก่อนหน้านี้ บมจ.ทีพีไอ ได้ยื่นอุทธรณ์ขอให้งดการบังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าคดีจะถึงที่สุดแล้ว แต่ศาลอุทธรณ์ก็มีคำสั่งยกคำร้องและให้การบังคับคดีเป็นไปกระบวนการศาลชั้นต้น
อย่างไรก็ดี เกี่ยวกับการไต่สวนเพื่อสืบหาทรัพย์สินการบังคับคดีนี้ ยังต้องรออัยการโจทก์ ไต่สวนสืบหาทรัพย์ของบริษัท สเติร์น สจ๊วต (ประเทศไทย) จำกัด (มหา ชน) จำเลยคดีเดียวกันนี้ ซึ่งศาลสั่งปรับเงิน 6,900,300,000 บาทเช่นเดียวกัน โดยศาลชั้นต้น นัดพร้อมคู่ความและไต่สวนสืบหาทรัพย์สิน บมจ.สเติร์น ในวันที่ 22 ก.พ. 53 เวลา 09.00 น.
สำหรับคดีปั่นหุ้น ทีพีไอ นั้น ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้จำคุกนายประชัย เลี่ยว ไพรัตน์ ประธานผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บมจ.ทีพีไอโพลีน และนายเชียรช่วง กัลยาณมิตร กรรมการบริหาร บริษัท สเติร์น สจ๊วตฯ คนละ 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา พร้อมสั่งปรับ 2 บริษัทดังกล่าวรายละ 6,900,300,000 บาท โดยคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์.