สาวขายบ้านไม่ออก อึ้ง เพื่อนบ้านใช้เป็นที่เก็บของ คู่กรณียอมรับผิด คิดว่าเขาจะมีน้ำใจ

สาวขายบ้านไม่ออก อึ้ง เพื่อนบ้านใช้เป็นที่เก็บของ คู่กรณียอมรับผิด คิดว่าเขาจะมีน้ำใจ

สาวขายบ้านไม่ออก อึ้ง เพื่อนบ้านใช้เป็นที่เก็บของ คู่กรณียอมรับผิด คิดว่าเขาจะมีน้ำใจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สาวขายบ้านไม่ออก มาดูพบว่าเพื่อนบ้านเอาของเข้ามาวางไว้เต็มบ้าน คู่กรณียอมรับผิด อ้างอยู่กันแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย คิดว่าเขาจะมีน้ำใจ

จากกรณีโลกโซเชียล แชร์คลิปเจ้าของบ้านที่ประกาศขายบ้านมากว่าครึ่งปี แต่ก็ยังไม่มีลูกค้ารายใดสนใจติดต่อมาซื้อ พอมีผู้สนใจจะซื้อและพามาชมบ้าน ถึงกับตกใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นว่าทั้งหน้าบ้านและในโรงรถ มีกล่องใส่ของขนาดใหญ่ จำนวนนับสิบๆ ใบ สุมกองกันอยู่ ทำเอาผู้ที่จะมาซื้อบ้านถึงกับส่ายหน้า กลัวปัญหาที่จะตามมาถ้าหากซื้อ ถึงกับต้องถอยกลับไปตั้งหลักใหม่

เมื่อเวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังหมู่บ้านที่มีปัญหา ตำบลบ้านใหม่ อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี พบเป็นทาวน์เฮาส์ชั้นเดียว เนื้อที่ประมาณ 25 ตารางวา มี นางสาววิไลลักษณ์ อายุ 42 ปี เจ้าของบ้าน และนางสาวกี้ เลขา ร่วมกันเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า บ้านหลังดังกล่าว ตนเองติดป้ายประกาศขาย ในราคาที่ต่ำกว่าทุนมากว่าครึ่งปี แต่ก็ยังขายไม่ได้สักที จนมีการลดราคาแบบสะบั้นหั่นแหลกเหลือไม่ถึงล้าน

ต่อมามีคนสนใจซื้อ ตนจึงพาไปชมบ้าน แต่ต้องตกใจและแปลกใจเป็นอย่างมาก เมื่อพบว่าทั้งหน้าบ้านและโรงรถในบ้าน มีกล่องกระดาษขนาดใหญ่จำนวนหลาย 10 ใบ กองสุมกันอยู่ อีกทั้งหน้าบ้านยังมีรถจักรยานยนต์จอดขวางทางปิดกั้นบริเวณทางเข้าบ้าน จึงได้หยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายคลิปและนำไปแชร์ในโลกโซเชียล ให้เห็นถึงความมักง่ายของเพื่อนบ้านที่ถือวิสาสะนำของมากองทิ้งไว้อย่างที่เห็น ทั้งที่ก่อนหน้าเคยพูดคุยและบอกกล่าวไปแล้ว แต่ก็ไม่เคยได้รับความร่วมมือจากเพื่อนบ้านแม้แต่น้อย

 

ทางด้าน น.ส.ปลา อายุ 48 ปี เพื่อนบ้าน (คู่กรณี) กล่าวว่า เมื่อวานรถมาส่งของฝนตกแบบนี้ตนเลยขอใช้พื้นที่เอาของไปวาง ขอเคลียร์ของในบ้านเพราะบ้านตนคนเยอะ จังหวะเพื่อนบ้านเขาเอาคนมาดูบ้าน ตนได้ยินเสียงดังเลยรีบออกมาดูและขอโทษเพื่อนบ้าน เพราะตนรู้ตัวว่าผิด ผ้าขี้ริ้วและกระบะแมวไม่ใช่ของตน แต่ราวผ้าเป็นของตน ตนเอาของไปหลบฝนเพราะกลัวจะเสียหาย ตนกู้เงินมา 300,000 บาท และจะให้ตนทิ้งเลยหรือ แต่ตนไม่เอาเหตุผลไปคุยกับเขาเพราะรู้ว่าตัวเองผิด เพื่อนบ้านก็บอกว่าถ้าเอาของมาวางแบบนี้อีกจะเอารถขยะมาเก็บ ตนไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องราวแบบนี้ 

เขาบอกว่าบ้านตนจอดรถเกิน ซึ่งมันต้องเกินอยู่แล้วเพราะบ้านชั้นเดียว บ้านหลังนี้ก่อนหน้านี้โดนยึด ตอนแรกไม่มีน้ำไฟใช้ก็มาขอใช้น้ำใช้ไฟบ้านตน จะติดรางน้ำตนก็บอกเดินผ่านบ้านตนได้นะ เราอยู่แบบถ้อยทีถ้อยอาศัย ไม่คิดว่าเขาจะมาเอาเป็นเอาตายแบบนี้กับตน เขาไม่ผิดหรอก เพราะเขาต้องการขายบ้านแบบสมบูรณ์แบบ มันเลยกลายเป็นว่าเขาสามารถด่าตนได้เต็มปากเต็มคำ แต่ขอโทษไปแล้วไม่ให้อภัยกันเลยหรือ เราไม่ได้ไปทำบ้านเขาเสียหาย รับผิดคนเดียว ทั้งที่กระบะทรายแมวไม่ใช่ของเรา เพื่อนบ้านหลายหลังเราเทคแคร์กันได้ก็ช่วยกันถ้อยทีถ้อยอาศัยไป ก็ขอจบแค่นี้ จะด่าหรือลงเฟซประจานก็เชิญ ถ้าคิดจะทำแล้วสบายใจก็ทำ ขอโทษไปแล้วไม่คิดจะมีน้ำใจบ้างหรือ

เขาขายบ้าน ถ้ามีคนมาซื้อแล้วตนรังเกียจและไปพูดไม่ดี เขาอาจจะไม่ซื้อก็ได้ กลับกันถ้าตนพูดจาดีเชิญชวนเขามาอยู่เป็นเพื่อนบ้านกันก็ดีกว่า ซอยอื่นมีปัญหาแต่ซอยนี้ไม่เคยมีปัญหา ตนอยู่ตรงนี้มา 15 ปี ไม่เคยทะเลาะกับใคร ขอพูดต่อหน้าสื่อว่าขอโทษอีกครั้ง ตนคิดว่ามีน้ำใจกับเขาและคิดว่าเขาจะมีน้ำใจกลับมา แต่มันผิดที่ไปก้าวก่ายบ้านเขา แต่ขอโทษแล้วทำไมต้องเป็นข่าว หรืออยากประจานแล้วมีความสุขก็เชิญ จะไม่ฟ้องไม่อะไรทั้งนั้น ขอจบทุกอย่าง มีคนโทรมาบอกให้ฟ้อง ตนก็ไม่ทำเพราะรู้ว่าตัวเองผิด

นายตู่ อายุ 45 ปี เพื่อนบ้าน กล่าวว่า เมื่อวานฝนมันตกและของกองอยู่ตรงนี้ เขาเลยขอเก็บหลบฝนหน่อยนึงในบ้าน มีราวตากผ้า และพวกกล่องใส่ของเพราะรั้วบ้านเขาเปิดได้ เราก็คิดว่าบ้านใกล้เรือนเคียงเลยขอวางไว้ก่อน ประมาณ 10 กว่ากล่อง ตนกะว่าถ้าฝนหยุดแล้วจะขนออกไม่ได้วางค้างคืน เพื่อนบ้านมาถึงเขาก็โวยวาย ตรงนี้ที่มันแคบ เราก็ไม่ได้จะเห็นแก่ตัวนะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook