ผกก.ชนะสงครามรับลูกน้องอ้วนเครียดยิงเมีย

ผกก.ชนะสงครามรับลูกน้องอ้วนเครียดยิงเมีย

ผกก.ชนะสงครามรับลูกน้องอ้วนเครียดยิงเมีย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผกก.ชนะสงคราม ยอมรับลูกน้องเครียดมานานจนก่อเหตุยิงเมียเจ็บ ให้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลก่อน จนกว่าจะหายป่วย ด้าน "ผู้การ1" สั่งตั้งกรรมการสอบวินัย "สว.จร.ปืนโหด" ไม่ยุ่งคดีอาญาปล่อยท้องที่เกิดเหตุดำเนินคดีไปตามกฎหมาย

วันที่ 6 ม.ค. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1) กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.พัลลภ แก้วต่าย สารวัตรจราจร สน.ชนะสงครามใช้อาวุธปืนยิงภรรยาของตัวเองว่า พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. มีคำสั่งให้พ.ต.ท.พัลลภมาช่วยราชการที่ บก.อก.บช.น. เป็นเวลา 90 วันแล้ว และในส่วนของกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 ต้นสังกัดนั้นมอบหมายให้ พ.ต.อ.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล รอง ผบก.น.1 ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงทางวินัย ส่วนทางคดีอาญานั้นให้พื้นที่เกิดเหตุ จ.ปทุมธานี เป็นผู้ดำเนินการสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

พ.ต.อ.ขิง แขวงวิเศษชัยชาญ ผกก.สน.ชนะสงคราม ผู้บังคับบัญชาโดยตรงของ พ.ต.ท.พัลลภกล่าวว่า พ.ต.ท.พัลลภ และภรรยาอยู่ระหว่างพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯซึ่งอาการของภรรยาขณะ นี้ทราบว่าปลอดภัยแล้ว ส่วนอาการ ของ สว.จร.นั้นยังคงเครียดอยู่โดยในช่วงบ่ายจะเดินทางไปเยี่ยมที่ผ่านมาทราบ เบื้องต้นว่า ลูกน้องป่วยเป็นโรคเครียดมานานแล้ว และเคยมีอาการลักษณะนี้ มาก่อนหน้า ที่ก่อเหตุ ในฐานะ ผู้บังคับบัญชา คงจะให้รักษาตัวจนกว่าจะหายป่วย และสามารถมาปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติ

ทั้งนี้พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ลงนามคำสั่ง บช.น.ที่ 2/2553 ให้ พ.ต.ท.พัลลภ แก้วต่าย สารวัตรจราจร สน.ชนะสงคราม มาช่วยราชการที่กองบังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล มีกำหนด 90 วัน มีผลตั้งแต่วันนี้ ( 6 ม.ค.)เป็นต้นไป โดยคำสั่งดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจาก เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พ.ต.พัลลภ เกิดบันดาลโทสะใช้อาวุธปืนคู่กายยิง ร.อ.หญิงรัตนพร แก้วต่าย ภรรยาของตนเองได้รับบาดเจ็บที่ไหล่ซ้ายกระสุนฝัง เหตุเกิดบริเวณปากทางเข้าหมุ่บ้านสิวลีราชพฤกษ์ ต.มหาสวัสดิ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี มีสาเหตุจากอาการเครียดจากการกินยาลดความอ้วน

ผบช.น.ระบุรายละเอียดในคำสั่งว่า ด้วย บช.น.ได้พิจารณาเห็นว่า มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการปรับเปลี่ยนการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ ในสังกัดเพื่อปรับปรุงการบริหารงานบุคคลในภาพรวมของหน่วยงาน อาศัยอำนาจตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า ด้วยการสั่งการให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการภายใน สตช.พ.ศ.2552 ประกอบด้วย พ.ร.ก.ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ.2526 และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตี ว่าด้วยการอนุมัติให้เดินทางไปราชการและการจัดการประชุมของทางราชการ พ.ศ.2524 ข้อ 11( 4 ) จึงให้ พ.ต.ท.พัลลภ ไปปฏิบัติราชการที่ กองบังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล มีกำหนด 90 วันตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค.เป็นต้นไปหรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

สำหรับเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 6 ม.ค. ร.ต.อ.บรรจง หนูหวา ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีเหตุรถตกลงไปข้างทางบริเวณโค้งสะพานดำ ถนนปทุมธานี-นนทบุรี ม.10 ต.บางคูวัดและมีเสียงอาวุธปืนดังขึ้นประกอบกับมีเสียงผู้หญิงร้องขอความช่วย เหลือ แต่ถูกชายแต่งชุดตำรวจถืออาวุธปืนขู่ไม่ให้ใครเข้าไปช่วยเหลือ จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถเก๋งออดี้สีเขียว ทะเบียน ษธ 4869 กรุงเทพ ตกลงไปข้างทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามช่วยพูดกับนายตำรวจให้ช่วยนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาล แต่ก็ไม่ยอมจนกระทั่งเวลาผ่านไป 20 นาที นายตำรวจจึงยอมให้ลงไปช่วยนำหญิงคนเจ็บขึ้นมาส่ง รพ.ปทุมธานี ทราบชื่อต่อมาคือ ร.อ.หญิงรัตนพร ภรรยาของผู้ก่อเหตุนั่นเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้เกิดคำวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างเซ็งแซ่ในบรรดา ข้าราชการตำรวจนครบาลและสื่อมวลชนว่า เป็นผลพวงจากคำสั่งของ พล.ต.ท. สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. ที่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาลทุกหน่วยสามารถ พกพาอาวุธปืนได้เพื่อใช้ป้องกันตัวและจับกุมคนร้าย ตั้งแต่ระดับ ผกก.จนถึงชั้นประทวน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบางนายเหิมเกริมและกร่างมากขึ้น จนหลายครั้งขาดสติไม่สามารถควบคุมวุฒิภาวะทางอารมณ์ได้เกิดบันดาลโทสะชัก อาวุธปืนยิงใส่ชาวบ้าน ยิงขึ้นฟ้าข่มขู่และยิงผู้บังคับบัญชาเสียชีวิตมาแล้วหลายราย อาทิ

กรณีของ พ.ต.ท.วีรากร ไวยวุฒิ รอง ผกก.สน.บางยี่ขัน อดีตนายเวร พล.ต.ท.วรรณรัตน์ คชรักษ์ อดีต ผบช.น. เมื่อ 4 ปีก่อนก็ถูกลูกน้องซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่สายสืบชั้นประทวน บันดาลโทสะชักอาวุธปืนคู่กายกระหน่ำยิงใส่ตายคาที่หน้าโรงพักบางยี่ขัน ส่วนอีกรายสารวัตรสืบสวน สน.ดินแดง ถูกลูกน้องฝ่ายสืบสวนใช้ปืนยิงจ่อหัวในระยะเผาขนในห้องทำงาน ขณะกำลังโต้เถียงกัน กระทั่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาลสมัยนั้นสั่งห้ามเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไท่ เกี่ยวข้องกับงานสืบสวนพกปืนอย่างเด็ดขาด จนล่าสุดในยุคของ พล.ต.ท.สัณฐาน ได้เปลี่ยนแปลงคำสั่งให้ตำรวจนครบาลพกปืนได้อย่างเปิดเผย และเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอย่างน่าสลดใจในวงการสีกากี

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook