พท.โคราชปลดป้ายภาพทักษิณลงแล้ว

พท.โคราชปลดป้ายภาพทักษิณลงแล้ว

พท.โคราชปลดป้ายภาพทักษิณลงแล้ว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เพื่อไทยโคราชปลดป้ายภาพ ทักษิณ อวยพรปีใหม่และมีข้อความโจมตีรัฐบาลลง หลังถูกมือดีนำหนังสติ๊กยิงใส่ภาพใบหน้าหลายหน "การเมืองใหม่" เชื่อ "ทักษิณ" เปิด 3 แนวรบสกัดตัดสินคดี 7.6 หมื่นล้าน แนะรัฐบาลป้องกันเสื้อแดงป่วนเมือง

(17ม.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ได้มีคนงานจำนวนหนึ่งเร่งเปลี่ยนป้ายที่มีรูปภาพพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และข้อความอวยพรปีใหม่ถึงชาวโคราช ที่พร้อมจะกลับมาแก้ไขปัญหา โดยป้ายนี้ได้ถูกติดตั้งอยู่บริเวณหน้าอาคารเชิดชัย สี่แยกบัวรอง ถ.จอมสุรางค์ยาตร์ ตัดกับ ถ.บัวรอง เขตเทศบาลนครนครราชสีมา โดยเปลี่ยนเป็นป้ายที่มีข้อความพรรคเพื่อไทย สาขา จ.นครราชสีมาแทน

ป้ายรูปภาพพ.ต.ท.ทักษิณนั้น หลังจากที่มีการนำมาติดตั้งในช่วงวันที่ 20 ธค.52 ที่ผ่านมา ได้มีกระแสวิพากษ์ วิจารณ์ในเขตเมืองนครราชสีมากันอย่างกว้างขวาง แม้นจะเป็นสิทธิของเจ้าของสถานที่ คือ นางสุจินดา เชิดชัย หรือ เจ้เกียว เจ้าของรถทัวร์ประเทศไทย ผู้เป็นแม่นายอัสนี เชิดชัย ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย มีความเหมาะสมมากน้อยเพียงใด และเป็นต้นเหตุให้เกิดความขัดแย้งของสังคมไทย และเพื่อนบ้านอย่างประเทศกัมพูชา

ทำให้เครื่อข่ายพันธมิตรโคราช เดินขบวนเรียกร้องให้ปลดป้าย และยังมีมือดีนำหนังยาง ( หนังสติ๊ก ) แอบยิงหลายครั้งและจุ่มสีแดงอีก ทำให้มีสีแดงที่บริเวณรูปภาพพ.ต.ท.ทักษิณ แต่ป้ายก็ไม่ได้เสียหายมากนัก เนื่องจากเป็นแผ่นป้ายไวนิ่ว จนกระทั่งมีการเปลี่ยนป้ายเพื่อลดกระแสความขัดแย้งลง

"การเมืองใหม่"หนุน"อภิสิทธิ์"ค้านมติก.ตร.

ที่พรรคการเมืองใหม่ นายสำราญ รอดเพชร โฆษกพรรคการเมืองใหม่ กล่าวถึงกรณีที่มติของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.)ที่ให้นายพลตำรวจกลับเข้ารับราชการว่า ทางพรรคการเมืองใหม่ ขอยืนยันไม่เห็นด้วยกับ เพราะเห็นว่า สวนทางกับมติของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งผลการยืนยันมติ ก . ตร.ครั้งที่ 2 ย่อมเป็นการช่วยเหลือนายตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุม พรรคเชื่อว่ามีพลังแฝงทางการเมืองที่ต้องการทำลายความน่าเชื่อถือ เพื่อทดสอบพลังของฝ่ายนายกรัฐมนตรี ในการดำเนินการแต่งตั้ง ผบ . ตร . โดยฉวยโอกาสสถานการณ์ที่รัฐบาลกำลังถูกชุมนุมขับไล่มาเป็นจังหวะต่อรอง เรื่องนี้อาจกลายเป็นประเด็นทางการเมืองในพรรคร่วมรัฐบาลได้

ด้านนาย สุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ กล่าวว่า ต้องชื่นชมความเห็นของนายกรัฐมนตรีที่เห็นว่า กตร.มีมติเช่นนี้ไม่ได้ เนื่องจากที่ผ่านมาตั้งแต่มีรัฐธรรมนูญยังไม่มีผู้นำฝ่ายบริหารให้ความเคารพกับองค์องค์อิสระตามรัฐธรรมนูญ เพราะเรื่องดังกล่าวถือเป็นหัวใจของการปฏิรูปการเมือง ดังนั้นจึงขอตั้งข้อสังเกตท่าทีของนายสุเทพ โดยขอถามไปยังพรรคประชาธิปัตย์ว่า บทบาทของนายสุเทพในเรื่องนี้เข้าข่ายละเมิดกฎเหล็ก 9 ข้อเองใช่หรือไม่ ทางพรรคประขาธิปัตย์จะอธิบายสังคมอย่างไร ถือเป็นการท้าทายกฎเหล็กของคนในพรรค โดยเฉพาะจากคนที่นายกรัฐมนตรีไว้วางใจที่สุด

เชื่อ"ทักษิณ"เปิด3แนวรบสกัดตัดสินคดี 7.6 หมื่นล้าน

นายสำราญกล่าวประเมินการเคลื่อนไหวกลุ่มคนเสื้อแดงว่า พรรคการเมืองใหม่ได้ติดตามวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองขณะนี้ โดยมองว่า แนวโน้มรวมขบวนการของคนเสื้อแดงจะแผ่วลง เนื่องจากเกิดความแตกแยกในกลุ่มสูง แต่สถานการณ์การเมืองในวันที่ศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะมีมติในคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำนวน 7.6 หมื่นล้านบาท พรรคการเมืองใหม่ เชื่อว่า พ.ต.ท. ทักษิณ จะตัดสินใจสู้ โดยใช้แนวร่วม 3 ทิศทางมาใช้ โดยเปิดแนวรบในสภา ด้วยการอภิปรายไม่ไว้วางใจและการดึงเสียงพรรคร่วมรัฐบาล และแนวรบนอกสภา โดยการชุมนุมใหญ่ตลอดถึงการป่วนบ้านป่วนเมืองให้เกิดจลาจล นอกจากนี้จะใช้แนวรบต่างประเทศ โดยใช้กัมพูชาเป็นฐานบัญชาการ โดยใช้สื่อต่างของต่างประเทศกระจายข่าว อย่างไรก็ตามพรรคยังเชื่อว่า แนวรบในสภาและการชุมนุมนอกสภายังไม่สามารถบีบให้รัฐบาลยุบสภาได้ ดังนั้นสิ่งที่น่าเป็นห่วงมาก จะเป็นการสร้างสถานการณ์ การก่อวินาศกรรมให้เกิดการบาดเจ็บล้มตาย เพื่อนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงบีบให้รัฐบาลยุบสภา

"ผมรู้จักหน่วยข่าวกรองหลายหน่วยแต่ละหน่วยได้ประเมินตรงกันว่า ตัวเลขคนเสื้อแดงมีตัวเลขผู้ชุมนุมแค่ห้าหมื่นคน ไม่ถึงหนึ่งล้านคน ดูแล้วโอกาสที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และคนเสื้อแดงจะมีโอกาสชนะน้อยมาก แต่ตราบใดที่เงินยังมีอิทธิพลต่อความเคลื่อนไหวสถานการณ์ก็ย้งน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะกองกำลังที่อยู่นอกเหนือความควบคุมที่จะไปก่อวินาศกรรม " นายสำราญ กล่าวและว่า พรรคขอเสนอให้รัฐบาลใช้สื่อของรัฐนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องให้มากที่สุด โดยหยุดสร้างเงื่อนไขในเชิงลบทุกประการ โดยเฉพาะการทุจริตคอรัปชั่นและการใช้อำนาจหน้าที่ที่ผิดพลาด รัฐบาลต้องกล้าหาญที่จะดำเนินการตามกฎหมายกับแกนนำการเคลื่อนไหวที่ผิดกฎหมาย รวมถึงควรกำหนดมาตรการที่เข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยด้วย

ชี้ปรับครม."อภิสิทธิ์2"ทำภาพนายกฯหลักลอยชัด

นายสำราญ แถลงข่า ถึงการปรับคณะรัฐมนตรี 5 ตำแหน่งว่า การปรับคณะรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ 2 นายกรัฐมนตรีได้พยายามยกระดับสภาวะผู้นำด้วยการพิทักษ์ตามกฎเหล็ก 9 ข้อ ได้อย่างน่าชื่นชม พรรคการเมืองใหม่มองว่า การปรับ ค.ร.ม. 3 ตำแหน่ง ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ค่อนข้างลงตัว ส่วนอีก 2 ตำแหน่งของพรรคภูมิใจไทยนั้น ทางพรรคภูมิใจไทย นอกจากไม่ให้เกียรตินายกรัฐมนตรีแล้ว ยังเป็นการดูถูกประชาชนคนที่เสียภาษี เพราะนาง พรรณสิริ กุลนาถสิริ รมช . สาธารณสุข เป็นน้องสาวของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มมัชฌิมา ขาดความรู้ประสบการณ์การณ์ในงานที่รับผิดชอบ ขณะที่นายสุชาติ โชคชัยวัฒนายากร รมช . คมนาคม ถือเป็นการตอบแทนเป็นโควตาทางการเมืองได้ดูแลลงทุนลงแรง การเลือกตั้งซ่อมที่มหาสารคามเมื่อเร็วๆ นี้ ย่อมเป็นการตอบแทนในทางการเมือง

" นายกฯต้องการแสดงภาวะผู้นำและยึดกฎเหล็ก 9 ข้อ ในการเข้าออกของรัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาล การปรับรัฐมนตรีครั้งนี้ สาเหตุมาจากการเปลี่ยนตัว รมว.และรมช.สาธารณสุข ที่มีการทุจริตโครงการไทยเข้มแข็ง การปรับ ครม. รัฐบาลอภิสิทธิ์ 2 จำนวน 5 ตำแหน่งในครั้งนี้ มองได้ว่า ทางพรรคร่วมรัฐบาลได้ทำให้ฉายาหล่อหลักลอยของนายกรัฐมนตรี โดดเด่นชัดเจนขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง " นายสำราญ กล่าว

ด้านนายสุริยะใส กล่าวว่า คิดว่า การปรับ ค.ร.ม.ครั้งนี้ ไม่ใช่การปรับจริง เป็นเพียงการแก้ไขปัญหาการเมืองในพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อรักษาระบบโควตา เพราะประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไร ถ้าต้องการให้เกิดประโยชน์กับประชาชน รัฐบาลควรหาโอกาสปรับ ค.ร.ม.ครั้งใหญ่หมด โดยมุ่งให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน

จี้พรรคร่วมรัฐบาลแสดงจุดยืนแก้รธน.2ประเด็น

นายสุริยะใส ล่าวถึงกรณีที่พรรคร่วมรัฐบาล โดยพรรคชาติไทยพัฒนา เตรียมเสนอญัตติเพื่อขอแก้รัฐธรรมนูญใน 2 ประเด็นว่า อยากถามนาย บรรหาร ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา มีหลักประกันใดในการเสนอญัตติแก้รัฐธรรมนูญเข้าสภาไว้อย่างไร เพื่อจะไม่ได้ถูกวางยาในการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถ้ามีการแก้มากกว่า 2 ประเด็น ไม่ใช่แค่ตรา190 และมาตรา165

"ผมอยากจะขอหลักประกัน ถ้ามีการสอดไส้ ขอแก้มาตรา237 และ 309 เชื่อว่า พรรคเพื่อไทยจะเข้าร่วมในโค้งสุดท้ายแน่นอน พรรคการเมืองไม่ควรคิดถึงประโยชน์ของตัวเองมากไปกว่าประโยชน์ของประชาชน ถ้าแก้แล้วเป็นประโยชน์ต่อประชาชนก็ขอสนับสนุน " นายสุริยะใส กล่าวและว่า การที่ฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลขึ้นในช่วงของการเปิดสมัยประชุม พรรคการเมืองใหม่ มองว่า ที่ผ่านมาประชาชนเริ่มเบื่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เนื่องจากที่ผ่านมาฝ่ายค้านเคยยื่นอภิปรายแต่ไม่มีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ สุดท้ายประชาชนจะสิ้นหวังกับระบบรัฐสภา ส่วนตัวอยากให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นไปอย่างสร้างสรรค์โดยสามารถแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้

ขณะที่นายสำราญ รกล่าวว่า เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากจะให้มีความชัดเจนนั้น ทางพรรคร่วมรัฐบาลน่าจะออกมาแถลงข่าวร่วมกันว่า จะมีการแก้เพียง 2 ประเด็นเท่านั้น ถ้ามีการร่วมแถลงอย่างเป็นทางการ เชื่อว่าสังคมจะเข้าใจได้

เมื่อถามว่า มีส.ส.พรรคเพื่อไทยจะเดินทางไปพบพ.ต.ท. ทักษิณเพื่อ ติวเข้มการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายสำราญ กล่าวว่า ตนมองว่าเรื่องนี้เป็นเพียงการเคลื่อนไหวทางการเมืองเท่านั้น โดยการเดินทางไปคงเป็นการไปให้กำลังใจขอคำชี้แนะหรือขอปัจจัยบางอย่าง

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook