ชัยรัตน์ เผยแท็กซี่โกงมิเตอร์อาละวาดหนัก

อธิบดีกรมการขนส่งทางบกเผยแท็กซี่โกงมิเตอร์อาละวาดหนัก ขู่ขึ้นแบล็คลิสต์บริษัทเจ้าของรถ หากพบพนักงานทำผิดบ่อย

นายชัยรัตน์ สงวนชื่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า การสังเกตมิเตอร์ของรถให้บริการแท็กซี่นั้น ทุกคนควรที่จะช่วยกันสังเกต เพราะทางเจ้าหน้าที่อย่างเดียวคงจะไม่สังเกตเห็นได้ไม่ทั่วถึง แต่ผู้ใช้บริการเองจะเป็นผู้ที่สังเกตได้ง่ายว่ามิเตอร์มีการขึ้นผิดปกติหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาก็จะมีเรื่องร้องเรียนเข้ามาที่สายด่วน 1584 และทางเว็ปไซด์ของทางกรมการขนส่งเป็นระยะๆ

ทั้งนี้ เชื่อว่าตัวผู้ประกอบการเองคงไม่อยากที่จะทำแบบนั้น ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นจากตัวผู้ขับขี่ เพราะการกระทำแบบนี้จะมีโทษตามกฎหมาย และทางกรมการขนส่งจะทำแบล็คลิสต์ไว้ว่า หากบริษัทใดมีพนักงานทำผิดกฎบ่อยครั้ง ก็จะถือว่าผู้ประกอบการไม่ใส่ใจดูแล และจะทำการพิจารณาต่อการเพิ่มรถหรือออกรถใหม่ของบริษัทนั้นๆ

นายชัยรัตน์ กล่าวว่า ในเรื่องของการโกงมิเตอร์ หรือว่าการลักลอบปรับแต่งมิเตอร์นั้นผู้โดยสารเองควรที่จะช่วยทางเจ้าหน้าที่สังเกตและจับพิรุธด้วย ก็เพื่อผลประโยชน์ของตัวผู้โดยสารเอง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เองจะรีบเข้ามาตรวจสอบทันทีหลังได้รับแจ้งเพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่กรมการขนส่งกำลังเฝ้าจับตาและตรวจสอบอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้การโกงมิเตอร์ของผู้ขับขี่ให้บริการรถแท็กซี่นั้นมีเกิดขึ้นบ่อยครั้งจากจำนวนรถที่ให้บริการจำนวนประมาณ 60,000 คันเฉพาะในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล จะมีการร้องเรียนมาทางสายด่วน 1584 วันละ 5 - 6 ครั้ง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ขาดคุณธรรมของการประกอบอาชีพนี้ เพราะฉะนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการอบรมผู้ขับขี่รถสาธารณะเป็นพิเศษ หากมีการตรวจสอบพบการกระทำผิดในเรื่องดังกล่าวจริงก็จะมีการกำหนดโทษอย่างเด็ดขาด

ส่วนกรณีของการขอขึ้นค่าโดยสารของผู้ประกอบการรถโดยสารขณะนี้นั้น นายชัยรัตน์ ยืนยันว่าจะยังไม่มีการอนุญาตให้ขึ้นค่าโดยสารของรถทุกประเภท เพราะขณะนี้ยังอยู่ในเรื่องของการศึกษาต้นทุนว่ามีผลต่อการประกอบการมากน้อยแค่ไหน เพราะตอนนี้ต้นทุนการขนส่งไม่ได้อยู่ที่ค่าน้ำมันอย่างเดียว เนื่องจากรถโดยสารขณะนี้มีรูปแบบการใช้เชื้อเพลิงนอกเหนือจากน้ำมันเพียงอย่างเดียวเหมือนที่ผ่านมา ดังนั้นควรที่จะต้องเอาเรื่องนี้มาพิจารณาประกอบด้วย และขณะนี้ก็อยู่ในระหว่างการตรวจสอบรวมรวบข้อมูลเพื่อจะนำเรื่องนี้มาพิจารณาอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตามยืนยันว่าในช่วงนี้จะยังไม่มีการอนุญาตให้ปรับขึ้นราคาค่าโดยสารอย่างเด็ดขาด แต่ในอนาคตหลังจากนี้หากมีการตรวจสอบอย่างแน่ชัดแล้วพบว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกมีผลต่อการเพิ่มต้นทุนการขนส่งก็จำเป็นที่จะต้องอนุญาตให้มีการเพิ่มอัตราค่าโดยสารให้เหมาะสม