รวบนางโจรแสบ! สาดพริกป่น ใส่หน้า-กระชากสร้อยเหยื่อ

รวบนางโจรแสบ! สาดพริกป่น ใส่หน้า-กระชากสร้อยเหยื่อ

รวบนางโจรแสบ! สาดพริกป่น ใส่หน้า-กระชากสร้อยเหยื่อ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รวบนางโจรสุดแสบ สาดพริกป่นใส่หน้าแล้วกระชากสร้อยเหยื่อหนี แต่ไปไม่รอดชาวบ้าน-สายตรวจช่วยล้อมจับได้ทันควัน อ้างหาเงินเลี้ยงดูลูก

เมื่อเวลา11.20 น.วันที่ 17 ม.ค.ขณะที่ ด.ต.อมรรัตน์ พ้นภัย ผบ.หมู่สภ.เมืองเชียงใหม่ กำลังปฏิบัติหน้าที่สายตรวจในย่านร้านทองบริเวณตลาดโอ้วจินเอง อ.เมืองเชียงใหม่อยู่นั้น ได้ประสบเหตุพบชาวบ้านช่วยกันล้อมจับนางชวนชิต โมพันธ์ อายุ 33 ปี บ้านเดิมอยู่เลขที่ 143 หมู่2 ต.จารเหนือ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ผู้ต้องหาก่อเหตุกระชากสร้อยผู้เสียหายเอาไว้ได้อย่างทันควัน หลังควบคุมตัวรีบกันตัวนำส่ง พ.ต.ท.ชาญวิทย์ แต้ประจิต พนักงานสอบสวน ที่สภ.เมืองเชียงใหม่ในทันที เพื่อหลีกเลี่ยงพ่อค้าแม่ค้าที่เตรียมรุมเข้าประชาทัณฑ์นางชวนจิตในที่เกิดเหตุ

การจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้นางชวนชิต ผู้ต้องหาได้ใช้พริกป่นที่เตรียมมาสาดเข้าใส่ที่หน้าของนางสาวทราย ไม่ทาบนามสกุลอายุ 20 ปีสาวชาวไทยใหญ่ซึ่งเป็นพนักงานขายประจำร้านจำหน่ายเข็มขัดและกระเป๋าถืออยู่ในซอยข้างร้านทองโอ้วจินเอ็งใกล้กับคิวรถแม่แตง

สอบปากคำนางสาวทราย ผู้เสียหายให้การว่าตั้งแต่เวลา 08.30 น.วันนี้ นางชวนชิต ผู้ต้องหาได้ทำทีเข้ามาเลือกซื้อสินค้าภายในร้านและมีท่าทีพิรุธคือเลือกดูของอยู่นานมากเป็นเวลานานกว่า 1 ชั่วโมง เมื่อเห็นว่าทาทีไม่ค่อยน่าไว้วางใจจึงได้โทรศัพท์ตามเพื่อนอีกคนให้มาเฝ้าร้านเป็นเพื่อน โดยนางชวนชิต จึงตัดสินใจสั่งซื้อกระเป๋า 1 ใบและเข็มขัดอีก 10 กว่าเส้นแต่ยังไม่ยอมจ่ายเงิน แต่อ้างว่ารอเพื่อนที่กำลังเดินซื้อของให้มาจ่าย

เวลาผ่านไปนานร่วม 2 ชั่วโมงตนจึงบอกให้เพื่อนที่มาอยู่เฝ้าร้านด้วยกลับไป หลังจากลูกค้าที่มาซื้อของรายอื่นเดินออกจากร้านไปจนหมด และตนเองกำลังก้มลงเขียนบัญชีรายการสินค้าที่ลูกค้ารายล่าสุดซื้อไป นางชวนชิตได้เอ่ยปากเรียกตนว่า "น้อง ๆ" สิ้นประโยคดังกล่าวตนจึงได้เหลียวหันหน้าไปมองและรู้สึกว่ามีของแสบร้อนสาดเข้ามาใส่เต็มที่บริเวณใบหน้าและดวงตา

โดยนางชวนชิตยังได้พยายามเอื้อมมืออีกข้างมากระชากสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาทที่ตนสวมใส่อยู่ แต่เนื่องจากได้ระแวงและระวังตัวอยู่แล้วจึงได้พาตัววิ่งหนีออกมาและตะโกนเรียกร้องให้คนช่วย ชาวบ้านที่ได้ยินจึงพากันวิ่งไล่ตามและแจ้งตำรวจที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุช่วยกันจับกุมตัวนางชวนชิต คนร้ายรายดังกล่าวไว้ได้

ด.ต.อมรรัตน์ สายตรวจที่ประสบเหตุและจับกุมคนร้ายไว้ได้ กล่าวว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาจำนนด้วยหลักฐานจึงสารภาพว่าได้เตรียมพริกป่นใส่ถุงพลาสติกมาจากบ้านและขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีแดงไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาจอดรอไว้ที่ใกล้กับจุดที่เลือกลงมือ โดยจะนำพริกป่นใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อคลุมและเลือกลงมือกับเหยื่อที่สวมใส่สร้อยคอทองคำที่เป็นหญิงสาวซึ่งเฝ้าอยู่หน้าร้านเพียงลำพัง เมื่อสบโอกาสจะทำทีเข้าไปซื้อของพอได้ทีเหยื่อเผลอก็จะเรียกชื่อจากนั้นจะนำพริกป่นที่ย้ายมากำไว้ในมือสาดเข้าไปใส่ที่หน้าและถือโอกาสกระชากสร้อยวิ่งหลบหนีไป

จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหารายนี้พบว่าได้เคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันนี้มาแล้วในวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา โดยครั้งนั้นผู้เสียหายคือนางวรากูร เวทธรรม อายุ 46 ปี เป็นเจ้าของร้านขายเสื้อผ้าชื่อร้านมีมี ตั้งอยู่ตรงข้ามห้างริมปิงซูเปอร์สโตร์สาขานวรัฐ ต.ท่าสะต่อย อ.เมืองเชียงใหม่ ผู้เสียหายถูกคนร้ายใช้พริกป่นที่เตรียมใส่ถุงมาจากบ้านสาดเข้าหน้าก่อนถูกกระชากสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาทพร้อมพระเลี่ยมทองนางพญาไป 1 องค์ หลังก่อเหตุประมาณครึ่งชั่วโมงชั่วโคนร้ายได้นำพระไปจำนำที่ร้านทองย่านตลาดวโรรส ก่อนมาก่อเหตุซ้ำและถูกจับกุมตัวได้ในครั้งนี้

ด.ต.อมรรัตน์ กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาอ้างว่าก่อเหตุเพราะต้องการนำเงินไปใช้เลี้ยงดูลูกชายอายุ 7 ขวบซึ่งอยู่ที่ลำปาง แต่ยังให้การวกวน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าผู้ต้องหาไม่ได้ประกอบอาชีพอื่นใดนอกจากชิงทรัพย์และน่าเชื่อว่าจะร่วมกับพวกอีกหลายคนก่อเหตุเป็นแก๊งลักทรัพย์ ซึ่งหลังสอบปากคำจะได้ทำการขยายผลนำกำลังเข้าตรวจค้นที่หอพักย่านบวกครก อ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งผู้ต้องหาได้เช่าอยู่และจะได้ขยายผลตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook