อภิสิทธิ์ฮึ่มงัดกฎเหล็ก

อภิสิทธิ์ฮึ่มงัดกฎเหล็ก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำราบรัฐมนตรีใหม่ผวาไส้ศึกส่งข่าวพท.

หล่อ หลักลอย สั่งรัฐมนตรีใหม่สานนโยบายต่อ พร้อมงัดกฎเหล็ก 9 ข้อคอยกำราบ ด้านสาวก ปชป. ยกหางพวกเดียวกัน อ้างปรับ ครม. เจ๋งแต่เสียงอ่อยตำแหน่งรัฐมนตรีสมบัติผลัดกันชม เด็กประชาธิปัตย์โบ๊ยแอบส่งข้อมูลให้ เพื่อไทย เชื่อไม่มีหนอนในพรรค ด้านพรรคการเมืองใหม่โผล่แจมจวก 2 เก้าอี้ ภูมิใจไทย ผลประโยชน์ต่างตอบแทนประชาชนไม่ได้ประโยชน์ จี้ บิ๊กเติ้ง แปะโป้งสัญญาแก้ รธน. 2 ประเด็น เปรยหวั่นใจอาจมีวางยา เพื่อไทย ยันไม่ต้องไปซ้อมถลกหนังรัฐบาลกับ นายใหญ่ เพราะข้อมูลปึ้กอยู่แล้วแต่ต้องประสานกับเสื้อแดงเพื่อป้องกันความขัดแย้ง แฉได้กลิ่นโกงโครงการไทยเข้มแข็งอีกรอบ คราวนี้โผล่ที่สระบุรี

* มาร์คเข้มกฎเหล็กกำราบ รมต.

เมื่อวันที่ 17 ม.ค. ที่สถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมมอบนโยบายแก่รัฐมนตรีใหม่ 5 คนว่า ตนจะนัดหมายกับรัฐมนตรีใหม่ทั้ง 5 คน เพื่อพูดคุยถึงการถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวันที่ 18 ม.ค. เพราะฉะนั้นรัฐมนตรีใหม่จะสามารถปฏิบัติงานได้ตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค.เป็นต้นไป สำหรับนโยบายในการทำงานคงต้องสานต่อ ส่วนปีที่ 2 ของรัฐบาลชุดนี้จะต้องมีเรื่องใหม่ ซึ่งกำลังประมวลผลงานกระทรวงต่าง ๆ อยู่ นอกนั้นจะเป็นแนวทางการทำงานอย่างที่เคยได้มอบไว้กับ ครม. เช่น กฎเหล็ก 9 ข้อ ก็ต้องใช้กับรัฐมนตรีเก่าและใหม่เช่นกัน

นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงขบวนพาเหรดล้อการเมือง ที่ล้อเลียนนายอภิสิทธิ์ถูกปัญหาต่าง ๆ รุมเหยียบจนนอนจมอยู่บนกองนโยบายที่เน่าเฟะว่า ตนไม่นั่งทับเรื่องการโกง เมื่อมีข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการทุจริตเราจัดการ ตนทราบว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะปัญหาการทุจริตฝังลึกมานาน คิดว่าทุกคน ก็เข้าใจดี

* ปชป.ยกหางปรับ ครม.เจ๋ง

นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเสียงวิจารณ์การปรับ ครม. 5 ตำแหน่งว่า นายกฯจริงจังกับการปราบการทุจริต โดยเฉพาะฝ่ายการเมืองที่กำหนดมาตรฐานทางจริยธรรมไว้สูงกว่าคนทั่วไป การปรับ ครม.ครั้งนี้จะเห็นว่าหากปรับไปตามมาตรฐานเดิมจะปรับแค่ 1 ตำแหน่ง แต่คราวนี้ปรับ 5 ตำแหน่งถือเป็นการยืนยันกฎเหล็ก 9 ข้อที่นายกฯประกาศไว้ตั้งแต่แรก

เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์เคย ต่อต้านการนำคนในครอบครัวมาสืบต่อเก้าอี้รัฐมนตรี แต่กรณีนางพรรณสิริ กุลนาถศิริ น้องสาวนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มมัชฌิมา ทำไมไม่ต่อต้าน นพ.บุรณัชย์กล่าวว่า น่าจะดูที่ภาพรวมของ ครม.มาก กว่า กรณี รมช.สาธารณสุขเป็นตำแหน่งที่ว่างลง ไม่ได้มีการลาออกเพื่อให้คนในครอบครัวมาสืบทอด

* ไม่หวั่นถูกถลกหนังกลางสภา

นายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ อดีต รมว. สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่ถูกฝ่ายค้านจ้องอภิปรายไม่ไว้วางใจแม้จะถูกปรับออกจากตำแหน่งไปแล้วว่า อยากให้เขาอภิปรายฯ เพื่อที่ตนจะได้ชี้แจงข้อเท็จจริง ต่อสภาเพราะมีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ทั่วประเทศ ส่วนข้อมูลไม่ต้องเตรียมอะไรเป็นพิเศษ เพราะเป็นคนดำเนินการโครงการไทยเข้มแข็งมาตลอด มีข้อมูลอยู่ในตัวทั้งหมดจึงไม่รู้สึกหนักใจ

เมื่อถามว่า เกรงหรือไม่ว่าฝ่ายค้านจะมีข้อมูลเด็ด เพราะล่าสุด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะติวเข้ม ส.ส.ที่จะอภิปรายฯด้วยตัวเอง นายวิทยากล่าวว่า อยากเห็นข้อมูลเด็ดของฝ่ายค้านเหมือนกัน ที่ผ่านมาพ.ต.ท.ทักษิณนั่งบริหารอยู่ต่างประเทศมานาน จนมีการจินตนาการไปต่าง ๆ นานา ไม่สอดคล้องกับความรู้สึกของประชาชนคนไทย

* ไม่เชื่อมีหนอนแอบส่งข้อมูล

นายสาธิต ปิตุเตชะ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยระบุได้ข้อมูลบางส่วนจากพรรคประชาธิปัตย์ สำหรับยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า มั่นใจได้ว่าไม่มีข้อมูลจากพรรคหลุดไปที่พรรคเพื่อไทยหรือที่ไหนแน่ มั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีข้อมูลมาอภิปราย คงมีแต่โวหารดูจากกระทู้สดที่ผ่านมาก็มีน้ำ 80 เปอร์เซ็นต์ อีก 20 เปอร์เซ็นต์เป็นเนื้อ การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้คงไม่มีอะไรใหม่

* โอ่ประสานฝ่ายค้านพรรคร่วม

นายวิทยา ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ว่าที่ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงแนวทางการทำงานของวิปรัฐบาลว่า จะสานงานต่อจากนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ที่โยกไปเป็น รมว.ศึกษาธิการ แต่จะเพิ่มในเรื่องการประสานงานกับพรรคร่วมรัฐบาล และร่วมมือกับฝ่ายค้านในการทำงานในสภาให้มากขึ้น

เมื่อถามถึงแนวทางการผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่วิปรัฐบาลยังทำไม่สำเร็จ นายวิทยากล่าวว่า ไม่หนักใจ กาธรรมนูญต้องเป็นความเห็นร่วมกัน ถ้าฝ่ายค้านยืนกรานผลักดันรัฐธรรมนูญปี 40 รัฐบาลก็ต้องถกกันให้จบว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร ส่วนที่พรรคร่วมรัฐบาลจะผลักดันให้มีการแก้ไข 2 มาตราก่อนนั้น สามารถทำได้ ถ้าเสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยก็ไม่น่าจะมีปัญหา

* โพลชี้ปรับแล้วก็เหมือนเดิม

ด้านสวนดุสิตโพลได้สำรวจความเห็นประชาชนใน กรุงเทพฯและปริมณฑลจำนวน 1,422 คน เรื่อง ประชาชนคิดอย่างไรกับการปรับ ครม. 5 ตำแหน่ง พบว่า ประเด็นความพึงพอใจ 49.37% ค่อนข้างพึงพอใจ 38.53% ไม่ค่อยพึงพอใจ ส่วนการปรับครั้งนี้คิดว่าจะทำให้รัฐบาลทำงานได้ดีขึ้นหรือไม่ 68.01% คิดว่าเหมือนเดิม 20.09% บอกว่าดีขึ้น 11.90% บอกว่าแย่ลง ประเด็นปรับแล้วประชาชนเชื่อมั่นหรือลดลง 69.12% เท่าเดิม 18.15% เชื่อมั่นลดลง 12.73% เชื่อมั่นมากขึ้น ส่วนประชาชนได้ประโยชน์อะไรกับการปรับครั้งนี้ 60.97% บอกว่าได้ 31.71% ไม่ได้

ส่วนเอแบคโพลได้สำรวจความเห็นประชาชนใน 17 จังหวัดทั่วประเทศ 1,637 ครอบครัว เรื่อง กฎเหล็ก 9 ข้อของนายกรัฐมนตรีในทรรศนะของสาธารณชน พบว่า ประชาชนเห็นด้วย 86.8% ไม่เห็นด้วย 13.2% ประเด็นให้นำกฎเหล็กไปประยุกต์ใช้กับข้าราชการประจำ 83.5% เห็นด้วย 16.5% ไม่เห็นด้วย ส่วนระยะเวลาที่ต้องการให้รัฐบาลทำงานต่อไป 70.2% มากกว่า 6 เดือนขึ้นไป 15.6% ให้โอกาสไม่เกิน 6 เดือน และ 14.2% ไม่ให้โอกาสแล้ว

* กมม.จวก ภท.ดูถูก ปชช.

ด้านนายสำราญ รอดเพชร โฆษกพรรคการเมืองใหม่ แถลงถึงการปรับ ครม. ว่า การปรับ 3 ตำแหน่งของพรรคประชาธิปัตย์ค่อนข้างลงตัว ส่วนอีก 2 ตำแหน่งของพรรคภูมิใจไทย นอกจากไม่ให้เกียรตินายกฯแล้วยังเป็นการดูถูกประชาชน เพราะนางพรรณสิริเป็นน้องสาวของนายสมศักดิ์แกนนำกลุ่มมัชฌิมา ขาดความรู้ประสบการณ์ ขณะที่นายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร รมช. คมนาคม ถือเป็นการตอบแทนทางการเมือง

ด้านนายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิ การพรรคการเมืองใหม่ กล่าวว่า ไม่คิดว่านี่คือการปรับ ครม.แต่เป็นการแก้ไขปัญหาการเมืองในพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อรักษาระบบโควตาตามปกติ โดยประชาชนจะไม่ได้ประโยชน์ หากต้องการให้เกิดประโยชน์ กับประชาชนรัฐบาลควรหาโอกาสปรับใหญ่ทั้งหมด

* ขอหลักประกันแก้ รธน.

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่พรรคร่วม รัฐบาลเตรียมเสนอญัตติขอแก้รัฐธรรมนูญใน 2 ประเด็น นายสุริยะใส กล่าวว่า ขอถามว่านายบรรหาร ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนาว่า มีหลักประกันใดว่าการเสนอญัตติ แก้รัฐธรรมนูญเข้าสภาจะไม่ถูกวางยา ขยายเพิ่มมากกว่า 2 ประเด็น ตนอยากจะขอหลักประกันตรงนี้ ถ้ามีการสอดไส้ขอแก้มาตรา 237 และ 309 ตนเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะเข้าร่วมในโค้งสุดท้ายแน่นอน

ด้านนายสำราญกล่าวเสริมว่า ตนต้องการให้พรรคร่วมรัฐบาลมาแถลงร่วมกันว่าจะแก้เพียง 2 ประเด็นเท่านั้น หากมีการแถลงอย่างเป็นทางการเชื่อว่าสังคมจะเข้าใจได้

* 2 พี่น้องย่องเงียบสะสมบุญ

วันเดียวกันผู้สื่อข่าว จ.สุโขทัย รายงานว่า นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ รมช. สาธารณสุข ได้ไปร่วมงาน กลั่นแผ่นดินรูปหัวใจถวายเป็นพุทธบูชา ในฐานะกรรมการและเลขานุการโครงการ โดยโครงการนี้นำดินบริสุทธิ์มหามงคลจากพื้นที่สำคัญ ๆ 9 แห่ง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นก่อตั้งกรุงสุโขทัยที่พม่าไม่สามารถโจมตีได้ พร้อมนำดินมาจัดสร้างพระผงพุทธรัตนสิริสุโขทัย เพื่อนำมามอบให้กับชาวสุโขทัย

ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มมัชฌิมา ในฐานะประธานมูลนิธิรุ่งอรุณแห่งความสุข กล่าวว่า พิธี กลั่นแผ่นดินรูปหัวใจถวายเป็นพุทธบูชา เพื่อรองรับพระพุทธรัตนสิริสุโขทัย ซึ่งจะอัญเชิญมาประดิษฐาน เมื่อมณฑปได้ทำการก่อสร้างเรียบร้อย และขอบารมีองค์สัมมาสัมพุทธเจ้าและอำนาจพระพุทธคุณแห่งองค์พระพุทธรัตนสิริสุโขทัย บันดาลให้แผ่นดินรูปหัวใจทุ่งทะเลหลวงเป็นดินแดนรุ่งอรุณแห่งความสุข

* ปัดซ้อมถลกหนังกับนายใหญ่

อีกด้านหนึ่งนายนพคุณ รัฐผไท ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะกรรมการกลั่นกรองประเด็นอภิปรายไม่ไว้วางใจ กล่าวถึงกรณีที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ระบุว่า ส.ส.ที่จะทำหน้าที่อภิปรายไม่ไว้วางใจ ต้องเดินทางไปฝึกซ้อมกับ พ.ต.ท.ทักษิณก่อนขึ้นเวทีจริงว่า พรรคเตรียมความพร้อมการอภิปรายฯมากว่า 2 เดือนแล้ว จึงไม่ต้องไปซ้อมอภิปรายกับ พ.ต.ท.ทักษิณ พวกเราอยู่ในประเทศมีข้อมูลมากกว่า พ.ต.ท.ทักษิณที่อยู่นอกประเทศ

นายนพคุณกล่าวต่อว่า จนถึงขณะนี้คณะกรรมการกลั่นกรองฯยังไม่ได้สรุปว่าจะอภิปรายนายกฯพร้อมถอดถอนรายเดียว หรือจะประกอบด้วยรัฐมนตรีอีกกี่คน เพราะอยู่ระหว่างหาข้อมูล ทั้งต้องประสานงานและประเมินสถานการณ์ร่วมกับทางแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงด้วย เพราะถ้ายื่นญัตติจะทำให้นายกได้ การชุมนุม ของกลุ่มคนเสื้อแดงก็จะชะงักไป ในขั้นนี้เรากลัวว่าจะขัดแย้งกัน จึงได้มอบหมายให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทยได้หารือกับ 3 แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง เพื่อให้การเคลื่อนไหวสอดประสานเป็นเพลงเดียวกัน

* มาร์คไม่รื้อผลสอบไทยเข้มแข็ง

ส่วนการเมืองอื่น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกลุ่มแพทย์ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ รื้อผลสอบสวนของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโครงการไทยเข้มแข็ง ของ กระทรวงสาธารณสุข ที่มี นพ.บรรลุ ศิริพานิช เป็นประธานว่า ไม่มีความจำเป็น ที่จะต้องรื้อ การสอบสวนของคณะกรรมการ ดังกล่าวมีข้อเท็จจริงออกมาแล้ว เป็นเรื่อง ที่ดำเนินการไปตามกฎหมายในรูปของ กระบวนการทางวินัยที่ต้องมีการสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม และในส่วนของการแก้ไขโครงการนี้ก็มีการดำเนินการกันอยู่ จึงไม่มี ประเด็นที่ต้องรื้อ มีแต่ว่าจะต่อยอดอย่างไร

นายกฯกล่าวอีกว่า อย่าลืมว่าข้อสรุปของคณะกรรมการชุดนี้ไม่ใช่ขาวหรือดำชัดเจน แต่มีคำว่าอาจบ้าง หรือมีคำว่าไม่ ได้ทุจริตแต่มีความรับผิดชอบหรือความบกพร่อง ตรงนี้ก็ต้องมีการดำเนินการให้เหมาะสมกับสิ่งที่ถูกกล่าวหา การดำเนินการขั้นต่อไปตนได้คุยกับนายจุรินทร์ ลักษณ วิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข แล้วว่านี่เป็นเรื่องแรกที่ต้องสะสาง

* ซัดอุดม เฟื่องฟุ้งชี้นำศาล

ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ตามที่นายอุดม เฟื่องฟุ้ง อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณว่าต้องยึดทรัพย์จำนวนทั้งหมดนั้น เป็นการชี้นำศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพราะคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นศาล ที่สำคัญนายอุดมเป็นปฏิปักษ์และมีอคติต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ มาตั้งแต่แรก เพราะได้รับการแต่งตั้งจากคณะรัฐประหาร 19 ก.ย. 49 มาตรวจสอบเรื่องดังกล่าวอีก

สิ่งนี้สะท้อนว่านายอุดมได้ใช้ความรู้สึกและอคติส่วนตัวในการพิจารณาคดีดังกล่าวมาตลอด ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้รับความเป็นธรรมในการพิจารณาคดีของ คตส. มาตั้งแต่ต้น จึงขอประณามการกระทำของนายอุดมว่าเป็นบุคคลที่ไม่สมควรที่จะเป็นผู้พิพากษาต่อไป นายพร้อมพงศ์กล่าว

* เจอกลิ่นโกงสร้างอาคารโรงเรียน

นายพร้อมพงศ์ยังเรียกร้องให้นาย ชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ เร่งตรวจสอบความไม่โปร่งใสโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงศึกษาธิการ ล่าสุดพรรคได้รับการร้องเรียนว่า โครงการยกระดับคุณภาพ การศึกษาท้องถิ่น จ.สระบุรี ส่อไปในทางทุจริต โดยงานก่อสร้างอาคารเรียน 4 ชั้น 12 ห้องเรียน งบฯ 10,260,000 บาท เกิดปัญหา คือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะต้องเสียงบฯเพิ่มเพื่อสมทบโครงการดังกล่าว ทำให้ต้องตั้งงบฯในการบริหารจัดการเพิ่มมากขึ้น โดยที่ไม่ได้เป็นผู้เสนอของบฯแต่ รัฐบาลเป็นผู้เสนอโครงการมาให้โดยไม่ได้สอบถามความคิดเห็นของชุมชน

นายพร้อมพงศ์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังพบว่ามีโครงการลักษณะเดียวกันนี้ในหลายจังหวัดที่ส่อไปในทางทุจริต มีกลุ่มที่แสวงหาผลประโยชน์ ผลาญงบฯโดยอาศัยความสัมพันธ์กับคนในรัฐบาลและข้าราชการบางราย ข้อมูลทั้งหมดพรรคเพื่อไทยจะรวบรวมเพื่อนำไปอภิปรายไม่ไว้วางใจ คาดว่าอาจจะยื่นญัตติภายในเดือน ก.พ.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook