คาดหุ้นไทยวันนี้ปรับฐาน-แนวรับ740จุด

คาดหุ้นไทยวันนี้ปรับฐาน-แนวรับ740จุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.พัฒนสิน กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยในวันนี้มีโอกาสปรับตัวลดลง เนื่องจากได้รับอิทธิพลลบจากตลาดหุ้นในภูมิภาคส่วนใหญ่ที่เปิดตลาดฯ ในแดนลบ หลังได้รับปัจจัยกดดันจากดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์คที่ปรับตัวลงแรงประมาณ 100 จุด โดยได้รับตัวแปรเชิงลบจากที่กดดันจิตวิทยาการลงทุน หลังจากหลังจากเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โคได้ประกาศผลประกอบไตรมาส 4/52 มีตัวเลขออกมาน่าผิดหวัง ส่งผลให้นักลงทุนได้สร้างความกังวลแก่นักลงทุน อีกทั้งยังมีปัจจัยลบเพิ่มเติมจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นตัวแปรส่งผลให้ราคาหุ้นในกชลุ่มพลังงานมีการพักตัวลง โดยดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ค ปิดที่ระดับ 10609.65 จุด  ลดลง 100.90 จุดหรือ -0.94%, ดัชนีนิกเกอิ  ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดตลาดเช้าที่ระดับ  10,781.03 จุด ลดลง 201.07 จุด หรือ -1.83 %, ดัชนี SHI: ตลาดหุ้นจีน เวลา 08:48 น. (ตามเวลาประเทศไทย) อยู่ที่ระดับ 3,211.47 จุด ลดลง 12.68 จุด ทั้งนี้เปิดตลาดที่ระดับ 3,213.64 จุด ปิดตลาดครั้งก่อนที่ระดับ 3,224.15 จุด หรือ -0.39 % และราคาน้ำมันดิบไลท์ล่วงหน้าสัญญาส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ที่ตลาดนิวยอร์ค ปิดตลาดที่ราคา 78  ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.39 ดอลลาร์ หรือ 1.75% อย่างไรก็ดี หากพิจารณาจากประเด็นบวกภายในประเทศพบว่าให้รอดูผลประกอบการประจำไตรมาส 4/52 ของบริษัทจดทะเบียนที่คาดว่าจะมีแนวโน้มตัวเลขออกมาดี โดยเฉพาะในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่ได้เริ่มทยอยประกาศตัวเลขออกมามีทิศทางที่ จึงเชื่อว่าจะน่าจะมีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ด้านปัจจัยที่จะต้องติดตามคือ หลังจากที่การปรับรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีความชัดเจนออกมา โดยต่อไปต้องติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านว่าจะส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้นหรือไม่ กลยุทธ์การลงทุนแนะนำพิจารณารอซื้อที่แนวรับในหุ้นกลุ่มธนคารพาณิชย์ ทั้งนี้ประเมินกรอบแนวรับอยู่ที่ 740-737 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 753 จุด ด้านนายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.คันทรี่กรุ๊ป กล่าวว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยช่วงเช้าวันนี้มีโอกาสปรับฐานตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปิดลบกว่า 100 จุด หลังจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอ่อนแอลง รวมทั้งดูไบเวิลด์ ได้ส่งสัญญาณการขาดสภาพคล่องทางการเงิน ส่งผลให้หุ้นกลุ่มธนาคารในสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนเกรงว่าทำให้ผลประกอบการของธนาคารเกิดอาการสะดุด รวมถึงราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังปรับตัวลดลง จึงเป็นแรงกดดันบรรยากาศการลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานให้ร่วงลงเช่นเดียวกัน แต่ขณะเดียวกันดัชนีฯ จะมีการรีบาวน์ เนื่องจากเบื้องต้นประเมินว่าเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศยังไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้มีการรายงานไปก่อนหน้านี้ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวประคับประคองดัชนีฯ ให้ฟื้นตัวขึ้นในช่วงระหว่างการซื้อขาย กลยุทธ์การลงทุน แนะนำทยอยสะสมหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะหุ้นพลังงาน จากประเด็นการควบรวมบริษัทในเครือปตท. และหุ้นกลุ่มธนาคารจากประเด็นผลประกอบการไตรมาส 4/52 ออกมาดีขึ้น เช่น BBL SCB และเก็งกำไรหุ้นขนาดเล็ก อาทิ กลุ่มรับเหมาฯ และอสังหาฯ ประเมินแนวรับ 740 -736 จุด และแนวต้าน 750 จุด ด้านนายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยเช้าวันนี้จะแกว่งตัวขึ้นไม่มากนัก เนื่องจากปัจจัยหนุนต่างๆ ยังคงไม่ชัดเจน ทั้งนี้คาดว่าจะมีแรงเก็งกำไรในหุ้นที่มีกระแสข่าวการควบรวมกิจการ เช่น เครือ ปตท. และการควบรวมหุ้นธนาคาร อีกทั้งเริ่มมีแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (15 ม.ค.53) ต่างชาติซื้อสุทธิ 150 ล้านบาท ส่วนประเด็นทางการเมืองยังไม่มีความเคลื่อนไหวมากนัก และยังไม่มีความรุนแรงจนเกิดความกดดันต่อนักลงทุน ขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ และราคาน้ำมัน ที่แม้จะปรับตัวลดลง แต่ส่งผลต่อการลงทุนตลาดหุ้นไทยไม่มากนัก เนื่องจากมีประเด็นการเก็งกำไรที่เป็นหุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่สนับสนุนอยู่ กลยุทธ์การลงทุน แนะนำให้ซื้อเมื่อดัชนีฯ ปรับลดลง และขายเมื่อดัชนีฯ ปรับเพิ่มขึ้น ประเมินกรอบแนวรับอยู่ที่ 742 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 754 จุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook