หุ้นไทยเปิดตลาดภาคเช้าลดลง2.33จุด
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย พบว่า ทันทีที่เปิดการซื้อขายดัชนีฯ ปรับตัวลดลง 2.33 จุด หลังดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปิดที่ระดับ 10609.65 จุด ลดลง 100.90 จุดหรือ -0.94% และราคาน้ำมันตลาดโลกปิดตลาด 78 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.39 ดอลลาร์ หรือ 1.75% ขณะที่ ปัจจัยในประเทศที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของดัชนีฯ อาทิ ประเด็นการเมืองโดยยังต้องจับตาการชุมนุมของกลุ่ม นปช. ที่จะมีการเคลื่อนไหวชุมนุมย่อย ในหลายจุดช่วงปลายเดือน ม.ค.ของขณะที่การชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพฯ จะมีขึ้นหลังวันตรุษจีน (14 ก.พ.) และก่อนการตัดสินคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นลบ.ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรในวันที่ 26 ก.พ.นี้ แต่อย่างไรก็ตาม การประกาศผลประกอบการ Q4/52 ของ บจ.ตั้งแต่กลางสัปดาห์นี้คาดว่าส่วนหญ่จะออกมาดี บทวิเคราะห์ บล.เคจีไอ ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยวันจันทร์จะปรับตัวลง เนื่องจากปัจจัยในตลาดหุ้นสหรัฐฯ และดัชนีค่าเงินดอลลาร์ฯ ต่างกดดันสินทรัพย์เสี่ยง โดยดาวโจนส์ปรับลดลง 100 จุด แม้ว่า ธ. เจพี มอร์แกน เชส จะรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/2552 ดีกว่าคาด แต่โบรกเกอร์ในสหรัฐฯ ต่างชี้ว่ารายได้ต่ำกว่าคาดและสำรองหนี้เสียอยู่ในระดับสูงกว่าที่คาด นอกจากนี้ข้อมูลเศรษฐกิจยังชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ฟื้นช้าไม่ว่าจะเป็นการสำรวจความเชื่อมั่นเดือน ม.ค. ของ ม.มิชิแกนที่ต่ำกว่าที่คาด รวมทั้งเงินเฟ้อทั่วไปเดือนธ.ค. 2552 ที่ต่ำกว่าคาดเช่นกัน จากที่กล่าวมาทั้งหมดค่าเงินดอลลาร์ฯ ควรจะอ่อนลงและค้ำตลาดหุ้นไว้บ้าง แต่โชคไม่ดีว่าสกุลเงินยูโรอ่อนกว่าอีก หลังจากประเทศกรีซออกมายอมรับว่ายอดขาดดุลงบประมาณอยู่ในระดับสูงถึง 12.5% ของจีดีพี ซึ่งสูงเป็น 3 เท่าของตัวเลขเป็นทางการที่ทราบกันโดยทั่วไป!!! ส่งผลให้ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งอ่อนไหวต่อสกุลเงิน USD/EUR อยู่ในช่วงปรับฐานลงเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ดี KGI มองว่าหุ้นไทยจะปรับลงน้อยกว่าเพื่อนบ้าน และน่าจะรีบาวด์ได้ตามแนวรับหลักที่ 740 จุด เนื่องจากประเด็นการลงทุนในกลุ่มพลังงานยังค่อนข้างดี หลักๆ คือการควบรวมในกลุ่ม ปตท. ซึ่งจะทำให้หุ้นที่มีโอกาสถูกควบรวมจะปรับลงน้อย ไม่ว่าจะเป็น PTTAR, IRPC และ PTTCH (เรามอง PTTAR ดีสุดใน 3 ตัว) นอกจากนี้เชื่อว่าหุ้นกลุ่มธนาคารจะลงน้อย เนื่องจากภาพเศรษฐกิจฟื้นตัวในปีนี้ น่าจะทำให้มีแรงซื้อกลับจากนักลงทุนที่มองภาพระยะยาว กลยุทธ์: แนะรอดูสถานการณ์ หาก SET ยืนได้ที่ 740 จุด แนะให้ซื้อเก็งกำไรหุ้น 4 ตัวดังนี้ PTTAR, BANPU, TTA และ KTB แต่ถ้าดัชนีฯ ยวบๆ เหมือนจะหลุดลงไปก็ให้รอก่อน สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย แนะเข้าซื้อหุ้นที่แนวโน้มเงินปันผลจ่ายสูง เช่น HANA, DELTA และ TICON รวมทั้งหุ้นกลุ่มอาหารอย่าง CPF และ TUF ทั้งนี้ในระยะหลังมีประเด็นการลงทุนเรื่องภัยธรรมชาติและการขาดแคลนอาหารในโลกค่อนข้างมาก หุ้นกลุ่มอาหารน่าจะได้ประโยชน์จากเรื่องดังกล่าว ณ เวลา 10.00 น. SET Index อยู่ที่ 744.35 จุด ลดลง 2.17 จุด หรือ 0.29% มูลค่าการซื้อขาย 632.91 ล้านบาท
