เหยื่อตอกต่อหน้าผอ.สถานพินิจฯสั่งราดซีม่าจู๋เปื่อย

เหยื่อตอกต่อหน้าผอ.สถานพินิจฯสั่งราดซีม่าจู๋เปื่อย

เหยื่อตอกต่อหน้าผอ.สถานพินิจฯสั่งราดซีม่าจู๋เปื่อย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผอ.สถานพินิจนครศรีธรรมราชปฏิเสธพัลวันเด็ก "จู๋เปื่อย" ขณะที่เหยื่อพูดต่อหน้า "ผอ.สั่งราดซีม่า" แฉหลังเด็กหนี ส่วนคนไม่หนีถูกเรียกหวดด้วยแป๊บน้ำระนาว ทั้งที่ไม่เกี่ยวข้อง พยาบาลวิชาชีพประจำสถานพินิจงงเผย"ซีม่า"ไม่ได้เป็นตัวยาที่รักษาในสถานพินิจฯ

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 16.30 น.ของวันที่ 18 ม.ค.53 นายปรีดีอนันต์ ติยานนท์ ผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนนครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สถานพินิจไปรับตัว ด.ช.บอย (นามสมติ) พร้อมด้วยผู้ปกครองหลังจากแพทย์อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้ และได้นำตัวมายังที่ทำการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนนครศรีธรรมราช พร้อมทั้งแจ้งกับผู้สื่อข่าวว่าจะมีการทำความเข้าใจกับผู้ปกครองและเด็กอย่างเปิดเผย

ปรากฏว่าเมื่อได้เวลาเจ้าหน้าที่สถานพินิจได้นำตัว ด.ช.บอย พร้อมด้วยผู้ปกครองและญาติอีกจำนวนหนึ่งมายังสถานพินิจ โดยมีนายอัครพล หนูทวี ทนายความชื่อดังของจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เข้าติดตามคดีและเรื่องที่เกิดขึ้น หลังจากที่นายปรีดีอนันต์ ได้เชิญผู้ปกครองและ ด.ช.บอย ไปยังห้องประชุมพร้อมทั้งเปิดการพูดคุยต่อหน้าผู้สื่อข่าว โดยมี ด.ช.บอย ได้กล่าวต่อหน้า นายปรีดีอนันต์ ติยานนท์ ผอ.สถานพินิจ นายอัครพล ทนายความ และเครือญาติร่วมรับฟัง

ด.ช.บอย ได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเหตุเกิดช่วงค่ำก่อนที่จะมีการหลบหนีของเด็ก โดย ผอ.สถานพินิจ ได้ไปอยู่ในเหตุการณ์ที่มีการใช้ยาซีม่าโลชั่นรักษาอาการกลากของเด็กในสถานพินิจ ครั้งแรกนั้นตนเต็มใจที่จะทาเนื่องจากต้องการให้หาย อาการที่เกิดขึ้นนั้นเกิดบริเวณขาหนีบและอัณฑะ ส่วนบริเวณองคชาตนั้นไม่เป็นกลาก ส่วนบริเวณขาหนีบตนได้ใช้พลาสติคขูดเชื้อราก่อนที่จะทายา ซึ่งเข้าใจว่าจะมีการทาเท่านั้น ช่วงที่เกิดเหตุนั้นได้ยินเสียง ผอ.ซึ่งอยู่ห่างไปราว 2-3 เมตรสั่งเพื่อนว่าให้เทราดไปเลย ทำให้ตนมีอาการแสบร้อนอย่างรุนแรง ตกกลางคืนนอนหลับ และตื่นมาได้ยินเสียงครูบอกว่าเด็กหนีหมดแล้ว

"ช่วงเช้าได้มีการเรียกเด็กที่เหลือในเรือนนอนลงมาเข้าแถว ส่วนเด็กที่หนีเริ่มจับกลับมาได้ เด็กที่เหลืออยู่ในเรือนนอนถูกทำโทษทุกคนด้วยการใช้แป๊บน้ำตีทุกคน ทั้งที่ไม่ได้กระทำความผิดและไม่คิดหลบหนี โดยครูที่ทำโทษบอกว่าทุกคนต้องร่วมกันรับผิดชอบ และบังคับให้เพื่อนบางคนขึ้นไปเอาเลื่อยเหล็กและของมีคมมาให้" ด.ช.บอย กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะที่ ด.ช.บอย เล่าเหตุการณ์นั้นนายปรีดีอนันต์ ผอ.สถานพินิจพยายามกล่าวเสริมอยู่ตลอดเวลาว่าการใช้ซีม่านั้นเป็นการรักษาอาการกลากใช่หรือไม่ ซึ่ง ด.ช.บอย บอกว่าใช่ และบอกต่อว่า ผอ.เป็นคนส่งให้ราด ซึ่งผู้สื่อข่าวได้สอบถามเพื่อความชัดเจนว่าเสียงที่สั่งนั้นเป็นเสียงของ ผอ.หรือเสียงของเพื่อน ด.ช.บอย กล่าวยืนยันว่าเป็นเสียงของ ผอ. ซึ่งทำให้นายปรีดีอนันต์ ถึงกับมีสีหน้าวิตกทันที

ด้านนายปรีดีอนันต์ กล่าวปฏิเสธและยืนยันว่าไม่มีการสั่งให้ทำเช่นนั้นอย่างเด็ดขาด ซึ่งไม่เป็นความจริงแน่นอนถ้าสั่งให้ทานั้นเป็นเรื่องจริงแต่การราดนั้นไม่มี และเมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่ามีการลงโทษด้วยการตีกับแป๊บน้ำตามที่เด็กยืนยันหรือไม่นายปรีดีอนันต์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ทราบจริงๆแต่อาจเป็นการลงโทษเพื่อค้นหาสิ่งของต้องห้ามคือเลื่อยและของมีคม และได้มีการส่งของต้องห้ามเหล่านี้ให้กับเจ้าหน้าที่ในเวลาต่อมา

นางสุภาพร มะลิวรรณ พยาบาลวิชาชีพประจำสถานพินิจ กล่าวว่า เด็กมาอยู่ที่สถานพินิจจำเป็นต้องมีการตรวจสอบร่างกายอย่างละเอียด เพื่อทำการรักษาพยาบาลให้สะอาด เพราะโรคผิวหนังเป็นโรคร้ายแรง เป็นโรคติดต่อจึงต้องจำเป็นรักษาให้หายขาด โดยทางสถานพยาบาลใช้ตัวยาคีโตโคนาโซนเท่านั้น และในสถานพินิจไม่มีการนำยาซีม่าโลชั่นใช้รักษา ซึ่งตนยังสับสนว่ามียาซีม่าโลชั่นในสถานพินิจได้อย่างไร การยืนยันของนางสุภาพรทำให้นายปรีดีอนันต์ ผอ.สถานพินิจ และเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ถึงกับหน้าถอดสี

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook