ตะลึง! หนุ่มเดนมาร์ก สุดอึดรอดปาฏิหาริย์ ติดใต้ซากตึดยูเอ็นนาน 5 วัน

ตะลึง! หนุ่มเดนมาร์ก สุดอึดรอดปาฏิหาริย์ ติดใต้ซากตึดยูเอ็นนาน 5 วัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตะลึง! หนุ่มเดนมาร์ก สุดอึดรอดปาฏิหาริย์ ติดใต้ซากตึดยูเอ็นนาน 5 วัน ด้านทีมข่าวออสซี่ทิ้งกล้องช่วยหนูน้อยเฮติวัย 18 เดือน


แม้ว่าเหตุการณ์ธรณีวิปโยคในเฮติจะผ่านไปแล้วกว่า 7 วัน แต่ทั่วโลกก็ยังจดจ่อติดตามข่าวการค้นหาผู้รอดชีวิตและการเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนชาวเฮติอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด (18 ม.ค.) พบ นายเยน คริสเตนเซน จนท.ยูเอ็นชาวเดนมาร์กคนหนึ่งได้รับการช่วยชีวิตออกมาจากซากอาคารยูเอ็น  อย่างปาฏิหาริย์หลังติดอยู่นาน 5 วัน ด้านทีมข่าวของสถานีโทรทัศน์ออสเตรเลียสร้างวีรกรรมสุดปลื้ม ทิ้งกล้องวิ่งเข้าไปยกซากปูนก่อนจะมุดเข้าช่วยทารกน้อยวัย 18 เดือนที่ส่งเสียงร้องอยู่ใกล้ซากศพของพ่อแม่  ขณะที่ทีมแพทย์อิสราเอล ช่วยทำคลอดให้หญิงท้องแก่ชาวเฮติ ซึ่งได้ลูกชายตั้งชื่อเป็นเกียรติประวัติให้แก่ทีมแพทย์ว่า ด.ช.อิสราเอล ส่วนกระทรวงการต่างประเทศของไทยได้รับการประสานว่า พบคนไทยเพิ่มรวมเป็น 8 คนในเฮติ นับว่าเป็นเรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้นในเฮติ ซึ่งสื่อมวลชนของไทย ยังเกาะติดสถานการณ์และรายงานข่าวออกมาตามหน้าหนังสือพิมพ์

หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ พาดหัวข่าวว่า “ตะลึงเฮติ ฝัง 5 วันรอด” ขุดพบหนุ่มเดนมาร์กอยู่ใต้ซากอาคารยูเอ็น 8 คนไทยยังปลอดภัย อ่านต่อ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ พาดหัวข่าวว่า “พบยอดคนไทยในเฮติยอดเพิ่มเป็น 8 คน” บางคนจะบินกลับ “วูดู” ออกมาคัดค้านฝัง 7 หมื่นศพไร้พิธี อ่านต่อ

หนังสือพิมพ์คมชัดลึก พาดหัวข่าวว่า“ ขวบเศษรอดอีก ติดซากตึกนาน 100 ชั่วโมง 3 คนไทยขอกลับ” ทีมข่าวออสซี่ทิ้งงานช่วยเด็กน้อยขวบเศษจากใต้ซากแผ่นดินไหวเฮติ ด้าน 3 คนไทยขอกลับ บัวแก้วเปิดศูนย์รับบริจาคเงินช่วยเหลือ อ่านต่อ


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ภายหลังจากที่ นายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เดินทางลงพื้นที่ในเฮติ ทีมกู้ภัยช่วยนายเยน คริสเตนเซน เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกิจการพลเรือนของยูเอ็น ที่ติดใต้ซากอาคารยูเอ็นถล่มนาน 5 วัน โดยนายเยนถูกดึงออกมาจากซากอาคารโดยไม่มีร่องรอยขีดข่วนและยังมีสติ ขณะเดียวกันก็พบผู้รอดชีวิตชาวเฮติอีก 5 รายที่ติดอยู่ใต้ซากซูเปอร์มาร์เก็ตได้ โดยอาศัยเนยและถั่วประทังชีวิตรอดมาได้ ส่วนทีมแพทย์ภาคสนาม สังกัดหน่วย “IDF” ของอิสราเอล ช่วยผ่าตัดทำคลอด ผู้หญิงชาวเฮติท้องแก่อายุ 8 เดือนในเฮติ เมื่อเวลา 02.30น.ของวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น ทารกเป็นเพศชายและตั้งชื่อให้ว่า ด.ช. “อิสราเอล” นับเป็นเด็กคนแรกที่คลอดในโรงพยาบาลภาคสนาม

นอกจากนี้ยังมีรายงานข่าวจากสำนักข่าวของออสเตรเลียว่า เป็นผลงานของทีมข่าวสถานี 2 ช่องของออสเตรเลียที่กำลังแข่งกันทำข่าวภาคสนาม แต่เมื่อได้ยินเสียงร้องของทารกดังออกมา  นายริชาร์ด โมแรน ช่างภาพของสถานีโทรทัศน์ไนน์ เน็ตเวิร์ก กลับวางกล้องลงแล้วยกก้อนคอนกรีตเปิดทางให้คนอื่นๆ เข้าไปนำหนูน้อยวัย 18 เดือนที่นอนอยู่ใต้ซากตึกใกล้กับศพของพ่อแม่ออกมาได้สำเร็จ ซึ่งหนูน้อยคนนี้ไม่ได้ร้องไห้แต่กลับมีท่าทางงุนงงเหมือนกับได้เห็นโลกเป็นครั้งแรก โดยมีทีมข่าวช่อง 7 ของออสเตรเลียคอยบันทึกภาพการให้ความช่วยเหลือนาทีชีวิตครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่านับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวในเฮติ ได้มีการนำศพผู้เสียชีวิตไปฝังรวมกันกว่า 70,000 ศพแล้วในพื้นที่รอบนอกกรุงปอร์โตแปรงซ์ เพื่อเป็นการแก้ปัญหาศพเน่าเฟะขึ้นอืดนั้น  ซึ่งกลุ่มนักบวชลัทธิวูดูที่มีต้นกำเนิดในแถบแอฟริกาและได้รับการเคารพนับถือของชาวเฮติ ได้ออกมาคัดค้านการกระทำดังกล่าว เพราะเห็นว่าขัดหลักการและทำลายความศักดิ์ของวูดู ที่ต้องมีการทำตามพิธีที่เหมาะสม

ทั้งนี้ นายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) โดยสารเฮลิคอปเตอร์สำรวจพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหวในกรุงปอร์โตแปรงซ์ และได้พบกับนายเรเน เปรวาล ประธานาธิบดีเฮติ โดยนายบัน กล่าวว่า แผ่นดินไหวในเฮติเป็นวิกฤติด้านมนุษยธรรมครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี พร้อมให้คำมั่นว่า จะเร่งภารกิจกู้ภัยและปรับปรุงการประสานงานส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้ทั่วถึง พบอีกราว 330 คน โดยยูเอ็นเรียกร้องให้ทั่วโลกร่วมบริจาค 560 ล้านดอลลาร์สำหรับช่วยชาวเฮติ และโครงการอาหารโลกได้ขอรับบริจาค 279 ล้านดอลลาร์สำหรับจัดสรรอาหารให้กับผู้ประสบภัย 2 ล้านคนเป็นเวลา 6 เดือน และชาติผู้บริจาค 16 ประเทศในนามกรุ๊ป ออฟ เฟรนด์ส ออฟ เฮติจะประชุมร่วมกันที่เมืองมอนทรีออลของแคนาดาในวันที่ 25 มกราคมนี้เพื่อหารือเกี่ยวกับแผนการฟื้นฟูบ้านเมืองในเฮติ ส่วนอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน ของสหรัฐ ซึ่งเป็นทูตพิเศษของสหประชาชาติประจำเฮติ ก็มีแผนจะเดินทางไปเยือนเฮติเพื่อมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ ขณะที่นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ  มีคำสั่งส่งทหารอีกราว 7,500 นายจะเดินทางไปให้ความช่วยเหลือในเฮติ  ส่งผลให้ ประธานาธิบดีของเวเนซูเอลา ฮูโก ชาเวซ  ออกมากล่าวหาว่า สหรัฐฯ ต้องการเข้าแทรกแซงและยึดครองมากกว่าให้ความช่วยเหลือเฮติ

สำหรับประเทศไทย  นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ขณะนี้มียอดคนไทยในเฮติเพิ่มเป็น 8 ราย โดยมีคนไทย 3 คนติดต่อขอให้ส่งกลับประเทศ ซึ่งทางการไทยจะเร่งประสานงานให้คนไทยเดินทางกลับโดยเร็ว นอกจากนี้รัฐบาลเตรียมนำเงินบริจาคไปมอบให้ทางการเม็กซิโกที่อยู่ใกล้มากที่สุด เพื่อนำไปซื้อของช่วยเหลือชาวเฮติต่อไป รวมทั้งรายงานสถานการณ์ล่าสุดรวมถึงหารือในที่ประชุม ครม.วันที่ 19 มกราคมนี้ เพราะอาจต้องของบกลางเพิ่มเติม โดยรัฐบาลไทยจะประสานกับองค์การสหประชาชาติ เรื่องการให้ความช่วยเหลือในระยะปานกลาง เพื่อให้การทำงานเป็นระบบต่อไป  สำหรับคนไทยที่ประสงค์จะบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเฮติ กระทรวงการต่างประเทศได้เปิดเป็น “ศูนย์รวบรวมเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเฮติ” และสามารถบริจาคเงินเข้ามาที่บัญชี กระทรวงการต่างประเทศ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาสามยอด ประเภทกระแสรายวัน บัญชีเลขที่ 002-6-18233-5 โดยเงินที่ได้รับบริจาค จะส่งผ่านไปยังสหประชาชาติ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook