ส่ง ตีโต้ ฝึกโดดไกลที่ยุโรป

สมาคมกรีฑามีแผน ส่ง "ตีโต้" ศุภนร ศุขสวัสดิ ณ อยุธยา แชมป์เยาวชนโลก ไปซ้อมกระโดดไกลที่ยุโรป หวังคัดไปโอลิมปิกเกมส์ 2012 ที่อังกฤษ ด้านนักกรีฑายุวชนและเยาวชนกว่า 2 พันชีวิต แห่ร่วมศึกกรีฑาดาวรุ่งมุ่งยูธโอลิมปิกและนานาชาติ-กีฬาปลอดบุหรี่ ที่ มรภ.เพชรบุรี วันที่ 19-21 มกราคม ลุ้นติดโผเตรียมทีมยูธโอลิมปิกเกมส์ 2010 ที่สิงคโปร์

"แฝดเล็ก" พล.ต.ต.ศุภวณัฏฐ์ อาริยะมงคล รองเลขาธิการและประธานผู้ฝึกสอน สมาคมกรีฑาแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงอนาคตในการแข่งขันของ "ตีโต้" ศุภนร ศุขสวัสดิ ณ อยุธยา เจ้าของเหรียญทองกระโดดไกลกรีฑาเยาวชนชิงแชมป์โลก 2009 ว่าสำหรับ ศุภนร ถือเป็นนักกรีฑาคนหนึ่งที่น่าจับตามองเพราะอายุเพียง 16 ปี ได้แชมป์โลกมาครอง อายุ 17 ปี ได้เหรียญทองกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 "เวียงจันทน์เกมส์" เมื่อเดือนธันวาคม 2552 และหากได้รับการฝึกซ้อมที่ดีอย่างต่อเนื่องคาดว่าอีก 2 ปีจะทำผลงานได้ดียิ่งขึ้น

"ตีโต้ เป็นนักกรีฑาคนหนึ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ เขาเป็นมากกว่าเพชร อายุ 16 ปี ได้แชมป์โลก อายุ 17 ปี ได้แชมป์ซีเกมส์ โดยเอาชนะแชมป์เก่าจากฟิลิปปินส์ สมาธิของตีโต้นิ่งมาก อีก 2 ปีคงไปได้อีกไกล"

ประธานผู้ฝึกสอนกรีฑากล่าวต่อว่า ความจริงแล้วสมาคมมองอนาคตของศุภนร มากกว่า 2 ปีข้างหน้า โดยมีเป้าหมายอยู่ที่การควอลิฟายไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ปี 2012 หากเข้ารอบสุดท้ายของการแข่งขันได้ สมาคมจะมุ่งต่อไปที่กีฬาโอลิมปิกเกมส์ ที่ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ปี 2016 โดยเชื่อว่า ศุภนร จะมีโอกาสทำผลงานที่ดีได้ ในส่วนแผนการฝึกซ้อมนั้นสมาคมมีแผนจะส่ง ศุภนร ไปซ้อมกระโดดไกลกับกลุ่มนักกรีฑาที่กระโดดเก่งๆ แถวยุโรป โดยจะส่งไปเป็นช่วงๆ เช่นเดียวกับนักกรีฑาดาวรุ่งอีกหลายคนที่จะส่งไปซ้อมที่ต่างประเทศเช่นกัน

พล.ต.ต.ศุภวณัฏฐ์ กล่าวถึงแผนการพัฒนานักกรีฑาระดับยุวชนและเยาวชนว่า สมาคมกำหนดจัดการแข่งขันกรีฑาดาวรุ่งมุ่งยูธโอลิมปิก และนานาชาติ-กีฬาปลอดบุหรี่ ที่สนามกีฬามหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ระหว่างวันที่ 19-21 มกราคมนี้ เพื่อพัฒนานักกรีฑาระดับยุวชนและเยาวชนก้าวไปสู่ความเป็นเลิศในระดับนานา ชาติ พร้อมทั้งคัดเลือกนักกรีฑาเข้าโครงการเตรียมทีมเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันกีฬา ยูธโอลิมปิกเกมส์ 2010 ที่ประเทศสิงคโปร์ และอีก 2 รายการสำคัญในปีนี้คือ เยาวชนชิงแชมป์เอเชีย และเยาวชนชิงแชมป์โลก

"รายการนี้ได้รับความสนใจ จากนักกรีฑายุวชนและเยาวชนมาร่วมชิงชัยกว่า 2,000 คน จากทั่วประเทศ สร้างความคึกคักเป็นอย่างมาก และทำให้สมาคมมีโอกาสมากขึ้นในการคัดเลือกนักกรีฑาที่มีความสามารถเข้ามา เก็บตัวฝึกซ้อมเพิ่มด้วย"