BFIT แจง รายได้ดอกเบี้ย-เงินปันผลสุทธิทรุดกดกำไรดิ่ง

BFIT แจง รายได้ดอกเบี้ย-เงินปันผลสุทธิทรุดกดกำไรดิ่ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นางกิ่งเทียน บางอ้อ       กรรมการและรักษาการกรรมการผู้จัดการ  บริษัทเงินทุน กรุงเทพธนาทร จำกัด (มหาชน)(BFIT)เปิดเผยว่า     ผลการดำเนินงานของบริษัทสำหรับระยะเวลาบัญชีหนึ่งปีสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552 ปรากฎตามงบกำไรขาดทุนเฉพาะ มีผลกำไรสุทธิ 55.897 ล้านบาท ลดลง 7.646 ล้านบาทหรือลดลง 12.03% เมื่อเปรียบเทียบกับผลกำไรสุทธิของปี 2551 จำนวน 63.543 ล้านบาท สำหรับผลกำไรสุทธิตามงบกำไรขาดทุนรวมในปี 2552 มีผลกำไรสุทธิ24.928 ล้ านบาท ลดลง 51.998 ล้ านบาทหรือ ลดลง 67.59% เมื่อเปรียบเทียบกับผลกําไรสุทธิ ของปี 2551 จำนวน76.926 ล้านบาท ดังรายละเอียดต่อไปนี้ 1. การลดลงของกำไรสุทธิจำนวน 7.646 ล้านบาทตามงบกำไรขาดทุนเฉพาะในปี 2552 เปรียบเทียบกับปี 2551มีสาเหตุสำคัญสืบเนื่องจากในปี 2552 บริษัทมีรายการที่ทำให้กำไรสุทธิลดลง คือ การลดลงของรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิจำนวน 26.386 ล้านบาท จากจำนวน 275.3 ล้านบาท เป็น 248.914 ล้านบาท โดยมีสาเหตุสำคัญเกิดจากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลจากเงินลงทุนเป็นจำนวน 33.294 ล้านบาท จากจำนวน 188.05 ล้านบาท เป็น154.756 ล้านบาท อนึ่ง จากการที่อัตราดอกเบี้ยลดลงจากปี 2551 จึงเป็นเหตุให้ทั้งดอกเบี้ยรับและดอกเบี้ยจ่ายลดลงไปด้วย โดยมียอดลดลงของรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิจำนวน 26.386 ล้านบาท นอกจากนี้ในปี 2552 ยังมีการลดลงของรายได้จากหนี้สูญได้รับคืนจำนวน 26.481 ล้านบาท การลดลงของกำไรจากเงินลงทุนจำนวน 16.308 ล้านบาท การลดลงของรายได้อื่น 0.584 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายอื่นเพิ่มขึ้น 7.922 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลทำให้กำไรสุทธิลดลงทั้งสิ้นจำนวน 77.681 ล้านบาท ในขณะเดียวกัน มีรายการที่ทำให้กำไรสุทธิของบริษัท ปี 2552 เพิ่มขึ้น คือ การลดลงของค่าใช้จ่ายหนี้สูญและ หนี้สงสัยจะสูญจำนวนจำนวน 35.566 ล้านบาท การลดลงของรายการขาดทุนจากการด้อยค่าของเงินลงทุน และรายการขาดทุนจากการด้อยค่าของทรัพย์สินรอการขาย จำนวน 14.497 ล้านบาท และ 9.871 ล้านบาท ตามลำดับ นอกจากนี้ยังมีค่าภาษีเงินได้นิติบุคคลลดลงจำนวน 10.101 ล้านบาท ซึ่งล้วนมีส่วนทำให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นทั้งสิ้นจำนวน 70.035ล้านบาท 2. การลดลงของกำไรสุทธิตามงบกำไรขาดทุนรวมจำนวน 51.998 ล้านบาทในปี 2552 เปรียบเทียบกับปี 2551สืบเนื่องมาจากกำไรสุทธิจากบริษัทใหญ่ลดลงจำนวน 7.646 ล้านบาท และเกิดจากการรับรู้กำไรสุทธิจากบริษัทย่อยลดลงจำนวน 44.752 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากการลดลงของรายได้หลักคือค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทย่อย โดยสรุปกำไรสุทธิของบริษัทในปี 2552 ตามงบกำไรขาดทุนเฉพาะมีจำนวน 55.897 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 0.28 บาทต่อหุ้น เปรียบเทียบกับจำนวน 0.32 บาทต่อหุ้นในปี 2551 ส่วนกำไรสุทธิตามงบกำไรขาดทุนรวมในปี 2552 มีจำนวน 24.928 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 0.12 บาทต่อหุ้น เปรียบเทียบกับจำนวน 0.38 บาทต่อหุ้นในปี 2551

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook