มาร์คขู่ซํ้าอีกงัด9กฎเหล็ก

มาร์คขู่ซํ้าอีกงัด9กฎเหล็ก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เด้งปลัดท่องเที่ยวนั่งตบยุงทำเนียบฯ

รัฐมนตรีใหม่หน้าระรื่นเข้าประชุม ครม. พร้อมโวกันกระจายจะเร่งสางปัญหาทุจริต อู๊ดด้า รับหนักใจปัญหาในกระทรวงคุณหมอ มาร์ค ขู่ ครม.กฎเหล็ก 9 ข้อยังไม่ขึ้นสนิม เน้นให้ยึดพระราชดำรัส ในหลวง เรื่องความสุจริตเป็นที่ตั้ง เปรยพอใจหลายกระทรวงส่งการบ้านมาดี แต่ติงคลังยังต้องปรับปรุง ด้าน เพื่อไทย มีมติสอย มาร์ค-กษิต ยื่นญัตติปลายเดือน ก.พ.เผย 4 ชื่อแคนดิเดตชิงนายกฯ ด้าน ภท.-ชทพ. จับมือแน่นแก้รัฐธรรมนูญ ขณะที่ ปชป.ออกแนวตุกติกดึงเกม ธิลิ้ม เปิดพรรคแกนนำ ปชป.โผล่แจมหน้าสลอน พร้อมแจงเหตุหลบไปอยู่ต่างประเทศเพื่อเลียแผลถูกยิงไม่ได้หลบหนีใคร ส่วนปลัดท่องเที่ยวฯแจ๊กพอร์ตถูกเด้งเข้าทำเนียบฯ ชุมพล แจงนายกฯขอมา

* รมต.ใหม่ระรื่นประชุม ครม.

เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการประชุม ครม. นัด แรกหลังการปรับ ครม. ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก รัฐมนตรีใหม่ต่างทยอยเดินทางมาร่วมประชุมตั้งแต่เช้า โดยนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงเป็นคนแรก ตามด้วยนางพรรณสิริ กุลนาถศิริ รมช.สาธารณสุข นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข และนายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร รมช.คมนาคม

นายไตรรงค์ให้สัมภาษณ์อย่างอารมณ์ดีว่า การประชุม ครม. วันแรกคงยังไม่เสนออะไร เนื่องจากวาระไม่ค่อยมีเรื่องเกี่ยวกับเศรษฐกิจ ส่วนใหญ่เป็นวาระเกี่ยวกับด้านสังคม ส่วนฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในเรื่องเศรษฐกิจนั้น ตนจะช่วยเท่าที่ช่วยได้ และคงต้องปรึกษากับนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรีด้วยว่าเรื่องจริงคืออะไร เพราะเคยรับผิดชอบ

* โวจะเข้าไปแก้ไขเรื่องโกง

ทางด้านนางพรรณสิริกล่าวว่า ได้พูดคุยกับ รมว.สาธารณสุขเรื่องแนวทางการทำงานแล้ว และนายกฯก็ได้ให้กำลังใจในการทำงาน แม้จะเป็นการทำงานการเมืองครั้งแรกแต่ก็ไม่รู้สึกกดดัน ตนมีความมั่นใจ

ขณะที่นายชินวรณ์ให้สัมภาษณ์ถึงการร้องเรียนเรื่องการจัดซื้อแบบเรียนตามโครงการไทยเข้มแข็งว่า กระบวนการใดที่ยังบกพร่องก็ต้องตรวจสอบแก้ไข โครงการนี้ต้องเดินหน้าต่อเพื่อเพิ่มคุณภาพทางการศึกษา ใครที่ไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตก็ต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย

* อู๊ดด้ารับหนักใจงาน สธ.

ส่วนนายจุรินทร์ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาในกระทรวงสาธารณสุขว่า มีหลายประเด็น ที่ต้องเข้าไปดูแล ในวันที่ 20 ม.ค. เวลา 09.00 น. ตนจะเข้าไปทำงานที่กระทรวงและจะแถลงแนวทางการทำงาน ส่วนการติดตามผลการสอบสวนโครงการไทยเข้มแข็ง นายกฯมอบเป็นนโยบายไว้แล้วว่าต้องดำเนินการต่อให้จบกระบวนการ เชื่อว่าจะเป็นผลดีกับทุกฝ่าย ไม่ต้องมีมลทินค้างคาอย่างนี้

การดำเนินการผมไม่ได้มีเจตนาที่จะไปทำให้ใครเสียหาย แต่เป็นหน้าที่ต้องเดินหน้าให้จบ และยินดีรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย ขอให้ทุกฝ่ายตระหนักว่าเรื่องนี้ต้อง ให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่ถูกสอบ เพื่อจะได้ทำให้โครงการนี้เดินหน้าต่อไป แต่ยอมรับว่าการแก้ไขปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องง่ายและเป็นงานหนักชิ้นหนึ่ง รมว.สาธารณสุข กล่าว

* มาร์คลั่นกฎเหล็กยังใช้อยู่

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า การประชุม ครม.นัดแรกบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ก่อนการประชุมจะเริ่มบรรดารัฐมนตรีต่างจับไม้จับมือแสดงความยินดีกับรัฐมนตรีใหม่ทั้ง 5 คน และต่างหยอกล้อกันอย่างอารมณ์ดี และเมื่อเริ่มประชุมนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวแสดงความยินดีกับรัฐมนตรีใหม่ทั้ง 5 คน พร้อมกล่าวว่า การเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครั้งนี้ พระองค์ท่านได้ทรงเน้นย้ำเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต รัฐมนตรีใหม่ได้นับหรือไม่ว่าพระองค์ท่านได้ตรัสเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตกี่ครั้ง ซึ่งตนนับได้ถึง 5 ครั้ง รวมทั้งได้ทรงตรัสว่าถ้าเราไม่ปฏิบัติตาม คำปฏิญาณจะไม่เสียหายเฉพาะตัว แต่เสียหายถึงประเทศชาติด้วย ดังนั้นขอฝากให้รัฐมนตรีทุกคนน้อมนำกระแสพระราชดำรัสไปปฏิบัติตามอย่างจริงจัง

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวกับ ครม.ว่ากฎเหล็ก 9 ข้อยังใช้กับรัฐมนตรีทั้งเก่าและใหม่ตามปกติ และได้กำชับรัฐมนตรีห้ามเดินทางไปต่างประเทศในระหว่างเปิดสมัยประชุมสภาที่จะเริ่มวันที่ 21 ม.ค. เว้นแต่มีงานที่ต้องไปประชุม ถ้าไปเปิดงานหรือดูงานตนไม่อนุมัติ เรื่องนี้ถือเป็น 1 ใน 9 กฎเหล็กด้วย

* เผยคลังส่งการบ้านไม่ผ่าน

ภายหลังการประชุมนายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ถึงการมอบนโยบายให้กับรัฐ มนตรีใหม่ว่า ตนยืนยันว่ากฎ 9 ข้อใช้กับทั้งรัฐมนตรีเก่าและใหม่แบบเท่าเทียมกันเหมือนเดิม และได้ย้ำกับ ครม. ถึงพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต เมื่อถามว่ามั่นใจแค่ไหนว่า ครม. จะปฏิบัติตามได้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนมีหน้าที่ในการดูแลให้เป็นเช่นนั้น

นายกฯกล่าวอีกว่า ขณะนี้รัฐมนตรีเกือบทุกกระทรวงได้ส่งการบ้านตามที่ตนได้มอบหมายให้ไปทำแล้ว ขาดเพียงกระทรวงสาธารณสุขที่ต้องอนุโลมให้ อย่างไรก็ตามตนได้ดูรายงานที่ส่งมาให้เป็นบางส่วนไปแล้ว หลายกระทรวงทำมาค่อนข้างดี แต่ยังมีบางกระทรวงที่ต้องเชิญมาคุย เพราะยังไม่ได้เขียนแนวที่จะทำต่อไปให้ชัดเจน เช่น กระทรวงการคลัง

* ตั้งกอร์ปศักดิ์ตามนโยบาย

ส่วนการแต่งตั้งให้นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการประสานงานและขับเคลื่อนการดำเนินงานตามมติ ครม. (ปคค.) นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การแต่งตั้งคณะกรรมการชุดนี้เพราะเห็นว่าหลังจากที่ทำงานมา 1 ปี มี นโยบายมติ ครม. และโครงการต่าง ๆ ค่อนข้างมาก จึงจำเป็นจะต้องมีการติดตามโดยฝ่ายการเมืองเพื่อเร่งรัดและประเมิน

เมื่อถามว่า มีนโยบายใดที่ต้องการให้เข้าไปติดตามเป็นอันดับแรก นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มีนโยบายและเศรษฐกิจบางเรื่อง โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่จะเข้าไปดู เช่น โครงการประกันรายได้ยังอยู่ในจุดที่จะต้องมีการปรับให้มีความลงตัวชัดเจนมากขึ้น

* ลองของสามสีมือดีกรีดรถ

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายก รัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึง ครม. ชุดใหม่ว่า เมื่อมีนายไตรรงค์เข้ามาเป็นรองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ จะทำให้การบริหารงานของรัฐบาลคึกคักขึ้น และขอต้อนรับด้วยใจ 1 ปีที่ผ่านมารัฐบาลปูพื้นฐานเอาไว้อย่างดี เมื่อนายไตรรงค์เข้ามาต่อยอดก็จะสามารถฟื้นเศรษฐกิจไทยได้ เชื่อว่าในปี 53 ประเทศ จะลุกขึ้นยืนได้อย่างแข็งแรง

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า หลังจากที่นายไตรรงค์เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในวันแรก ก็มีมือดีแอบกรีดรถโฟล์คส่วนตัวสีดำ ทะเบียน ฮง 11 บริเวณด้านหน้ากระโปรง ห้องเครื่อง โดยคนขับรถได้นำรถไปจอดที่จอดรถประจำตำแหน่ง ด้านขบัญชาการ สันนิษฐานว่าน่าจะใช้ปลายกุญแจหรือของแข็งกรีด เมื่อนายตำรวจติดตามและคนขับรถแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพื่อขอตรวจดูภาพในวงจรปิด ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่ากล้อง วงจรปิดเสียไม่สามารถตรวจสอบอะไรได้

* ไม่ห่วง เติ้งล็อบบี้แก้ รธน.

ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้ สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา จะเดินสายหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านในการร่วมลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยไม่มาพบกับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ว่า ไม่มีปัญหา การแก้ไขนั้นเป็นเรื่องของสภาพรรค จะมีการสัมมนา ในวันที่ 23-24 ม.ค. เพื่อกำหนดแนวทางในเรื่องนี้ หลังการสัมมนาแล้วคงจะได้คุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลก่อนวันที่ 28 ม.ค.

เมื่อถามว่า ถ้ามติพรรคไม่เห็นด้วยการร่วมงานกับพรรคร่วมรัฐบาลจะมีปัญหาหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงต้องอธิบายกัน แต่พรรคร่วมรัฐบาลพูดแล้วว่าการทำงานเป็นเรื่องหนึ่ง การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นอีก เรื่องหนึ่ง

* เทพมีคำตอบให้พรรคร่วมแน่

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงความคืบหน้าในการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า พรรคจะให้คำตอบที่ชัดเจนก่อนที่จะเปิดประชุมสภา สมัยสามัญ ผู้สื่อข่าวถามว่า ในที่ประชุมสัมมนาพรรคที่ จ.กระบี่ ระหว่างวันที่ 22-24 ม.ค. จะได้ข้อสรุปหรือไม่ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ทั้งหมดจะเกิดความชัดเจน และจะมีคำตอบให้พรรคร่วมรัฐบาลเมื่อกลับมากรุงเทพฯ

เมื่อถามต่อว่า หากมติพรรคไม่เห็นด้วยจะมีปัญหากับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า อย่าเพิ่งคาดการณ์ว่าพรรคจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย แต่ไม่ว่าพรรคมีความเห็นอย่างไรก็จะเปิดเผยต่อสื่อมวลชน เมื่อถามว่า การแก้ไข 2 ประเด็นซึ่งเป็นประโยชน์ของฝ่ายการเมืองจะตอบคำถามของสังคมอย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า การแก้ไข 2 ประเด็นเป็นการแก้ไขเล็กไม่มีผลต่อชีวิตของประชาชนโดยตรง เมื่อถามว่า หลายฝ่ายเป็นห่วงว่าอาจมีการขยายนำไปสู่ประเด็นอื่น โดยเฉพาะการนิรโทษกรรม นายสุเทพกล่าวว่า จุดยืนของพรรคคือไม่มีเรื่องนิรโทษกรรม

* ปชป.ตุกติกแก้รัฐธรรมนูญ

นายวิทยา แก้วภราดัย ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า วันที่ 20 ม.ค. ตนจะเข้าพบนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา เพื่อหารือวาระการประชุมสภานัดแรกที่จะเปิดในวันที่ 21 ม.ค. อย่างไรก็ตามการประชุมวิปรัฐบาลยังไม่มีการหารือเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่มอบหมายให้แต่ละพรรคกลับไปถามความเห็นของสมาชิกก่อน เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะมาหารือกันอีกครั้ง

นายวิทยากล่าวต่อว่า ในส่วนของพรรคจะมีการหารือเรื่องนี้ในการสัมมนาพรรคที่ จ.กระบี่ ระหว่างวันที่ 22-24 ม.ค. แต่เชื่อว่าพรรคชาติไทยพัฒนาคงไม่รอความชัดเจนจากพรรคประชาธิปัตย์ เพราะนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาพรรค เร่งเดินเกมขอเสียงสนับสนุนกดดันให้รัฐบาลแก้ไขรัฐธรรมนูญ ด้วยการนัดรับประทานอาหารกับแกนนำพรรคภูมิใจไทย พรรคเพื่อแผ่นดิน พรรคกิจสังคม

* ภท.-ชทพ.จับมือแก้ รธน.

นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงว่า ในวันที่ 20 ม.ค.เวลา 11.00 น.ที่ รร.สยามซิตี แกนนำพรรคจะเดินทางไปร่วมประชุมกับแกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา เพื่อกำหนดจุดยืนการทำงานในสภา พร้อมออกแถลงการณ์ร่วมกัน เรื่องหลักที่จะประชุมได้แก่ การแก้ไขรัฐธรรมนูญเร่งด่วน 2 ประเด็น คือ มาตรา 190 และระบบการเลือกตั้งแบบเขตเดียวเบอร์เดียว

โฆษกพรรคภูมิใจไทยกล่าวต่อว่า การประชุมและออกแถลงการณ์ครั้งนี้ไม่ถือเป็นการกดดันพรรคประชาธิปัตย์ เพราะท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์แบ่งเป็น 2 ทาง หากเขาไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไร การประชุมครั้งนี้จะมีระดับผู้ใหญ่ อาทิ นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย นายเนวิน ชิดชอบ นายสรอรรถ กลิ่นประทุม นาย สมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคภูมิใจไทย ร่วมเป็นสักขีพยานการประชุมด้วย นอกจากนี้พรรคมีมติตั้งนายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ ส.ส.ขอนแก่น อดีต รมช.คมนาคม เป็นประธานวิปรัฐบาลของพรรค แทนนายปัญญา ศรีปัญญา ส.ส.ขอนแก่น ที่ลาออกไป

* ยื่นญัตติเชือดปลายเดือนก.พ.

นายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่าย ค้าน ในฐานะรองประธานคณะกรรมการ กลั่นกรองข้อมูลอภิปรายไม่ไว้วางใจ กล่าวว่า การยื่นญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้คุยกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส. พรรคแล้ว เห็นว่าการยื่นญัตติปลายเดือน ก.พ. ไม่น่าจะช้าเกินไป และจะอภิปรายได้ช่วงต้นเดือน มี.ค. ยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท ที่จะพิพากษาในวันที่ 26 ก.พ.

ประธานวิปฝ่ายค้านกล่าวต่อว่า การปรับ ครม.จะไม่ส่งผลต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะนายกฯจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบสูงสุดอยู่แล้ว ไม่ว่าปรับเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีไปอย่างไรก็ตาม เราก็จะพุ่งเป้าไปที่ทั้งคณะ เมื่อถามว่า ประธานวิปรัฐบาลระบุจะหารือกับประธานสภาเพื่อแก้ปัญหาสภาล่มซ้ำซาก นายวิทยากล่าวว่า เรื่องสภาล่มไม่เกี่ยวกับฝ่ายค้าน เป็นเพราะฝ่ายรัฐบาลที่คุมเสียงไม่ได้เอง

* พท.มีมติสอย มาร์ค-กษิต

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงผลการประชุม ส.ส. พรรคว่า พรรคมีมติให้อภิปรายไม่ไว้วางใจพร้อมยื่นถอดถอนนายอภิสิทธิ์ และนาย กษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ ส่วนรัฐมนตรีคนอื่นรวมถึงวันที่จะยื่นญัตติตลอดจนผู้ที่จะเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทยได้นัดประชุมกรรมการทั้ง 12 คน เพื่อพิจารณาอีกครั้งในเวลา 10.00 น. ของวันที่ 20 ม.ค.ที่พรรคเพื่อไทย เพื่อขอมติที่ประชุมอีกครั้งในวันที่ 26 ม.ค.

ด้าน ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เบื้องต้นตนต้องการให้ใช้เวลาอภิปรายไม่เกิน 1 วันครึ่ง มีผู้อภิปรายประมาณ 12-15 คน จากนั้นจึงเปิดโอกาสให้รัฐมนตรีชี้แจง ข้อมูล ของตนพุ่งเป้าไปที่นายกฯ และนายกษิต ตนมีข้อมูลชัดเจนอยู่แล้ว รับรองว่าไม่ทำ ให้ประชาชนที่รอคอยฟังผิดหวังแน่ และตนจะขอพรรคเป็นคนร่างญัตติเองเพื่อป้องกันรั่วไหล

* เปิด4ชื่อพท.เสนอชิงนายกฯ

แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทยแจ้งว่า การที่พรรคมีมติยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯพร้อมยื่นถอดถอน ซึ่งทำให้พรรคต้องเสนอชื่อบุคคลมาเป็นนายกฯตามที่รัฐธรรมนูญ ม.158 นั้น ส.ส.ในพรรคให้การสนับสนุน 4 คน เนื่องจากไม่มีตัวเลือกมากนัก ได้แก่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรี และนายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา

* ทหารเฮเข้า พท.อีกระลอก

วันเดียวกันนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และพล.อ.วัฒนา สรรพานิช อดีตรอง ผบ.ทหารสูงสุด และสมาชิกพรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงเปิดตัว อดีตนายทหาร จปร.9 อดีตนายทหารพลร่มรบพิเศษ จ.ลพบุรีและอดีตนายทหารพราน จากค่ายปักธงชัย จ.นครราชสีมา พล.ต.ประธาน ภักดี พล.ท.อุดม โรจนวิภาค และ พล.ต.สมาน เกษรอินทร์ รองประธานที่ปรึกษาคณะ กรรมการทำฝนเทียม น.ท.ชาญ คชรินทร์ พ.อ.(พิเศษ) บุญเพชร ภักดีณรงค์ อดีตนายทหารพราน เป็นต้น

พล.ต.ประธานกล่าวว่า ตนเคยสมัครเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทย เมื่อถูกยุบก็มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชาชนจนกระทั่งถึงพรรคเพื่อไทย เพราะบ้านเมืองวันนี้ไม่ได้ใช้หลักการและเหตุผล ชนชั้น นำย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และยังแย่งชิงทรัพยากรของชาติโดยไม่หวั่นต่อกฎหมาย อำมาตย์ร่วมกับนายทุนขี้ฉ้อ เห็นได้ชัดจาก กรณีที่ดินเขายายเที่ยง จ.นครราชสีมา และกรณีเขาสอยดาว จ.จันทบุรี ตนจึงได้ชวนพรรคพวกมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย

* เด้งปลัดท่องเที่ยวเข้ากรุ

ส่วนการเมืองอื่นนายวัชระ กรรณิ การ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม.ว่า นายกฯมีบัญชาอนุมัติให้รับโอน น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้มาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯฝ่ายข้าราชการประจำ ตามที่นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เสนอผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นการยืมตัวมาช่วยงานหรือเป็นตำแหน่งแขวน นายวัชระกล่าวว่า ไม่ใช่เป็นการยืมตัว

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า เป็นเหตุผลทางการบริหาร ทางนายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวฯ จะเป็นคนชี้แจงรายละเอียด อย่างไรก็ตาม น.ส.ศศิธารา จะมาช่วยงานที่ทำเนียบรัฐบาล โดยนายไตรรงค์จะเป็นคนที่ทำงานร่วมกับ น.ส.ศศิธารา การโยกย้ายครั้งนี้ถือเป็นการโอนขาดมาจากกระทรวงการท่องเที่ยวฯ

* ชุมพลแจงนายกฯขอตัว

ด้านนายชุมพลกล่าวถึงการโยกย้าย น.ส.ศศิธาราว่า ไม่มีความขัดแย้งแต่เพื่อให้ เกิดความเหมาะสม เพราะทางสำนักเลขา ธิการนายกฯต้องการขอตัวคนที่มีความรู้เข้าไปช่วยงานด้านการกีฬาและการท่องเที่ยว เพื่อประสานงานกับส่วนราชการต่าง ๆ ที่ต้องเกี่ยวข้องกับต่างประเทศ เมื่อถามว่า ได้แจ้งให้ น.ส.ศศิธาราทราบถึงเหตุผลการ โยกย้ายหรือไม่ นายชุมพลกล่าวว่า ระบบราชการไม่มีการแจ้งให้ทราบ เจ้าตัวจะเห็นอย่างไรตนไม่ทราบ ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่านายกฯขอตัวให้ไปช่วยงานด้วยตัวเองใช่หรือไม่ นายชุมพลกล่าวว่า ตามระบบราชการ เป็นอย่างนั้น

ขณะที่ น.ส.ศศิธารากล่าวเปิดใจกรณีที่มีคำสั่งด่วนโยกย้ายไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำว่า ไม่ทราบเหตุผลเช่นกัน แต่เมื่อ ครม. มีมติเช่นไร ก็พร้อมปฏิบัติตาม แต่แปลกใจว่าเหตุใด จึงโยกย้ายช่วงนี้ ทำไมไม่โยกย้ายตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ย. ซึ่งเป็นช่วงการโยกย้ายข้าราช การ อย่างไรก็ตามไม่น้อยใจเพราะเข้าใจดี ว่าเป็นข้าราชการก็ต้องมีหมุนเวียนปกติ เมื่อผู้บังคับบัญชาเห็นว่าไม่สมควรก็ต้องยอมรับ

* เข็นอรรถชัยเสียบแทน

แหล่งข่าวจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า นายชุมพลเตรียมเสนอชื่อนายอรรถชัย บุรกรรมโกวิท รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ มาเป็นปลัดกระทรวง การท่องเที่ยวและกีฬาคนใหม่ แทน น.ส. ศศิธารา แล้ว โดยให้เหตุผลว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถด้านบริหารงาน

นายเจริญ วังอนานนท์ โฆษกสหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย (เฟตต้า) กล่าวว่า เฟตต้าเตรียมทำหนังสือคัดค้านกรณีโยกย้าย น.ส.ศศิธาราไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ เนื่องจากมองว่า น.ส.ศศิธารา สามารถประสานงานกับภาคเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้ดี ไม่ใช่เอาใครก็ได้มาทำหน้าที่ มองว่าการโยกย้าย น.ส.ศศิธาราไป เป็นการตัดแขนตัดขาที่สำคัญ เหมือนไม่ให้ความสำคัญกับภาคการท่องเที่ยว

* ธิลิ้มเปิดพรรคเป็นทางการ

ส่วนการเมืองอื่นที่ทำการพรรคการเมืองใหม่ ได้มีพิธีเปิดพรรคฯอย่างเป็นทางการ มีแกนนำพันธมิตรฯ ใส่เสื้อสีเขียวอ่อนซึ่งเป็นสีสัญลักษณ์ของพรรคฯ เข้าร่วมงาน อย่างคับคั่ง รวมทั้งแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ อาทิ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมว.วิทยาศาสตร์ฯ คุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นายวิทยา แก้วภราดัย อดีต รมว.สาธารณสุข

นายสนธิ ลิ้มทองกุล ในฐานะหัวหน้าพรรคฯ กล่าวหลังทำพิธีเปิดป้ายว่า พรรคฯคือรูปแบบหนึ่งของพันธมิตรฯ ในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรคคนแรก อยากบอกว่าเจตนารมณ์ พรรคก็คือเจตนารมณ์ของแกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 5 คน

* แจงหลบเลียแผล ตปท.

เมื่อถามถึงการหลบไปอยู่ต่างประเทศ ระยะเวลาหนึ่ง นายสนธิกล่าวว่า ที่ต้องไปอยู่ต่างประเทศเป็นเพราะไม่อยากตกเป็นที่สนใจ และต้องการรักษาร่างกายจากการโดนลอบยิงเมื่อปีที่ผ่านมา ไ ม่ได้หลบหนีใครหรือหยุดเคลื่อนไหวทางการเมือง

นายสนธิกล่าวต่อว่า เสถียรภาพของรัฐบาลจะอยู่ได้ครบเทอมหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการที่นายอภิสิทธิ์ที่จะรับได้กับการต้องตอบแทนบุญคุณ ดังนั้นนายอภิสิทธิ์ต้องเลือกระหว่างความสุขของการเป็นนายกฯ กับเรื่องการตัดสินใจของส่วนรวมให้ได้ คาดว่านายกฯคงไม่เลือกที่จะยุบสภาในตอนนี้ เพราะรู้ดีว่าเป็นเรื่องยากที่จะกลับมาเป็นรัฐบาลอีก.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook