บล.กิมเอ็ง : รายงานตลาดหุ้น 20/01/53
บล.กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 20/01/53แนวโน้มตลาดวันนี้ เราคาดว่าตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวในวันนี้ หลังปรับตัวลงแรง โดยได้แรงหนุนจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับตัวขึ้นในคืนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามเราไม่กล้าฟันธงว่าตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวขึ้นได้ร้อนแรงในวันนี้ เนื่องจากมีปัจจัยลบจากปัญหาการเมืองในประเทศกดดันอยู่ในขณะนี้ ธนาคารพาณิชย์ของไทยได้เริ่มมีการรายงานผลประกอบการในคืนที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่ใกล้เคียงกับประมาณการของตลาด นอกจากนี้เราไม่สามารถปฎิเสธได้เลยว่าภาวะเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังล่าสุดกระทรวงพาณิชย์รายงานมูลค่าการส่งออกเบื้องต้นในเดือนธันวาคมขยายตัวแข็งแกร่งมาก ดังนั้นเรายังคงคำแนะนำทยอยสะสมหุ้นต่อ ณ ระดับดัชนีปัจจุบัน ราคาอ่อนตัวลงเมื่อวานนี้ถือเป็นโอกาสซื้อที่ดี ในวันนี้เราขอแนะนำ SSI, LPN, และ STANLY ปัญหาการเมืองในประเทศกดดันภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทย: ความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของรัฐบาลปัจจุบันจากปัญหาการเมืองในประเทศกดดันให้ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลง 10.41 จุดมาที่ระดับ 736.48 จุดวานนี้ โดยมูลค่าการซื้อขายรวมปรับตัวขึ้นมาที่ระดับ 22,087 ล้านบาท โดยนักลงทุนเกือบทุกกลุ่มมีสถานะขายสุทธิ ยกเว้นนักลงทุนรายบุคคลในประเทศ โดยนักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 222 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 214 ล้านบาท, และพอร์ทโบรกเกอร์ขายสุทธิ 575 ล้านบาท นักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงจับการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนอย่างใกล้ชิด: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นในคืนที่ผ่านมาหลังบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งรายงานผลประกอบการออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด ดัชนี Dow Jones ปรับตัวขึ้น 115.78 จุด หรือ 1.09% ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปรับตัวขึ้น 1.25% และ 1.42% ตามลำดับ หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการ บริษัท IBM รายงานผลประกอบการที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดมาก นอกจากนี้นักลงทุนยังให้ความสนใจเข้ามาเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มสุขภาพ เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่าพรรครีพับลิกันจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกของรัฐแมสซาชูเซตส์ ซึ่งอาจสร้างความยากลำบากให้กับประธานาธิบดีบารัค โอบามา ในการเปลี่ยนแปลงแผนยกเครื่องระบบดูแลสุขภาพ ความกังวลเกี่ยวกับฐานะทางเศรษฐกิจของสมาชิกในกลุ่ม EU ช่วยผลักดันให้ค่าเงิน US Dollar เทียบยูโร แข็งค่าขึ้น ขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์เคลื่อนไหวไม่สอดคล้องกัน: เมื่อคืนที่ผ่านมาค่าเงิน US dollar เทียบยูโร แข็งค่าขึ้น เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลกับฐานะทางเศรษฐกิจของสมาชิกในกลุ่ม EU โดยเฉพาะประเทศกรีซ อย่างไรก็ตามค่าเงิน US dollar เทียบปอนด์ และเยนกลับเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ขณะเดียวกันราคาสินค้าโภคภัณฑ์เคลื่อนไหวไม่สอดคล้องกัน โดยราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าปรับตัวลง 0.27 เหรียญสหรัฐฯ เป็น 78.75 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้าปรับตัวขึ้น 10 เหรียญสหรัฐฯ เป็น 1,140.50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อออนซ์
