บล.กรุงศรีอยุธยา: รายงานภาวะหุ้น 21/01/53

บล.กรุงศรีอยุธยา: รายงานภาวะหุ้น 21/01/53

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บล.กรุงศรีอยุธยา : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 21/01/53 Market Recap and Trend: SET มีโอกาส Rebound แต่มีกรอบที่จำกัด              แม้ว่า SET จะสามารถ Rebound ได้บ้างเมื่อวานในช่วงเปิดตลาด แต่การปรับลดลงต่อเนื่องของตลาดหุ้นภูมิภาค โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีนและฮ่องกง จากความกังวลต่อมาตรการลดสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจของธนาคารกลางจีน ส่งผลให้ SET ปรับลดลงต่อเนื่อง 0.64% ปิดตลาดที่ 731.80 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 18,877 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นสุทธิต่อเนื่อง 1,150 ล้านบาท หลังจาก SET ปรับลดลงต่อเนื่อง 2 วันติดต่อกัน ทำให้มีโอกาสสำหรับการ Rebound สูงขึ้น อย่างไรก็ตามเรามองว่าการ Rebound จะเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากความกังวลต่อประเด็นทางการเมืองที่เพิ่มขึ้น ขณะที่การปรับลดลงของตลาดหุ้น Dow Jones 1.1% เมื่อคืนที่ผ่านมาจากความกังวลต่อมาตรการลดความร้อนแรงทางเศรษฐกิจของจีน และราคาน้ำมันที่ปรับลดลง 1.77% จะเป็นปัจจัยกดดัน SET วันนี้ ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์ฯที่แข็งค่าขึ้นแรงถือว่าเป็นปัจจัยลบต่อแนวโน้ม Fund Flows ระยะสั้นๆ Investment Strategy: SET ปิดตลาดต่ำกว่าจุด Trailing Stop ที่ 735 จุด...ลดสัดส่วนหุ้นในพอร์ตลงเหลือ 60% เพื่อจำกัดความเสี่ยงด้านขาลงไปก่อน               หลังจาก SET ปรับลดลงแรงติดต่อกัน 2 วันติดต่อกัน เราคาดว่าจะเริ่มเห็น SET เคลื่อนไหวในรูปแบบ Sideways มากขึ้น และแม้ว่าเราจะมีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้ม SET ในระยะกลาง-ยาว โดยมีมูลค่าพื้นฐานที่ 740-800 จุด ตามการฟื้นตัวเศรษฐกิจ, การขยายตัวกำไรบริษัทจดทะเบียน, และแนวโน้มการไหลเข้าของเงินทุนในระยะกลาง แต่เนื่องจาก SET ปิดตลาดต่ำกว่าจุด Trailing Stop ของเราที่ 735 จุด ทำให้เราแนะนำนักลงทุนลดสัดส่วนหุ้นในพอร์ตลงเหลือ 60% จากเดิมที่ 80% เพื่อจำกัดความเสี่ยงจากการพักฐานของ SET ในระยะสั้นๆ ไปก่อน…สำหรับกลุ่มหุ้นน่าสนใจที่คาดว่าจะมีแนวโน้มแข็งแกร่งกว่าตลาดยังเป็นกลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะประกาศผลการดำเนินงาน 4Q09 ออกมาดีอย่าง AOT - ความกังวลต่อการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นจังหวะในการเข้าซื้อหุ้น, TUF, PS, SPALI, SAT, STANLY,KBANK, KK, MINT และ HMPRO Top Picks                 PTT PTTEP BANPU TOP PTTAR BBL KBANK SCB KTB TISCO DCC SCC LH QH AP PS SPALI KSL TUF CPALL AOT STANLY SAT TTA MINT Futures Strategy :                 S50H10 อ่อนแอกว่าที่คาดไว้ แต่ยังแนะนำ Trading Long ไปที่แนวต้าน 518-520 จุด เหมือนเดิม AUTO :                 Sentiment ของหุ้นหลายๆ ตัวอ่อนแอลงต่อเนื่อง ตลาดต่างประเทศ และประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นในตลาดโลก                • ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลดลง ดัชนีเฉลี่ยดาวโจนส์ปิดลดลง 1.14% เช่นเดียวกับ S&P 500 ปิดลดลง 1.06% โดยได้รับแรงกดดันจากความวิตกที่ว่าจีนควบคุมการปล่อยกู้ของภาคธนาคาร อาจจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ประกอบกับ หุ้นไอบีเอ็มร่วง 2.9% ขณะที่นักลงทุนมองว่า แนวโน้มในปี 2010 ของไอบีเอ็มนั้นบ่งชี้ว่า การขยายตัวของผลกำไรจะชะลอตัวลง                • ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดลดลง ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ปิดลดลง 1.40 ดอลลาร์ หรือ 1.77% มาที่ 77.62 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล โดยได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นวอลล์สตรีทร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่ามาตรการจำกัดการปล่อยกู้ในภาคธนาคารของจีนอาจสร้างความเสียหายต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกขณะเดียวกันสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ในวันพฤหัสบดีนี้ โดยโพลล์รอยเตอร์คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบ อาจเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมันกลั่นอาจลดลง 100,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินอาจเพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจลดลง 0.4 %                • ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับยูโร ยูโรร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์ จากความวิตกเกี่ยวกับความสามารถของกรีซในการลดยอดขาดดุล ขณะที่ความวิตกที่ว่าจีนกำลังพยายามที่จะชะลอการปล่อยกู้ของภาคธนาคารนั้นได้ลดอุปสงค์ สำหรับสกุลเงินที่เกี่ยวพันกับสินค้าโภคภัณฑ์ ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ระบุถึง ชัยชนะของพรรครีพับลิกันสำหรับที่นั่งวุฒิสมาชิกที่ว่างลง ได้ช่วยหนุนดอลลาร์ขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนครึ่งเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญๆ จากมุมมองที่ว่า อาจจะมีการกดดันให้สภาคองเกรสควบคุมการขาดดุล                • ดัชนีค่าระวางเรือเทกองปิดลดลง 50 จุดมาที่ 3158 จุด รายงานภาคการผลิตที่ดีขึ้นโดยเฉพาะสหรัฐสร้างความเชื่อมั่นในการสต๊อกวัตถุดิบของผู้ผลิตทั่วโลกช่วยผลักดันค่าระวางเรือให้มีทิศทางขาขึ้นในช่วงนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook