CK ลดทุน-เพิ่มทุนเป็น 1.65พันล.-ขาย PP

CK ลดทุน-เพิ่มทุนเป็น 1.65พันล.-ขาย PP

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผถห. CK ไฟเขียวลดทุน- เพิ่มทุนเป็น 1.65 พันล้านบาท ออกหุ้นใหม่ 206.57 ล้านหุ้น จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิม สัดส่วน 7:1 ราคา 5.34 บาทต่อหุ้น จองซื้อ 22-26 ก.พ.นี้นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทฯได้จัดให้มีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2553 เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2553 ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2553 ได้มีมติดังนี้         1. รับรองรายงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2552 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 23เมษายน 2552โดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติรับรองด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์            2. อนุมัติการลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ โดยการตัดหุ้นสามัญที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วแต่ยังมิได้จำหน่ายออก จำนวน 3,987,831 หุ้น คิดเป็นทุนจดทะเบียน 3,987,831 บาท จากทุนจดทะเบียน 1,450,000,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 1,446,012,169 บาท เท่ากับทุนที่ชำระแล้ว ซึ่งในวาระนี้ต้องได้รับมติอนุมัติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้ นที่มาประชุมและมี สิ ทธิ ออกเสียงลงคะแนน โดยที่ประชุ มผู้ ถื อหุ้น มี มติ อนุ มัติด้ ว ยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์       3. อนุมัติแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทฯ ข้อ 4. เพื่อให้สอดคล้องกับการลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ เป็นดังนี้               ข้อ 4. ทุนจดทะเบียน จำนวน 1,446,012,169 บาท                      แบ่งออกเป็น               1,446,012,169 หุ้น                      มูลค่าหุ้นละ                              1 บาท                                โดยแยกออกเป็น                      หุ้นสามัญ                  1,446,012,169 หุ้น                      หุ้นบุริมสิทธิ                        -      หุ้น           ซึ่งในวาระนี้ต้องได้รับมติอนุมัติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน โดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์            4. อนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ ขึ้นอีก จำนวน 206,573,167 บาท จากทุนจดทะเบียนปัจจุบัน 1,446,012,169 บาท เป็นทุนจดทะเบียน 1,652,585,336 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 206,573,167 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อนำเงินทุนที่ได้จากการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ไปใช้ในการขยายกิจการของบริษัทฯ ในอนาคต และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน ซึ่งในวาระนี้ต้องได้รับมติอนุมัติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน โดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์           5. อนุมัติจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 206,573,167 หุ้น โดยมีรายละเอียดการจัดสรรดังนี้ ให้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 206,573,167 หุ้น (สองร้อยหกล้านห้าแสนเจ็ดหมื่นสามพันหนึ่งร้อยหกสิบเจ็ดหุ้น) เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนจำนวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ (Right Offering) ตามรายชื่อของผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ที่ปรากฏในวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2553เพื่อสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน และให้รวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นตามที่ มาตรา 225 พ.ร.บ.หลั ก ทรั พ ย์ แ ละตลาดหลั ก ทรั พ ย์ กํ า หนดโดยวิ ธี ปิ ด สมุ ด ทะเบี ย นพั ก การโอนหุ้ น ในวั น ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2553 ในอัตราส่วนการจัดสรร 7 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ เศษของหุ้นให้ปัดทิ้ง โดยเสนอขายในราคาส่วนลดร้อยละ 15 จากราคาตลาดถัวเฉลี่ยน้ำหนักในช่วง 15 วันทำการก่อนวันที่จะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัท ซึ่งเท่ากับราคาหุ้นละ 5.34 บาทโดยกำหนดวันจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนและรับชำระเงินในวันที่ 22-26 กุมภาพันธ์ 2553         ทั้งนี้ กำหนดเงื่อนไขให้ผู้ถือหุ้นเดิมสามารถจองซื้อเกินสิทธิได้ โดยบริษัทฯ จะจัดสรรหุ้นที่เหลือจากการจองซื้อตามสิทธิของผู้ถือหุ้นเดิมข้างต้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมซึ่งประสงค์จะใช้สิทธิจองซื้อหุ้นเกินกว่าสิทธิของตนตามสัดส่วนการถือหุ้นจนกว่าหุ้นที่เสนอขายจะหมดหรือจนกว่าจะไม่มีผู้ถือหุ้นรายใดประสงค์ที่จะซื้อหุ้นดังกล่าวอีกต่อไป ตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้        1) ผู้ถือหุ้นมีสิทธิจองซื้อหุ้นได้เกินกว่าสิทธิของตน โดยจะต้องทำการจองซื้อและชำระเงินค่าหุ้นในส่วนที่เกินนี้พร้อมกับการจองซื้อและชำระเงินค่าหุ้นที่ตนมีสิทธิจองซื้อตามส่วนการถือหุ้นในราคาเดียวกับราคาที่เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม        2) กรณีที่มีผู้ถือหุ้นเดิมจองซื้อหุ้นเกินกว่าสิทธิของตนเป็นจำนวนมากกว่าหุ้นส่วนที่เหลือจากการจัดสรรตามสิทธิ ให้จัดสรรหุ้นส่วนที่เหลือนั้นให้แก่ผู้ถือหุ้นที่จองซื้อหุ้นเกินกว่าสิทธิของตนและได้ชำระค่าจองซื้อหุ้นดังกล่าวตามสัดส่วนการถือหุ้นสามัญเดิมของผู้ถือหุ้นที่ได้จองซื้อหุ้นสามัญเกินกว่าสิทธิของตนแต่ละราย ซึ่งการจัดสรรหุ้นดังกล่าวให้ดำเนินการไปจนกระทั่งไม่มีหุ้นเหลือจากการจัดสรร ทั้งนี้ บริษัทฯ จะคืนเงินค่าจองซื้อหุ้นสามัญสำหรับส่วนที่ไม่ได้รับการจัดสรรแก่ผู้ถือหุ้น โดยไม่มีดอกเบี้ย ภายใน 14 วันนับแต่วันที่ปิดรับการจองซื้อหุ้น        3) กรณีที่มีผู้ถือหุ้นเดิมจองซื้อหุ้นเกินกว่าสิทธิของตนเป็นจำนวนน้อยกว่าหุ้นส่วนที่เหลือจากการจัดสรรตามสิทธิ ให้จัดสรรหุ้นส่วนที่เหลือนั้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อหุ้นเกินกว่าสิทธิและชำระค่าจองซื้อหุ้นดังกล่าวทุกราย        4) กรณีที่มีหุ้นคงเหลือตามการจองซื้อของผู้ถือหุ้นเดิมที่มิได้จัดสรร ให้คณะกรรมการบริษัทหรือบุคคลที่คณะกรรมการบริษัทมอบหมาย มีอำนาจจัดสรรหุ้นที่ไม่ได้รับการจองซื้อดังกล่าว มาเสนอขายแก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ซึ่งรวมถึงผู้ลงทุนประเภทสถาบัน และ/หรือผู้ลงทุนที่มีลักษณะเฉพาะได้ ในราคาใดๆ ก็ตามที่คณะกรรมการเห็นสมควร แต่ทั้งนี้ ราคาดังกล่าวต้ อ งไม่ต่ำา กว่ า ราคาที่ เ สนอขายแก่ ผู้ ถื อ หุ้ น เดิ ม โดยต้ อ งเป็ น ไปตามหลั ก เกณฑ์ ข องประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทจ. 28/2551 ทั้งนี้ สามารถเสนอขายในคราวเดียว หรือหลายคราวก็ได้ โดยถ้าบุคคลที่บริษัทฯ เสนอขายหุ้นดังกล่าวเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันกับบริษัทฯ แล้ว บริษัทฯจะต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ตามกฎของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเกี่ยวกับการเข้าทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน ก่อนจะเสนอขายหุ้นดังกล่าวแก่บุคคลดังกล่าวโดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์          6. อนุมัติแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัท ข้อ 4. เพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท ดังนี้                 ข้อ 4. ทุนจดทะเบียน จำนวน 1,652,585,336 บาท                         แบ่งออกเป็น               1,652,585,336 หุ้น                         มูลค่าหุ้นละ                             1 บาท                                   โดยแยกออกเป็น                         หุ้นสามัญ                  1,652,585,336 หุ้น                         หุ้นบุริมสิทธิ                        -      หุ้น           ซึ่งในวาระนี้ต้องได้รับมติอนุมัติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน โดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook