BAY รายได้-กำไรปี52 เข้มแข็ง

BAY รายได้-กำไรปี52 เข้มแข็ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

          รายงานข่าวจากธนาคาร กรุงศรีอยุธยา (BAY) เปิดเผยว่าสำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2552 ธนาคารและบริษัทย่อยมีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง โดยธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญและภาษีเงินได้ จำนวน 18,377 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,089 ล้านบาท หรือร้อยละ 38.3 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจำนวน 5,802 ล้านบาท หรือร้อยละ 72.8  สาเหตุหลักเกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ จำนวน 1,969 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีกำไรจากเงินลงทุนจำนวน 1,005 ล้านบาท ขณะที่ปีก่อนมีการบันทึกขาดทุนจากการปรับมูลค่ายุติธรรมสำหรับเงินลงทุนในตราสาร CDOs  จำนวน 2,294 ล้านบาท ด้านค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจำนวน 2,563 ล้านบาท หรือร้อยละ 12.1 ส่วนใหญ่เกิดจากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานและค่าใช้จ่ายในการเข้าซื้อกิจการ เมื่อหักสำรองค่าเผื่อหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญ จำนวน 10,216 ล้านบาท ซึ่งส่งผลให้สัดส่วนการกันเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 74.3  และภาษีเงินได้จำนวน 1,504 ล้านบาท ส่งผลให้ธนาคารมีกำไรสุทธิจำนวน 6,657 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,359 ล้านบาท หรือร้อยละ 54.9 เมื่อเทียบกับปีก่อน           ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552 ธนาคารและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 782,040 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34,155 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.6 เมื่อเปรียบเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 สาเหตุหลักเกิดจากเงินให้สินเชื่อเพิ่มขึ้น 46,431 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.3  ส่วนใหญ่เกิดจากการเข้าซื้อกิจการทั้ง 3 แห่งของ AIG และ GEMT            หนี้สินรวมมีจำนวน 689,455 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27,903 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.2 เมื่อเปรียบเทียบกับสิ้นปี 2551 ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นจากรายการระหว่างธนาคารและตลาดเงิน จำนวน 27,412 ล้านบาท  หรือร้อยละ 137.0 และหนี้สินอื่น จำนวน 14,475 ล้านบาท ในขณะที่เงินรับฝากลดลง 16,839 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.1 ซึ่งเป็นผลจากการลดลงของอัตราดอกเบี้ยตลาด  ส่งผลให้ผู้ฝากเงินนำเงินบางส่วนไปลงทุนด้านอื่น            สำหรับส่วนของผู้ถือหุ้นมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 92,585 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,252 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.2 เมื่อเปรียบเทียบกับสิ้นปี 2551 สาเหตุหลักเกิดจากกำไรสุทธิของปี 2552 จำนวน 6,657 ล้านบาท สุทธิจากการจ่ายเงินปันผลในระหว่างปี 2552 จำนวน 1,822 ล้านบาท การเพิ่มขึ้นของส่วนเกินทุนจากการตีราคาที่ดินและอาคาร และส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย จำนวน 1,695 ล้านบาท และ 62 ล้านบาท ตามลำดับ และส่วนเปลี่ยนแปลงมูลค่าเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 271 ล้านบาท ในไตรมาส 4/2552 ธนาคารได้นำมาตรฐานการบัญชีไทยฉบับที่ 12  เรื่อง ภาษีเงินได้ มาใช้ก่อนมาตรฐานการบัญชีมีผลบังคับใช้ ซึ่งได้ปรับปรุงงบการเงินงวดปัจจุบันและงวดก่อน ทำให้ภาษีเงินได้รอตัดบัญชีที่บันทึกในส่วนของผู้ถือหุ้นลดลง 611 ล้านบาท

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook