ศาลพิพากษากลับบก.ก๊อสซิปสตาร์ไม่หมิ่น ต่าย

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ"บก.ก๊อสซิปสตาร์"ไม่ผิดหมิ่น ลงภาพเหมือนดาราสาวช่อง 7 สี "ต่าย"ชัชฎาภร พาดหัวข่าว ชี้เนื้อข่าวมีคำอธิบาย ลงภาพจริงดาราสาวเปรียบเทียบอยู่แล้ว

ที่ห้องพิจารณาคดี 707 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันที่ 21 ม.ค.53 เวลา 10.00 น. ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีที่หมายลเขดำ อ.335/2548 ที่ น.ส.ชัชฎาภร หรือต่าย ธนันทา นักแสดงและพิธีกรสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 สี เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายศิริ เหลืองสวัสดิ์ บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา และนายภูวพิตร ศุภมิตรโชติม รองบรรณาธิการบริหาร นิตยสารบันเทิง "ก๊อสซิปสตาร์" กับพวกร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-6 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยโฆษณา กรณีเมื่อวันที่ 15 ม.ค. - 3 เม.ย.48 มีการตีพิมพ์ข่าวในนิตยสาร "ก๊อสซิป สตาร์" โดยพาดหัวข่าวพาดพิง พร้อมลงภาพงานปาร์ตี้ที่ "โจอี้ บอย" ร่วมงานและมีการระบุว่าภาพหญิงสาวที่ปรากฏมีใบหน้าคล้ายโจทก์

โดยศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 28 ก.ย.49 ให้จำคุกนายศิริ บก.นิตยสาร "ก๊อสซิป สตาร์" จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 3 เดือนและปรับเงิน 50,000 บาท แต่โทษจำคุกรอลงอาญา 2 ปี และสั่งปรับ บริษัทฐานการพิมพ์ จำเลยที่ 6 ด้วยจำนวน 50,000 บาท โดยให้ลงคำโฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์ 2 ฉบับต่อเนื่องกันเป็นเวลา 3 วัน และให้จำเลยที่ 1 และ 6 ร่วมกันจ่ายค่าเสียหายแก่โจทก์อีกจำนวน 800,000 บาท ต่อมาโจทก์ยื่นอุทธรณ์ ขอให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไม่ให้รอลงอาญา ส่วนจำเลยทั้งสองยื่นอุทธรณ์ แก้ประเด็นเรื่องการเสนอข่าวว่าเป็นการเปรียบเทียบภาพถ่ายของหญิงสาวที่มีหน้าตาคล้ายกับโจทก์ ไม่มีเจตนาที่จะทำให้โจทก์เสียหาย

ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนและประชุมปรึกษากันแล้วเห็นว่า แม้ข้อความและภาพข่าวในส่วนของการพาดหัวและเนื้อหาข่าวจะกล่าวหาโจทก์ในทางเสียหาย แต่มีการอธิบายถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าภาพดังกล่าวดูได้จากวีซีดี ซึ่งมีเรื่องหญิงสาวที่มีใบหน้าคล้ายกับโจทก์โดยมีการใส่เครื่องหมายลูกศรและนำภาพใบหน้าของโจทก์จริง ๆ มาลงไว้คู่กับเพื่อเปรียบเทียบบุคคลนั้นกับโจทก์

จึงแสดงให้เห็นว่าหญิงที่พบในวีซีดีนั้นมีแต่เพียงใบหน้าที่เหมือนกันไม่ได้กล่าวถึงรูปพรรณสัณฐานอื่นว่าเหมือนกันอย่างไร ซึ่งไม่ได้มีการอธิบายยืนยันข้อเท็จจริงอย่างชัดเจนว่าบุคคลทั้งสองเป็นบุคคลคนเดียวกัน อีกทั้งยังมีคำพูดของโจทก์ว่าเมื่อสอบถามดาราสาว เธอก็ปฏิเสธทันควันอย่างอารมณ์ดีว่าไม่ใช่ตนอย่างแน่นอนแต่หน้าเหมือนกันเท่านั้นเอง แสดงว่าโจทก์ทราบอยู่แล้วว่าหญิงสาวในวีซีดีนั้นไม่ใช่โจทก์

การที่จำเลยเสนอข่าวจึงน่าจะเป็นผลดีกับโจทก์มากกว่าการที่ให้ผู้อื่นดูภาพในวีซีดีเพียงอย่างเดียวแล้วจะทำให้เข้าใจผิดในตีโจทก์ได้ และแม้ถ้อยคำตามข้อความในข่าวจะมีคำว่าสวิงกิ้งซึ่งเป็นการประพฤติตนไม่เหมาะสมทางเพศ แต่กรณียังไม่ถือได้ว่าเป็นการกล่าวร้ายใส่ความโจทก์ ที่ศาลชั้นตนพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 และ 6 นั้นศาลอุทธรนณ์ไม่พ้องด้วย อุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 และ 6 ฟังขึ้น พิพากษายกฟ้อง