อาจารย์ดุ๊ก ขวัญใจนักศึกษา! ถูกขอลายเซ็น(ให้แม่)

อาจารย์ดุ๊ก ขวัญใจนักศึกษา! ถูกขอลายเซ็น(ให้แม่)

อาจารย์ดุ๊ก ขวัญใจนักศึกษา! ถูกขอลายเซ็น(ให้แม่)
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หากพูดถึงดารา-นักแสดงรุ่นเก่า (แต่ไม่แก่) หลายต่อหลายคนที่เคยโด่งดังในอดีต และทุกวันนี้ก็ยังมีแฟน ๆ คิดถึง บ้างก็ถามว่าเมื่อไหร่จะได้ดูผลงานการแสดงของพวกเขาอีก หนึ่งในบรรดานักแสดงรุ่นเก่าคุณภาพคับแก้วที่ว่านั้นก็คือ "บดินทร์ ดุ๊ก"

พระเอกชื่อดังที่แสดงภาพยนตร์มาตั้งแต่ปี 2529 อาทิ ด้วยรักและคิดถึง, จงรัก และอีกหลายสิบเรื่อง จากนั้นผลงานของเขาก็ค่อย ๆ ซาลง จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้ว "บดินทร์ ดุ๊ก" หวนคืนจอภาพยนตร์อีกครั้งเรื่อง "แฟนเก่า" ก็ยังคงเป็นที่ชื่นชอบของแฟน ๆ ไม่เสื่อมคลาย

เป็นโอกาสเหมาะที่ได้เจอตัวเขาในงานสังคมแห่งหนึ่ง เรา จึงรีบถลา ด้วยความดีใจ (ไม่เจอนานมาก..ก) เข้าไปหา "บดินทร์ ดุ๊ก" ทักทายประสาคนคุ้นเคย 2-3 นาที เราก็เปิดฉากจ้อทันที! "ดุ๊ก" หายไปไหนมา? ไม่เห็นมีงานแสดงเลย "ไม่ได้หายไปไหน ตอนนี้สอนหนังสืออยู่ที่มหาวิทยาลัยเกริก คณะนิเทศศาสตร์ สอนหลักทฤษฎีนิเทศ การผลิตสื่อเพื่อการประชาสัมพันธ์ การสัมมนาการแสดง การถ่ายรูป สอนมา 6 ปีได้แล้วครับ"

ทำไมถึงผันตัวเองจากพระเอก มาเป็นอาจารย์ "ที่เกิดเหตุการณ์หักมุมตอนนั้นก็อายุ 30 กว่าแล้วนะ พอมีเวลาปุ๊บ เราก็เลยมาเรียนที่มหาวิทยาลัยเกริก พอเรียนจบอาจารย์เค้าก็เลยชวนมาสอน" เป็นช่วงขาลงด้วยหรือเปล่า? "ตอนนั้นงานน้อยลงด้วย คิดว่าน่าจะทำอะไรให้เป็นประโยชน์กับสังคม ก็ดีเหมือนกัน แต่ก็ตัดสินใจนานมากเพราะเราไม่ได้เรียนสายครูโดยตรงก็เลยไม่มั่นใจ แล้วเราเป็นคนที่ทำอะไรต้องรู้สึกเป๊ะก่อนถึงจะทำ ถ้ามันไม่เต็มร้อย มันจะเกิดความระแวงระวัง และประหม่า ทำให้ทุกอย่างออกมาไม่ดี เหมือนกับการเล่นละครถ้าซีนไหนเราซ้อมบทมาเป๊ะ เราก็จะเล่นสบายมากเลย แต่ถ้าเราพะวงเมื่อไหร่เหงื่อจะแตกมือจะแฉะเหมือนกัน"

อะไรทำให้เรากล้าตัดสินใจล่ะ "จากลูกจีบหลาย ๆ ครั้ง เลยอยากจะลองดูก่อน แต่เราก็เป็นคนโชคดีที่มีคนให้โอกาสทุกครั้ง อย่างตอนถ่ายแบบสมัยก่อน เราก็บอกว่าเราโพสท่าไม่เป็น เพราะเป็นคนที่อายกล้องมาก เขาก็ให้โอกาสเรา เขาก็ยอมเปลืองฟิล์มเพื่อให้ได้ภาพเป็นธรรมชาติ พอได้มีโอกาสมาเล่นหนังกับท่านทิพย์ ท่านก็บอกให้เล่นเป็นตัวของตัวเอง อยากทำอะไรก็ทำ ถ้าเล่นไม่ได้แล้วท่านจะบอก เราก็เล่นไปจนจบเรื่อง พอมาอยู่ตรงนี้อาจารย์ที่เป็นหัวหน้าก็ให้โอกาสเราอีก บอกว่าถ้าไม่ชอบก็ไม่เป็นไร"

สอนหนังสือครั้งแรกตื่นเต้นไหม? "ก็ตื่นเต้น วิชาแรกที่สอนคือ หลักทฤษฎีนิเทศศาสตร์ ที่ฝังอยู่ในหัวทุกวันนี้ เพราะมันเป็นอะไรที่เราต้องทำการบ้านหนักเหมือนอย่างท่องบท ครั้งแรกห้องที่สอนมีเด็กประมาณ 80 คน ถือว่าเยอะมาก เราก็แอบดูว่าจะเอายังไงดี คิดว่าเราก็เล่นหนังเล่นละครมาเยอะ เจอคนเยอะกว่านี้อีก เราก็เลยนับถอยหลัง 5...4 3 2 1 แล้วก็เดินเข้าไป เราทำการบ้านมาแล้ว มีอะไรอยู่ในหัวเราก็พูดออกไป พอครั้งแรกผ่านเราก็จบ ครั้งต่อไปก็ไม่ตื่นเต้นแล้ว"

นักศึกษารู้มั้ยว่า เคยเป็นพระเอกหนัง? "ก็รู้บ้างนะครับ อย่างห้องแรกที่สอนอายุเขา 17-18 ก็เกือบไม่ทันเรา อาจจะไม่แน่ใจ แค่คุ้น ๆ แล้วเราก็ไม่ได้ประชาสัมพันธ์ตัวเองอยู่แล้ว ไม่ได้แนะนำอะไร ก็สอนเลย เพราะเด็กเค้าก็รู้อยู่แล้วว่าต้องเรียนกับใคร แต่อาจารย์บางคนต้องเท้าความ ว่าเรียนอะไร ทำอะไร จบอะไร แล้วเราไม่ได้สนใจว่าใครจะรู้หรือไม่รู้ แต่พอช่วงหลัง ๆ ก็ จะมีเด็กมาขอลายเซ็นเยอะมาก บอกว่าขอไปให้แม่ค่ะ เขาก็คงเอาไปเล่าให้แม่ฟังว่าเรียนกับอาจารย์บดินทร์" สอนมา 6 ปีแล้ว คงจะยึดอาชีพนี้แล้วล่ะสิ! "ยังไม่รู้เหมือนกัน เพราะเราก็ไปเรื่อย ๆ นอกจากตรงนี้เราก็มีธุรกิจส่วนตัวที่ทำอยู่ เป็นเรื่องของระบบความปลอดภัย พวกกล้องวงจรปิด ทำมาได้พักหนึ่งแล้ว"

ถ้าเลือกได้อยากเป็นนักแสดงยุคตัวเองหรือยุคนี้? "เป็นยุคตัวเองสิ ไม่งั้นเราคงไม่ดังขนาดนี้ เพราะยุคนี้คนมันเยอะ คนดูอาจจะจำไม่ได้ เราไม่รู้ว่าถ้ามาเป็นนักแสดงในยุคนี้มันจะโดดเด่นหรือเปล่า เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะได้เป็น ฟิล์ม หรือ บี้ ถ้าเป็นสมัยก่อนนักแสดงอาจจะดูน้อย แต่คนก็รู้จักเราทั้ง ประเทศ ไปไหนคนก็รู้ แต่พอมาเดินยุคนี้ คนก็สงสัยว่าเราเป็นนักแสดงหรือเปล่า ได้แต่เหล่ไปเหล่มา แล้วหน้าตานักแสดงสมัยนี้ ส่วนใหญ่หน้าตาเหมือนกันหมด เพราะหมอเดียวกัน"

นักแสดงที่เงียบ ๆ ไป โผล่มาอีกที มีลูกมีเมียซะแล้ว "ดุ๊ก" ล่ะ..มีกับเค้าอ๊ะป่าว! "ผมไม่มีครับ" เมื่อก่อนเค้าพูดว่า เป็นเกย์ "คำถามเรื่องเกย์มันมีมาตั้งนานแล้ว ถามว่าใช่หรือไม่ใช่ก็ให้เค้าดูเอาเอง ดูไปจนตายเลยแล้วกัน เหตุผลจริง ๆ ที่ยังไม่มีครอบครัว เพราะเรารู้สึกว่าชีวิตตอนนี้อิสระดี พูดตามตรงว่าเรายังไม่พร้อม ถึงแม้จะอายุ 40 กว่าแต่ก็ยังไม่พร้อม ก็มีบ้างที่ปิ๊ง..แต่ตัวเรายังเอาไม่รอดเลย ชีวิตคนมันไม่ได้ราบเรียบ เพราะเราก็รู้ตัวเราดี" เจอคนที่คลิกกัน ลงตัวเป๊ะ! บอกกันบ้างนะคะ ยิ่งคุยก็ยิ่งอยากไปเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์บดินทร์ ดุ๊ก จะเรียนไหวมั้ยเนี่ย!.

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook