บิ๊กป๊อก”ยันไม่เคยสั่งทหารล่า“เสธ.แดง

บิ๊กป๊อก”ยันไม่เคยสั่งทหารล่า“เสธ.แดง

บิ๊กป๊อก”ยันไม่เคยสั่งทหารล่า“เสธ.แดง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บิ๊กป๊อก"ยันไม่ เคยสั่งทหารล่า"เสธ.แดง" ชี้ปล่อยตร.ฟันตามกม. ไม่กลัว"เสธ.แดง"ขู่กระทืบ ด้าน"พัลลภ"จวก"อนุพงษ์" ทุเรศหมิ่นศักดิ์ศรีทหาร ส่งตร.บุกจับทหารถึงค่าย ชี้กองทัพแตกแยก แบ่ง 2 กลุ่ม"ทหารศักดินา-ทหารภูธร" ด้าน"เสธ.แดง"เดือดขึ้นกู-มึง ขู่"บิ๊กป๊อก"ระวังโดนแดงกระทืบหลังเกษียณ แฉ"อนุพงษ์"ส่งร้อยเอก มือขวาผบ.ทบ.เอาระเบิดใส่รถลูกสาวตัวเอง ยันไม่เคยคิดฆ่า"บิ๊กป๊อก" เผย "อนุพงษ์"ถูกหลายกลุ่มจ้องจองกฐิน

(23ม.ค.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์ถึงกระแสข่าวว่า มีการสั่งการให้หน่วยทหารทั่วประเทศตามล่าพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เพื่อส่งให้ตำรวจดำเนินคดีว่า ไม่เคยมีการประชุมอย่างที่ว่า พูดกันไปส่งเดช ตนไม่เคยไปประชุม เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย เราไม่มีหน้าที่ตามกฎหมายนที่จะไปเกี่ยวข้อง เขาดำเนินการตามขั้นตอนของเขา ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจรับผิดชอบอยู่ อยากให้สื่อมวลชนแก้ข่าวให้ตนด้วย เพราะตนไม่เคยคุยกับใครในเรื่องนี้ และกองทัพบกไม่เคยมีการประชุมสั่งการให้หน่วยทหารไปตามล่าจับเสธ.แดงเพราะเราไม่มีอำนาจหน้าที่ไปจับ มันไม่ใช่เรื่อง

เมื่อถามว่า จะดำเนินการกับพล.ต.ขัตติยะ ต่อไปอย่างไรพล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ต้องดำเนินการตามกฎหมาย เราจะไปทำอย่างอื่นได้อย่างไร เพราะเราต้องอยุ่ภายใต้กฎหมาย เมื่อถามว่า รู้สึกกลัวคำขู่ของพล.ต.ขัตติยะ หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่มี ไม่กลัวหรอก ไม่มีอะไรเลยเมื่อถามว่า ห่วงความปลอดภัยครอบครัวหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่มี ให้เฉยๆอย่าไปเขียนให้มันเป็นประเด็น เมื่อถามว่า จะมีการดำเนินการเพิ่มเติมกับเสธ.แดงหรือ ไม่ พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า สิ่งที่เขาทำจะไปอยู่ในอาญาทหารที่เขาทำอยู่ ส่วนการพักราชการเป็นขั้นตอนทางธุรการทีมีคดีเกิดขึ้นเฉยๆเท่านั้น ผลการสอบสวนทั้งหมดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคงอยู่ที่อาญาทหาร

เมื่อถามว่า หากเสธ.แดง ขึ้นเวทีเสื้อแดงอีกจะดำเนินการอย่างไร พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า อย่างที่บอกอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนพฤติกรรม ซึ่งเราพิจารณาตมากรอบและกฎที่มีอยู่ เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบหาผู้ยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่กองทัพบก พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ยังอยู่ในการสอบสวน ยังไม่ทราบว่า ใครเป็นผู้กระทำ

พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี สมาชิกพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ถึงการจับกุมพลทหารรับใช้ พล.ต. ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบกถึงค่ายทหารว่า การจับพลพลทหารด้วยการใส่กุญแจ และ จับเข้าคุกทำไม่ถูกต้อง เพราะทหารพวกนี้เป็นทหารเกณฑ์ และมารับใช้ชาติตาม พ.ร.บ.เกณฑ์ทหาร ซึ่งตามระเบียบของทหาร เมื่อมียศร้อยตรีขึ้นไปสามารถมีทหารประจำตัวได้ 1 คน ทหารพวกนี้มีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยให้กับผู้บังคับบัญชา ทั้งเสื้อผ้า เครื่องแต่งตัว รวมถึงการดูแลความสะอาดบ้าน ทั้งนี้ตั้งแต่สมัย ร.5 มีกฎระเบียบของกองทัพบังคับใช้มาจนถึงปัจจุบันกว่า 200 ปี เมื่อผู้บังคับบัญชาไปทำผิด ไม่เคยมีหรอกว่าทหารประจำตัวจะผิดด้วย อย่างกรณีของ พล.ค.ขัตติยะ ที่ทหารเกณฑ์ถูกจับและติดคุก เห็นแล้วมันทุเรศ และสะท้อนใจมาก

"เห็นภาพทหารเกณฑ์ที่รับใช้ เสธ.แดง ต้องถูกใจกุญแจมือ ขึ้นไปโรงพัก เข้าคุก มันไม่เคยมีมาก่อน เห็นแล้วมันทุเรศมาก แม้แต่บุคคลที่ทำกบฎมาไม่รู้กี่ครั้ง หรือแม้แต่ตัวผมเองที่เคยปฏิบัติการตอนเมษา24 โทษผมประหารชีวิต เขายังไม่เคยมาแตะต้องทหารประจำตัวของผมเลย มันเป็นเรื่องที่กระทบใจมาก ทั้งนี้ผมขอฝากไปยัง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบกว่าในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด จะต้องดูแลทุกสุขพลทหารเกณฑ์เหล่านี้ ปล่อยให้เขาย่ำยี่ทหารได้อย่างไร เพราะมันเสียศักดิ์ศรีของทหาร ถึงแม้ว่าจะเป็นพลทหารเขาก็มีศักดิ์ศรี เพราะเขามารับใช้ชาติบ้านเมืองเหมือนกับพวกท่าน" พล.อ.พัลลภ กล่าว

เมื่อถามว่า การจับกุมพลทหารครั้งนี้ถือเป็นความผิดพลาดของผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ใช่ เพราะท่านเป็นคนสั่งการให้มาค้นบ้าน พล.ต.ขัตติยะ และค้นบ้าน จ.ส.อ.ณัฏฐ์สิทธิ์ สุวรรณราช ผบ.หมู่ยานเกราะ ม.พัน 3 รอ. และที่มามีผู้พันสารวัตรทหาร และทหารพระธรรมนูญ ฉะนั้นเมื่อเกิดเรื่องในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาจะต้องรับผิดชอบ เพราะพวกนี้เป็นทหารเกณฑ์ทำรุนแรงไม่ถูกต้อง มันไม่เคยมีเรื่องแบบนี้มาก่อน ทั้งนี้เห็นว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะกระทบต่อขวัญและกำลังใจของกำลังพล ตนอยากถามว่าพลทหารเขาผิดอะไร นายผิดเขาจะต้องผิดและต้องติดคุกด้วยหรือ

"ส่วนเรื่องของ พล.ต.ขัตติยะ ที่ตำรวจไปตรวจค้นอาวุธสงครามที่บ้านพักดูแล้วเหมือนเป็นการจัดฉาก เพราะจากการตรวจค้นภายในบ้านพบระเบิดเอ็ม 26 จำนวน 1 ลูก ปืนพก .38 จำนวน 1 กระบอก และภายในรถตู้มีระเบิดอีก 1 ลูก และปืนพก 1 กระบอก ทำไมมันช่างพอดีกันหมดดูแล้วเป็นการจัดฉากส่วนอาวุธสงครามที่พบภายในบ้าน จ.ส.อ.ณัฏฐ์สิทธิ์ เท่าที่ทราบไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จ.ส.อ.ณัฏฐ์สิทธิ์ เป็นนักสะสม เช่น กระสุนปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน 40 มิลลิเมตร จำนวน 60 นัด ถามว่าจะเอาปืนที่ไหนมายิง เพราะกระสุนดังกล่าวใช้สำหรับยิงต่อสู้กับเครืองบิน กระสุนภายในบ้านมันหลากหลาย และ จ.ส.อ.ณัฎฐ์สิทธิ์ เคยเป็นขับรถให้กับ พล.ต.ขัตติยะ มานานแล้ว และทหารในกองทัพก็มีการสะสมอาวุธเหล่านี้เยอะแยะ"พล.อ.พัลลภ กล่าว

เมื่อถามว่า ขณะนี้เป็นห่วงพล.อ.อนุพงษ์เรื่องอะไร พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า "ห่วงที่ทหารเสธ.แดง โดนใส่กุญแจมือ และต้องเข้าคุก ในฐานะที่พล.อ.อนุพงษ์เป็นผบ.ทบ. เป็นผู้บังคับบัญชาทหาร ทำถูกต้องหรือ ที่ทำให้ทหารประจำการต้องโดนแบบนี้

เมื่อถามว่า กรณีเสธ.แดงมี อะไรแปลกๆ หรือไม่ พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า "ก็แปลกๆ มันลงตัวพอดี ในบ้านก็มีปืน 1 กระบอก มีระเบิด 1 ลูก เหมือนในรถ ผมเห็นนสพ.พาดหัว จะโยงมาที่ผม ผมไม่มั่นใจว่า เอ็ม 79 ที่ลงบก.ทบ.ว่าเสธ.แดงจะ เป็นคนทำ และการระเบิดของเอ็ม 79 ปิดไม่ได้หรอก เสียงจะดังสนั่นหวั่นไหว ถ้าโดนหลังคากระเบื้อง ก็ต้องแตกกระจาย นี่ไม่มีร่องรอยอะไร ก็ยังงงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น"
เมื่อถามว่า ทิศทางของกองทัพต่อไปจะเป็นอย่างไร พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปก็ไม่ค่อยดี เพราะตอนนี้กองทัพมีหลายกลุ่ม คือ นายทหารกลุ่มศักดินา และนายทหารกลุ่มภูธร ซึ่งทหารในกองทัพเขาคุยกันแบบนี้ ซึ่งทหารกลุ่มศักดินามาด้านตะวันออก

เมื่อถามถึงความแตกแยกในกองทัพพล.อ.พัลลภ กล่าวว่า มองว่า มันมีความแตกแยกเยอะ อย่างที่พล.ท.มะ โพธิ์งาม รุ่นเดียวกับพล.อ.อนุพงษ์ก็บอกแล้วว่า มีความแตกแยกในกองทัพ อีกทั้งทหารจปร.รุ่นต่างๆ ที่ไหลเข้ามาในพรรคเพื่อไทย ทหารเหล่านี้ เคยเป็นผู้บังคับหน่วย ตั้งแต่กองพันถึงแม่ทัพ ก็เป็นเครื่องชี้ว่าไม่ค่อยดี ส่วนความเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อ 2 วันที่แล้ว ได้เดินทางมากัมพูชาเพื่อแวะเติมน้ำมัน ก่อนที่จะเดินทางกลับไปอยู่ที่ดูไบ

เมื่อถามว่า การยิงระเบิดใส่กองทัพบกจะนำไปสู่ปฏิวัติหรือไม่ พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า การปฏิวัติมันก็มีบ่อยๆ อย่างคราวที่แล้วก็เห็นว่า แทนที่จะสงบ กลับเกิดความแตกแยกของคนในชาติมากมาย คนจะทำต้องคิดหนัก ส่วนพล.อ.อนุพงษ์ก็จะเกษียณแล้ว คงไม่ทำหรอก เมื่อถามว่า จะมีเรื่องอื่นตามมาบานปลายหรือไม่ พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า "น่าจะมีอะไรบานปลายตามมา ตอนนี้ก็ห่วงเสธ.แดง ก็โทรคุยกับเค้า เค้าก็ยืนยันว่าไม่รู้เรื่อง ผมก็บอกให้ระวังตัวดีๆ ละกัน บอกเค้าได้แค่นั้น เค้ายืนยันว่าไม่ได้ทำ"

ด้าน พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกไปสอบสวนหลังจากมีการค้น พบอาวุธสงครามที่อาจมีความเกี่ยวเนื่องกับเหตุยิงระเบิดใส่กองทัพบกว่า ตนไม่ต้องมอบตัว แต่ตนไปตามหมายเรียก เพราะศาลไม่ได้อนุมัติหมายจับ แค่ไปพบพนักงานสอบสวน เพื่อไปรับทราบข้อกล่าวหาว่ากระทำผิดจริงหรือไม่ เพราะตำรวจพยายามสอบสวนแล้วว่า ตนไม่ได้ครอบครองวัตถุระเบิด และเมื่อคดีไปสู้ในชั้นศาลทุกอย่างก็หลุดหมด

เมื่อถามถึงกรณีที่ได้มีทหารพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกไปจับคนสนิทถึง ค่ายทหาร พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า อยากถามไปถึงผบ.ทบ.ว่า ทำถูกหรือไม่ที่นำตำรวจเข้าไปค่ายทหารเพื่อจับกุมทหาร และที่ผ่านมา พล.อ.อนุพงษ์ ส่งลูกน้องมือขวาของผบ.ทบ.ยศร้อยเอกเอาระเบิดไปใส่ไว้ในรถลูกสาวตน ไม่มีใครเอาระเบิดไปไว้ในรถหรอก ปกติใครกล้าขู่พลทหารบ้านเสธ.แดง และรถคันนี้ลูกตนนั่งจะเอาลูกระเบิดไปใส่ในรถตัวเองหรือ ไม่มีใครเค้าทำกัน และวันที่ 23 ม.ค.นี้ผมจะกลับกรุงเทพฯ แล้ว เพราะศาลเห็นว่า ไม่มีพฤติกรรมหลบหนี เป็นทหารชั้นนายพล เป็นบุคคลสาธารณะ

พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า การที่ไปข่มขู่บังคับทหารเกณฑ์ในบ้านตน ซึ่งการกระทำลักษณะดังกล่าวถือว่า บ้า ตอนนี้ตนไม่ต้องทำอะไร เดี๋ยวอีก 7 เดือนพล.อ.อนุพงษ์จะเกษียณอายุการราชการ แล้วมากินก๋วยเตี๋ยวปากซอย กองทัพแดงจะไปกระทืบ ซึ่งตนจะไม่เข้าไปช่วย เมื่อพล.อ.อนุพงษ์ไปไหนโดยไม่มีขบวนนำจะไม่สะดวกเหมือนแต่ก่อน ปัจจุบันขบวนรถของพล.อ.อนุพงษ์ ยาวที่สุด

"กูอยากยืนยันว่า กูไม่เคยด่ามึงเลย คิดเองหมด แต่มัวไปเชื่อสื่เอเอสทีวี ถ้ามึงไม่เอากูกลับราชการภายใน 1 เดือน กูเชื่อว่า อีก7 เดือนครั้งหน้า เสื้อแดงจะกระทืบมึง และกูจะไม่ช่วยเลย เมื่อมีอำนาจสักวันอำนาจจะต้องหมดไป ตอนนี้เขาติดตามอยู่ เพราะไปสั่งการปราบม็อบเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทหาร 4 แสนคน ตำรวจ 2 แสนกว่าคน ปราบพันธมิตรไม่ได้ แต่พอกองกำลังไม่ทราบฝ่ายไปปราบพันธมิตร โดยที่มึงไม่ยอมปราบ แต่มึงกลับไปคุ้มครองพันธมิตร ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือว่า มึงบ้าแล้ว และมึงแต๋วแตกให้ตำรวจเข้าไปบุกค่ายทหาร เขาจับได้แล้วว่า มึงเป็นตุ๊ด และเขารู้ว่า ระหว่างทหารตุ๊ด กับทหารนักรบเป็นอย่างไร อยากถามป๊อกว่า เอาตำรวจเข้าไปค้นในค่ายทหารรู้สึกอย่างไร ทั้งที่มีนายพลมากมาย ที่ผ่านมามีแต่ผบ.ทบ.ไล่ตำรวจออกนอกค่าย แต่ตอนนี้กลับนำตำรจเข้ามาในค่าย และยังเอาระเบิดมาใส่ไว้ในรถลูกผมอีก "พล.ต.ขัตติยะ กล่าวอย่างมีอารมณ์

พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า ฝากบอกผบ.ทบ.ให้ขนลูกและเมียไปอยู่ค่ายทหารกรมทหาราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.)เพราะนายสนธิ ลิ้มทองกุล หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ เข้าใจว่า แก๊ง 3 ป.เป็นคนยิงนายสนธิ ซึ่งเขาคงเอาคืน ตนไม่เคยคิดจะฆ่าพล.อ.อนุพงษ์ ถ้าคิดจะฆ่าจริงตนจะไปซุ่มยิงขบวนรถ อยากถามว่า จะสู้ได้อย่างไร แต่จริงๆแล้วตนไม่เคยคิดจะฆ่าพล.อ.อนุพงษ์ แต่ความเป็นจริงพล.อ.อนุพงษ์ ถูกจองกฐินจากคนอื่นเยอะแยะ และพล.อ.อนุพ.ไปมีศัตรูกับเขาจำนวนมาก รวมถึงผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ หรือม็อบแดงที่แตกทับไป รวมถึงทหารพรานเก่าที่ทุกคนล้วนมีมือมีเท้าทั้งนั้น

"กูเป็นเพื่อนมึงมาตลอด กูหวังดีกับมึงแต่มึงประสงค์ร้ายกับกู ซึ่งผมไม่เคยโกรธเพื่อนป๊อก แต่ผมเตือนเพื่อนมาตลอด และผมอยากให้เพื่อนเอาผมกลับเข้ารับราชการ ผบทบ.ที่ผ่านมาทั้งพล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เมื่อมีปัญหาไม่เข้าใจจะเรียกผมไปพบเพื่อความเข้าใจ แต่นี่มึงเป็นเพื่อนกูแท้ๆ แต่มึงไม่เคยให้กูไปหา กูง้อจนไม่รู้จนจะง้ออย่างไร ไปหาทั้งพล.อ.พิรุณ แผ้วพลสง เสนาธิการทหารบก และพล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผบ.ทบ. ผมเป็นคนช่วยท่านนะคร้าบ"

เมื่อถามถึง ความสัมพันธ์ระหว่างเสธ.แดงกับ พล.อ.อนุพงษ์นั้น พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า "ผมไม่ต้องทำอะไรหรอก อีก 7 เดือน ประชาชนเขาจัดการเอง ตอนปราบพันธมิตรฯไม่ปราบ แต่ยังส่งกำลังไปคุ้มครองอีก ประชาชนจะเป็นคนจัดการพล.อ.อนุพงษ์เอง เมื่อถามอีกว่า มีโอกาสถูกถอดยศหรือไม่ พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า ถอดยศต้องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่มีเหตุที่ท่านจะทรงลงพระปรมาภิไธย ปลดนักรบ พล.อ.อนุพงษ์ยังไม่ได้สอบสวนผมเลย สั่งพักโดยใช้อำนาจการปกครอง ตนยังไม่ได้ผิดเลยที่ไปกัมพูชาก็เป็นเสธ.แดง 2 พล.อ.อนุพงษ์เป็นเพื่อนกันแท้ๆ แต่ใช้กำลังทหารมาทำกับทหาร มันขัดสายตาประชาชน"เสธ.แดงกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศหน้าบ้านพักของพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)ที่บ้าน เลขที่ 77/19 ถ.บรมราชชนนี 68 เขตทวีวัฒนา ช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า มีกำลังทหาร และ สห. แต่งเครื่องแบบรักษาความปลอดภัยเป็นจำนวนมาก บริเวณหน้าบ้านและพื้นที่รอบบ้านพัก ทั้งนี้ ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกและรถยนต์ ผ่านเข้ามาภายในบริเวณหน้าบ้านอย่างเด็ดขาด หากไม่มีเหตุจำเป็น ขณะที่ผู้ที่จะผ่านเข้าไปได้ จะต้องถูกสอบถาม และต้องเดินเท้าเข้าไปเท่านั้น

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook