สุเทพ"เย้ย"ทักษิณ"เลยเงื่อนไขตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น

สุเทพ"เย้ย"ทักษิณ"เลยเงื่อนไขตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น

สุเทพ"เย้ย"ทักษิณ"เลยเงื่อนไขตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"เทพเทือก" เย้ย "แม้ว" เลยเงื่อนไขตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นแล้ว ชี้ โลกยอมรับ"อภิสิทธิ์"มากกว่า ย้ำพรรคร่วมเข้าใจ ปชป. เรื่องแก้ รธน. มั่นใจไม่สวิงเปลี่ยนขั้ว ชี้ ส.ส.เห็นต่างได้แต่อย่าสร้างความร้าวฉาน หวังปี 53 ประเทศชาติดีขึ้น "ชวน"โยนกก.บห.พรรค เคาะแก้ รธน.สยบความเห็นต่าง

(24ม.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความพยายามตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ปรึกษารัฐบาลกัมพูชาว่า การตั้งรัฐาบาลพลัดถิ่นต้องมีเงื่อนไขคือ การปฏิวัติ เช่น รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ถูกปฏิวัติ และมีการตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น เพื่อให้เป็นที่ยอมรับในเวทีโลก แต่กรณีของพ.ต.ท.ทักษิณ เลยเงื่อนไขไปหมดแล้ว นอกจากนี้ เวทีโลกก็ให้การยอมรับนายกฯอภิสิทธิ์ มากกว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้น หากพ.ต.ท.ทักษิณ จะตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น ก็ทำได้แค่ 2 ประเทศเท่านั้นคือ ประเทศกัมพูชา และประเทศซิมบับเว

"สุเทพ"ปัดขู่ยุบสภาฯ-เชื่อพรรคร่วมไม่เปลี่ยนขั้ว

ส่วนกรณีที่โพลสำรวจความเห็นประชาชนระบุว่าถึงเวลาที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายไม่ไว้วางใจในโครงการไทยเข้มแข็งอาจจะเป็นเป้าใหญ่ นายสุเทพ กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เพราะฝ่ายค้านก็ทำการบ้านให้เต็มที่ ไปทำหน้าที่ของตัวเองในสภาผู้แทนราษฎร ประชาชนจะได้รับฟังและรู้ว่าทั้งสองฝ่ายที่พูดจากันฝ่ายไหนน่าเชื่อถือ ซึ่งการตรวจสอบรัฐบาลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภานั้น ถือว่าเป็นมาตราการหนึ่งในการตรวจสอบ ซึ่งตนยกย่องชื่นชมรัฐบาลก็ต้องเตรียมตัวไปชี้แจงให้ดีที่สุด

เมื่อถามต่อว่า เสียงของพรรคร่วมรัฐบาลยังเหนี่ยวแน่นอยู่หรือไม่กับการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ รองนายกฯ กล่าวว่า ยังเหนี่ยวแน่น ตนมั่นใจอย่างนั้นแน่นอนไม่มีปัญหา

เมื่อถามว่า ปัจจัยเรื่องรัฐธรรมนูญจะถูกนำมาต่อรองกับคะแนนเสียงนารยกมือในการอภิปรายหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า คงไม่เกี่ยวกัน เรื่องรัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องที่เราได้พูดจากันมานานแล้ว และในอีก1-2 วัน จะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนจากพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเพื่อนร่วมรัฐบาลคงจะมีความสบายใจขึ้น ส่วนเรื่องของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตนเข้าใจว่าหลายพรรคร่วมอยู่ ก็คงถูกอภิปรายด้วยกันทั้งนั้น ต่างคนก็ต่างต้องทำการบ้าน

เมื่อถามว่า พรรครัฐบาลจะสบายใจหลังจากได้คำตอบจากพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งหมายความว่าพรรคมีแนวโน้มว่าจะเอาเขตเดียวเบอร์เดียวใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนยังไม่สามารถตอบได้ แต่การได้คำตอบก็ดีกว่าที่จะรอคอยอยู่จนไม่รู้ว่าจะได้คำตอบเมื่อไรจะมีความชัดเจน

เมื่อถามว่า ถ้าประชาธิปัตย์เลือกเขตเดียวเบอร์เดียวจะทำให้เกิดความร้าวฉานในพรรคหรือไม่ นายุสเทพ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เอาประเด็นความคิดเห็นที่แตกต่างกันมาเป็นความร้าวฉาน เพราะพรรคประชาธิปัตย์เป็นแม่แบบของประชาธิปไตย ที่ไม่มีการโกรธเคืองกัน ซึ่งทุกคนมีความเห็นแตกต่างกันได้ แต่ไม่ต้องแบ่งฝักแบ่งฝ่ายมาทุบตีกัน เพราะฉะนั้นความเห็นของคนในพรรคประชาธิปัตย์น้อยครั้งที่จะเหมือนกัน กว่าจะหาข้อสรุปก็อภิปรายพูดจา แสดงเหตุผลกันจนกระทั่งสิ้นถอยกระทงความก็ได้ข้อสรุป

ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญยังมีร่างฉบับ คปพร.ของนพ.เหวง โตจิราการ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ค้างอยู่ในสภาด้วย ถ้ามีการยื่นญัตติฉบับแก้ไขของพรรคร่วมรัฐบาลเข้าไปคิดว่าจะเกิดปัญหาตั้งแต่ต้น และจะเป็นตัวแปรหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า คงไม่เป็นปัญหาอะไรเพราะอยู่ที่มติในสภา ว่าจะรับฉบับไหน ไม่รับฉบับไหน อยู่ที่เสียงส่วนใหญ่ในสภา ถ้าเสียงส่วนใหญ่ในสภารับฉบับนี้ ฉบับนี้ก็เดินหน้าแก้ไขต่อ แต่ถ้าไม่รับก็ตกไป อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่ากังวลใจมากสำหรับประเทศไทยวันนี้คือ เรามักจะมีการคาดการณ์เอาไว้ล่วงหน้า และเป็นการคาดการณ์ที่สร้างความน่ากลัวให้กับตัวเอง ตนไม่ทำอย่างนั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้ประสานงานกับพรรคร่วมรัฐบาลหรือยัง หลังจากผลการประชุมเมื่อวานนี้ (23 ม.ค.) นายสุเทพ กล่าวว่า ยัง วันนี้ขอให้เวลา ให้หัวใจกับเพื่อนพรรคเดียวกันก่อน กลับไปจากนี้ค่อยไปคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล

เมื่อถามว่า คิดว่าจะทำให้พรรคร่วมรัฐบาลคิดมาก และคิดไปไกลจนกระทั่งเกิดการสวิงขั้วหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่หรอกครับ ท่านเหล่านั้นเป็นผู้ใหญ่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก มีประสบการณ์มาก ตนคิดว่าเขาเข้าใจ

เมื่อถามว่าหมายความว่า ไม่ว่าผลจะออกมากอย่างไรก็จะไม่มีผลให้เปลี่ยวขั้วทางการเมืองใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า คิดว่าไม่มีผล

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีหลายคนมองว่าการที่พรรคประชาธิปัตย์วางท่าทีเช่นนี้จะทำให้อายุรัฐบาลเริ่มสั้นลงเรื่อยๆ นายสุเทพ กล่าวว่า อายุรัฐบาลก็ต้องลดลงเรื่อยๆ ตามจำนวนวันที่เราได้เป็นรัฐบาล แต่ถึงลดอย่างไรก็ยังเหลือปีกว่า คงไม่สั้นไปกว่านี้

เมื่อถามว่า มีปัจจัยเสี่ยงอะไรที่จะทำให้รัฐบาลอยู่ไม่ได้นาน นายสุเทพ กล่าวว่า ยังไม่เห็นประเด็นที่จะทำให้รัฐบาลอยู่ไม่ได้ พรรคประชาธิปัตย์อยู่มา 1 ปี ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนมาก นายกฯ ก็เป็นสัญลักษณ์ของกระบวนการที่จะเข้ามาแบกรับภาระของชาติในยุคใหม่ และเป็นความหวังของคนไทยทั้งหลาย ดังนั้น เมื่อได้รับการสนับสนุนจากประชาชนและข้าราชการเป็นอย่างดี โดยที่นายกฯ นั้นก็มีความมุ่งมั่นที่จะทำงานให้ประสบความสำเร็จ แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจพื้นฐานของประเทศ คือรายได้ส่วนใหญ่ของคนในประเทศได้ เช่น ราคาพืชผลการเกษตรไม่มียุคไหนดีกว่านี้ ดีหมด มีความสุขหมด พอเกษตรกรที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศมีเงินก็มีแรงจับจ่ายใช้สอย มีกำลังซื้อ สินค้าก็ขายได้ คนก็มีงานทำ เศรษฐกิจก็ดีขึ้น ซึ่งถือเป็นวัฏจักร ดังนั้น ตนยังมองไม่เห็นว่าอะไรจะเป็นอุปสรรค แต่ปัญหาก็คือว่านายกฯ ต้องกวดขันรัฐมนตรีให้ทำงานในเวลาที่เหลืออยู่ให้เต็มที่ ต่อยออดงานที่ทำมาแล้วด้วยความสำเร็จให้มากขึ้นไปกว่านี้

เมื่อถามว่า มีข่าวว่าตัวนายสุเทพพูดในห้องประชุมว่าถ้าไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามเงื่อนไขของพรรคร่วมรัฐบาล จุดที่จะเดินต่อไปคือการยุบสภา นายสุเทพ กล่าวว่า ยังไม่มีความจำเป็นต้องทำอะไรขนาดนั้น

เมื่อถามย้ำว่าไม่คิดว่าจะมีการบยุบสภาใช่หรือไม่ นายสุเทพตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า ไม่มีครับ ต้องคิดอย่างนี้ว่า นายกฯ เป็นหัวหน้าครม.ที่ได้รับความนิยม ได้รับการสนับสนุนจากประชาชน และทำงานสำเร็จไม่มีอุปสรรค แล้วมีเหตุผลอะไรที่ต้องยุบสภาเพื่อกลับไปนับ 1 ใหม่

เมื่อถามว่าแต่ถ้าเพื่อนพรรคร่วมรัฐบาลไม่คบด้วย นายสุเทพ กล่าวว่า ยังไม่มีใครเคยบอกอย่างนั้น

เมื่อถามว่าระหว่างเงื่อนไขที่รัฐบาลถูกตีกระหน่ำทั้งนอกสภา และในสภา โดยการเคลื่อนไหวโดยเครือข่ายขของพ.ต.ท.ทักษิณ กับปัญหาปัจจัยภายในพรรคร่วมรัฐบาล อะไรน่ากังวลกว่ากัน นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องพ.ต.ท.ทักษิณน่ากังวลกว่า ตนเห็นว่าสิ่งที่พ.ตท.ทักษิณและบริวารกำลังดำเนินการอยู่ และจะดำเนินการต่อไปเป็นเรื่องที่น่ากังวลใจสำหรับพี่น้องประชาชนคนไทยจริงๆ ส่วนอยู่ในวิสัยที่จะรับมือได้หรือไม่นั้น ตนก็จะพยายามที่จะแก้ปัญหาให้ดีที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะขอความร่วมมือจากประชาชนอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ขณะนี้เรื่องข้อมูลข่าวสารประชาชนก็ช่วยส่งข่าวให้เราบ้าง ขณะนี้ตนคิดว่าเราต้องการให้ประชาชนมั่นใจ ไว้วางใจรัฐบาล ไม่ต้องตื่นตระหนกในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และหากมีเหตุการณ์อะไรที่จำเป็นจะต้องทำความเข้าใจให้ประชาชนที่เหลือ เราก็จะกราบเรียนประชาชนเป็นระยะๆ เมื่อถามว่าคิดว่าเมื่อผ่านเดือนก.พ.ซึ่งจะมีการตัดสินคดียึดทรัพย์ไปแล้ว ประเทศไทยจะอยู่ในสถานการณ์ที่ดีขึ้นแล้วหรือยัง นายสุเทพ กล่าวว่า ตนคิดว่าจะต้องมีแรงเฉื่อยต่อไป อย่างน้อยก็หลังจากเดือนมี.ค.ไปแล้ว แต่หวังว่าปีนี้จะเป็นปีที่คนไทยมีความสุขซึ่งตนได้ตั้งความหวังไว้อย่างนั้น

ชี้ชาวบ้านดีใจเสื้อแดงสลายตัวที่เขาสอยดาว

นายสุเทพ กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งล่าสุดที่มีรายงานข่าวว่า กลุ่มผู้ชุมนุมจะถอนตัวจากเขาสอยดาว จ.จันทบุรี จะวางใจได้หรือไม่ ว่า ตนก็พยายามที่จะวางใจเพราะตนเป็นคนมองโลกในแง่ดี คนพูดอะไรก็เชื่อไว้ก่อน เพราะจะทำให้ประชาชนคนไทยมีความสุขไปด้วยแต่ก็ไม่ประมาท และพยายามคิดในแง่ดี เมื่อคนเสื้อแดงบอกว่าจะถอนตัวก็ดีใจด้วย ซึ่งประชาชนคนไทยทั้งประเทศได้ฟังข่าวก็อาจจะดีใจด้วย เพราะทุกคนอยากเห็นบ้านเมืองสงบเรียบร้อย เรากำลังพัฒนาและแก้ไขปัญหาของประเทศได้เป็นอย่างดี

"วันนี้ยอดนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประแทศเป็นจำนวนมากมายเป็นพิเศษ และจะมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะช่วงตรุษจีน เพราะฉะนั้น ถ้ามีอะไรที่เป็นข่าวดีของประเทศไทย ก็จะทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกปลอดภัย ไม่ต้องกังวล ซึ่งเป็นผลดีที่จะเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ผมก็ไม่ประมาท ได้มีการเตรียมรับสถานการณ์ตลอดเวลา ตั้งเป้าหมายว่าต้องดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองไว้ให้ได้" นายสุทเพกล่าว

เมื่อถามว่า มีข่าวว่าได้มีการประเมินว่า วันที่ 19-26 ก.พ. จะเป็นช่วงอันตรายที่อาจจะมีความรุนแรงเกิดขึ้น ซึ่งมีปัจจัยอะไรหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนได้ประเมินจากการรายงานข่าวที่ได้มา จากฝ่ายแกนนำผู้ประสานงานของกลุ่มผู้จัดชุมนุม เขาพูดไว้ในที่ต่างๆ หลายแห่ง ไม่ได้ปิดบังอะไร รวมทั้งการที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ได้ทวิตเตอร์และโฟนอินเข้ามา ก็บอกชัดเจนว่าอยากทำอะไร เมื่อไร อย่างไร

เมื่อถามว่า ช่วงเวลาดังกล่าวออาจเกิดความรุนแรง เหมือนกับเป็นฉากสุดท้ายแล้วหรือยัง นายสุเทพ กล่าวว่า ตนคิดว่าเราคนไทยด้วยกัน อย่าคิดที่จะต้องเผด็จศึก เป็นฉากสุดท้ายอย่างนั้น ยังต้องมีชีวิตอยู่ด้วยกันในประเทศไทยไปอีกนาน เราอย่าทำอะไรที่สร้างความเจ็บช้ำน้ำใจ หรือสร้างความบาดหมางเพื่อขยายผลมากกว่าไปนี้ เพราะปัญหาที่มีอยู่ในขณะนี้ ถ้าช่วยกันเยียวยาจริงๆ ปัญหาก็จะเบาบางลงก็จะดีขึ้นเอง

"ชวน"โยน กก.บห.พรรคชี้ขาดแก้ รธน.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการสัมมนา ส.ส. กรรมการบริหารพรรคและรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ที่ผ่านมายังหาข้อสรุปไม่ได้ในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 โดยเฉพาะ มาตรา 94 ที่เกี่ยวกับรูปแบบของเขตเลือกตั้งว่าจะใช้แบบเขตเดียวเบอร์เดียว หรือเขตใหญ่เรียงเบอร์ โดยที่ประชุม ส.ส.พรรคมีมติมอบหมายให้ คณะกรรมการบริหารพรรค ( กก.บห.) เป็นผู้สรุปชี้ขาดในการประชุมในวันที่ 26 ม.ค.นี้

มีรายงวานว่า ระหว่างการประชุมช่วงค่ำวันที่ 23 ม.ค. นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้กลายเป็นผู้คลี่คลายสถานการณ์ของพรรค โดยนายชวน ได้กล่าวต่อที่ประชุมในช่วงท้ายหลังการหารืออย่างเคร่งเครียดและถกเถียงกันอย่างหนักว่า แม้ส่วนตัวจะไม่เห็นด้วยกับการขอแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อเปลี่ยนมาใช้แบบเขตเดียวเบอร์เดียวหรือเขตเล็ก แต่หากที่ประชุมยังหาข้อยุติวันนี้ไม่ได้ ก็ขอให้ปฏิบัติตามธรรมเนียมคือ ขอให้ ส.ส.พรรคมีมติ ให้กก.บห.พรรคเป็นผู้ชี้ขาด และทุกฝ่ายต้องยอมรับ ถึงแม้ว่าผลที่ออกมาอาจไม่ตรงตามที่ใจของเราคิด แต่เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาที่ยังมีความคิดเห็นในพรรคที่แตกต่างกันในกรณีนี้ ซึ่งในที่ประชุมต่างเห็นด้วยและลงมติมอบหมายให้กก.บห.พรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจในเรื่องดังกล่าว

ก.ม.ม.เย้ย"ทักษิณ"แค่รัฐบาลพลัดหลง

ที่พรรคการเมืองใหม่ (ก.ม.ม.) - นาย สำราญ รอดเพชร โฆษกพรรคการเมืองใหม่ กล่าวถึงกรณีการยิงเอ็ม 79 ถล่มกองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) เมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมาก ว่า เป็นการกระทำที่เหยียดหยามลบหลู่เกียรติภูมิและศักดิ์ศรีของกองทัพบก รวมทั้งสะท้อนให้เห็นถึงการสะสมปัญหา และความอ่อนแอของผู้นำกองทัพ ดังนั้นมีความเป็นไปได้มากว่าการยิงถล่ม บก.ทบ.น่าจะเป็นการดำเนินการของคนที่สนับสนุนระบอบทักษิณ โดยมีเป้าหมายหลัก เพื่อซ้ำเติมสถานการณ์ให้ร้อนแรง ยั่วยุให้เกิดการรัฐประหาร

" เป้าหมายการต่อสู้ของคนกลุ่มนี้คือการล้มรัฐบาล ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเพื่อกลุ่มของตัวเองจะได้พ้นผิดและกลับมามีอำนาจอีกครั้งหนี่ง คำประกาศของคนกลุ่มนี้ที่จะลุกฮือต่อต้านการรัฐประหารนั้นอาจจะเป็นไปได้ ถ้าการรัฐประหารนั้นทำให้กลุ่มตัวเองถูกกวาดล้าง แต่หากรัฐประหารนั้นเอื้อประโยชน์หรือเป็นคุณกับฝ่ายตนเองการต่อต้านลุกฮือก็จะไม่เกิดขึ้น ส่วนคำประกาศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นทันทีที่เกิดรัฐประหาร เรื่องนี้เป็นเพียงวาทกรรมปลุกเร้ามวลชนธรรมดา ๆ เท่านั้น สิ่งที่พ.ต.ท.ทักษิณจะทำได้ น่าจะเป็นเพียงรัฐบาลพลัดหลง " โฆษกพรรค กกม. กล่าวและว่า พรรคการเมืองใหม่เห็นด้วยกับการบุกตรวจค้นจับกุมอาวุธและคนสนิทของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง แต่การดำเนินการดังกล่าวก็ยังไม่ได้ชี้ชัด เสธ.แดงและลูกน้องเป็นคนยิงถล่มบก.ทบ. แต่ต้องสืบสวนสอบสวนและขยายผลต่อไป อีกทั้งผบ.ทบ.ต้องเร่งกอบกู้เกียรติภูมิของกองทัพบกด้วยการใช้ศักยภาพของผู้นำหน่วย อำนาจตามกฎหมายหาตัวคนร้ายที่ยิงบก.ทบ.มาให้ได้ โดยใช้เวลาที่เหลืออีก 8 เดือน ก่อนเกษียณอายุราชการด้วยการเป็นแม่ทัพหรือผู้นำหน่วยที่เข้มแข็งเด็ดขาด กล้าหาญที่จะจัดการกับความไม่ถูกต้อง มากกว่าที่จะนั่งนับถอยหลังรอวันเกษียณไปวัน ๆ

" ในระยะหัวเลี้ยวหัวต่อของสถานการณ์ล่อแหลมเช่นขณะนี้ นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลจะต้องแสดงภาวะผู้นำจัดการกับความเคลื่อนไหวที่รุนแรงเกินขอบเขตของกฎหมายกับทุกกลุ่ม และระหว่างนายกฯกับรองนายกฯด้านความมั่นคงควรจะเป็นเอกภาพในการกำกับ ขับเคลื่อนงานด้านความมั่นคง มากกว่าที่จะทำให้คนเข้าใจว่า แยกบทกันเล่น อย่างไรก็ตามหากวิเคราะห์ตามเหตุการณ์ พ.ต.ท.ทักษิณต้องการรัฐบาลแห่งชาติ การที่จะทำแบบนี้ได้พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องใช้พลังหลายๆ ด้านทั้งในสภาฯ นอกสภาฯ ที่สุดแล้วในทุกอย่างมีข้อแม้เพียงว่า พ.ต.ท.ทักษิณต้องได้รับการนิรโทษกรรม เราจึงเชื่อว่า เป็นไปได้ยาก " โฆษกพรรคการเมืองใหม่ กล่าวและว่า ในส่วนของมติของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่สวนทางมติของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)นั้น ในวันที่25 ม.ค.นี้ แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯมีพล.ต. จำลอง ศรีเมือง นาย พิภพ ธงไชย จะเป็นตัวแทนเดินทางไปที่สำนักงานป.ป.ช. เพื่อยื่นหนังสือกล่าวโทษ ก.ตร. พร้อมทั้งจะยื่นหนังสือในกรณีดังกล่าวถึงนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ในฐานะที่เป็นประธานคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (กตช.) อีกด้วย

ด้านนาย ประพันธ์ คูณมี กล่าวว่า ตนเห็นว่านายกรัฐมนตรีไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะสั่งลงโทษผู้ที่ประผิดตามที่ ป.ป.ช.ชี้มูลมา หากยังปล่อยให้ตำรวจจัดการกันเองและมีลักษณะดึงเกมยื้อเวลา นายกฯจะเข้าข่ายข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้

เทพไทเย้ยทักษิณตั้งรบ.พลัดถิ่น ให้ราคาแค่นักโทษหนีคุก

นายเทพไท เสนพงศ์ สส.นครศรีธรรมราช โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ถือเป็นเพียงการพูดปลุกระดมปลุกเร้ามวลชนเสื้อแดงให้มีขวัญกำลังใจลุกขึ้นมาเคลื่อนไหวต่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประโคมข่าวเรื่องการปฏิวัติ ที่ทำให้คนเข้าร่วมได้ แต่ถ้ามตามดูสถานการณ์ปัจจุบันไม่มีเงื่อนไขที่จะปฏิวัติ จึงไม่ทราบว่าเหตุใดที่มาปลุกผีปฏิวัติขึ้นมา

 

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook