บล.กรุงศรีอยุธยา : รายงานภาวะหุ้น 25/01/53

บล.กรุงศรีอยุธยา : รายงานภาวะหุ้น 25/01/53

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บล.กรุงศรีอยุธยา : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 25/01/53 Market Recap and Trend: ทั้งปัจจัยภายในประเทศและภายนอกประเทศ จะส่งผลลบต่อ SET ต่อเนื่องวันนี้ โดยมีแนวรับที่ 706 จุด SET ปรับลดลงทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 706 จุด (ต่ำกว่าแนวรับที่เราให้ไว้บริเวณ 710 จุด) ในช่วงระหว่างวัน แต่สามารถปิดตลาดที่ 714.10 จุด ด้วยแรงซื้อที่มีกลับเข้ามาในช่วงบ่าย หรือปรับลดลง 0.69% ด้วยมูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 22,265 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นสุทธิต่อเนื่อง 1,218 ล้านบาท การปรับลดลงของตลาดหุ้น Dow Jones และการยกคำร้องศาลฯกรณี 30 โครงการมาบตาพุดจะเป็นปัจจัยกดดัน SET ต่อเนื่องวันนี้ โดยมีแนวรับที่จุดต่ำสุดเดิมเมื่อวันศุกร์ที่ 706 จุด ทั้งนี้ตลาดหุ้น Dow Jones ปรับลดลงกว่า 2% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จากความกังวลต่อแผนควบคุมความเสี่ยงในการทำธุรกรรมสถาบันการเงิน และผลการดำเนินงานบริษัท Google ที่ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ขณะที่ถ้าพิจารณาในเชิงพื้นฐาน เศรษฐกิจโดยรวมยังอยู่ในแนวโน้มที่ดีล่าสุด ธปท.คาดเศรษฐกิจปี 2553 จะขยายตัว 3.3-5.3% เท่ากับประมาณการเดิม ขณะที่คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะเร่งตัวมาอยู่ที่ 3-5% ในปีนี้จาก -0.9% ในปีก่อน สำหรับการส่งออกคาดว่าจะขยายตัว 18.5-21.5% และการนำเข้าจะเริ่มตัวขึ้น 31.5-34.5% จากปีก่อนInvestment Strategy: ยังไม่เห็นโอกาสในการเพิ่มพอร์ตในช่วงนี้ แม้ SET จะ Rebound บ้างหลังจากปรับลดลงทดสอบแนวรับบริเวณ 710 จุด ตามที่เราคาดการณ์ไว้เมื่อวันศุกร์ แต่ก็เป็นเพียงจังหวะในการเข้า Trading ระยะสั้นๆ เท่านั้น ทั้งนี้เราแนะนำนักลงทุนถือหุ้นในสัดส่วน 60% ของพอร์ตต่อเนื่อง โดยเรามองว่า Sentiment ของตลาดหุ้นทั่วโลกที่ “เสียหาย” จากความกังวลต่อมาตรการลดความร้อนแรงเศรษฐกิจของธนาคารกลางจีน และแผนการจำกัดการทำธุรกรรมของสถาบันการเงินของประธานาธิบดี รวมไปถึงปัจจัยการเมืองภายในประเทศ และปัญหาการลงทุนในเขตพื้นที่มาบตาพุด 64 โครงการที่ยังไม่มีความคืบหน้า จะเป็นปัจจัยกดดัน SET ต่อเนื่อง ทั้งนี้กลุ่มหุ้นที่เราคาดว่าจะมีแนวโน้มแข็งแกร่งกว่าตลาดโดยรวมได้แก่กลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลดีอย่างKK, DCC, TICON, BCP, ADVANC, TNH, NOBLE, HEMRAJTop Picks PTT PTTEP BANPU TOP PTTAR BBL KBANK SCB KTB TISCO DCC SCC LH QH AP PS SPALI KSL TUF CPALL AOT STANLY SAT TTA MINTFutures Strategy : แนะนำถือสถานะ Short ต่อเนื่อง โดยเลื่อนจุด Trailing Stop ลงมาที่ 500 จุด AUTO : หุ้นส่วนใหญ่ยังมี Sentiment ค่อนข้างอ่อนแอตลาดต่างประเทศ และประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นในตลาดโลก • ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลดลง ดัชนีเฉลี่ยดาวโจนส์ปิดลดลง 2.09% เช่นเดียวกับ S&P500 ปิดลดลง 2.21% โดยได้รับแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มการเงินร่วงลง อาทิ เจพีมอร์แกนลดลง 3.4%, โกลด์แมน แซคส์ลดลง 4.2% จากความวิตกต่อแผนของทำเนียบขาวในการคุมเข้มความเสี่ยงในการทำธุรกรรมของภาคธนาคารที่จะส่งผลกระทบต่อผลกำ ไร นอกจากนี้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง หลังบริษัทกูเกิล อิงค์ เผยผลประกอบการรายไตรมาสต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ และส่งผลให้หุ้นกูเกิลลดลง 5.7% นอกจากนี้ ตลาดได้ทรุดตัวลงแตะระดับต่ำสุดของวัน ภายในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายจากข่าวที่ว่าอังกฤษได้เพิ่มระดับภัยคุกคามจากการก่อการร้ายสู่ระดับสูงสุดอันดับ 2 • ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดลดลง ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน มี.ค. ปิดลดลง 1.54 ดอลลาร์ หรือ 2.02% มาที่ 74.54 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล โดยได้รับแรงกดดันจากข้อเสนอของประธานาธิบดีบารัค โอบามา เพื่อลดการซื้อขายแบบ proprietary tradingทำให้เกิดความเป็นไปได้ที่ว่าธนาคารและกองทุนจะทบทวนการลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ นอกจากนี้ ยังมีแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรป และความกังวลเรื่องอุปสงค์น้ำมันในจีนและสหรัฐ • ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับเยน และยูโร ขณะที่นักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง จากความกังวลเกี่ยวกับข้อเสนอของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ในการคุมเข้มความเสี่ยงจากการทำธุรกรรมของธนาคารสหรัฐ ทั้งนี้ ข้อเสนอดังกล่าวนับเป็นปัจจัยล่าสุดที่กระทบต่อตลาดซึ่งมีความเปราะบางอยู่แล้วจากความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของบางประเทศในเขตยูโรโซน และจากการคาดการณ์ที่ว่าจีนจะเพิ่มมาตรการในการดูดสภาพคล่องออกจากระบบเพื่อสกัดภาวะเงินเฟ้อ • ดัชนีค่าระวางเรือเทกองปิดเพิ่มขึ้น 34 จุดมาที่ 3204 จุด รายงานภาคการผลิตที่ดีขึ้นโดยเฉพาะสหรัฐสร้างความเชื่อมั่นในการสต๊อกวัตถุดิบของผู้ผลิตทั่วโลกช่วยผลักดันค่าระวางเรือให้มีทิศทางขาขึ้นในช่วงนี้               

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook