บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะหุ้น 25/01/53

บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะหุ้น 25/01/53

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 25/01/53หลบผลกระทบทั้งใน-นอกประเทศ ผลกระทบในประเทศคาดผิดหวังกรณีมาบตาพุด ณ ขณะนี้คือหมดหวังจากการตัดสินของศาลให้โครงการเดินหน้าต่อได้เร็วขึ้น จากตรงนี้จะต้องรอการทำ HIAประชาพิจารณ์จนเสร็จเรียบร้อย คาดว่าอีกราว 6-8 เดือน ซึ่งทำให้ PTT และ PTTCH เกิดภาวะเสียโอกาส (แต่เราใส่ปัจจัยเรื่องความล่าช้าในประมาณการไปแล้ว) ส่วนต่างประเทศ คาดว่าได้รับผลจากการปรับตัวลงของตลาดหุ้นต่างประเทศที่ลงหนักในกลุ่มการเงินและเทคโนโลยี จึงหันไปน่าสนใจหุ้นทดแทน เช่น BANPU, BCP-DR1 ปลอดภัยเวลาที่ PTT มีผลกระทบ นอกจากนี้ CPF, KCE, HEMRAJเป็นหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวลงทุนได้ คาดกรอบดัชนีรอบนี้มีแนวรับที่ 680 จุด แต่หากตลาดต่างประเทศรีบาวด์ขึ้นก่อนที่ระดับ 696 จุด ก็เริ่มทยอยซื้อได้แล้ว กรอบวันนี้ แนวรับ 706 แนวต้าน 719ปัจจัยวันนี้ ( - ) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ: นักลงทุนวิตกแผนของทำเนียบขาวในการคุมเข้มความเสี่ยงในการทำธุรกรรมของภาคธนาคารจะส่งผลกระทบต่อผลกำไร ขณะที่การเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทกูเกิล อิงค์ ก็เป็นปัจจัยลบต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ดัชนีความผันผวน (VIX) ในตลาด Chicago Board Options Exchange ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดวอลล์สตรีท ก็ได้ทำสถิติทะยานขึ้นมากที่สุดในช่วง 3 วันในรอบกว่า 3 ปี โดยพุ่งขึ้นถึง 55.4%ขณะเดียวกัน การที่ทางการจีนใช้มาตรการชะลอความร้อนแรงทางเศรษฐกิจด้วยการสั่งระงับการปล่อยสินเชื่อธนาคารในเดือนนี้ ก็ได้ทำให้นักลงทุนวิตกว่าจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของอุปสงค์ในสหรัฐและประเทศอื่น ๆ ( - ) ศาลปกครอง ยกคำร้อง 30 โครงการมาบตาพุด หมดความหวังศาลตัดสินให้เดินโครงการก่อนทำ HIA เสร็จ คาดเป็นปัจจัยลบทำให้หุ้นลง: ศาลปกครองกลาง ได้มีคำสั่งยกคำร้องของบริษัทเจ้าของโครงการอุตสาหกรรม 30 โครงการที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งศาลปกครองกลางที่สั่งระงับการดำเนินโครงการในนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่มาบตาพุด จ.ระยองฯ ผลที่ออกมาเป็นลบ เพราะหมายถึงศาลไม่รับฟังคำร้องของเอกชน และไม่ได้ทำการตัดสิน แต่ให้ไปยื่นเรื่องเดินหน้าต่อหน่วยงานราชการเอง ซึ่ง จากนี้ไปเอกชนมีทางเลือก 3 ทางคือ 1.ดำเนินการยื่นร้องต่อทางราชการเพื่อขออนุญาตดำเนินโครงการ ซึ่งทางบริษัทแจ้งว่าทางหน่วยงานราชการคงไม่รับเรื่อง ต้องรอการทำ HIA ขึ้นใหม่ ซ้ำร้ายอาจต้องทบทวนการทำ EIA กลับมาให้ด้วย 2.เอกชนไปร้องต่อศาลปกครองสูงสุด เพื่อขอให้พิจารณาตัดสิน ซึ่งเอกชนคงไม่ทำ เพราะมาถึงขั้นนี้ คำตัดสินคงคล้ายของศาลปกครองกลาง 3.เดินหน้ารับกรรมทำ HIA ต่อไป ซึ่งใช้เวลา 6-8 เดือน และทำให้โครงการที่ทำเสร็จออกมาแล้ว เช่นโรงแยกก๊าซ 6 และอีก 6 โครงการของPTTCH รวมแคร็กเกอร์ 1 ล้านตัน ต้องเลื่อนการผลิตออกมาเป็นไตรมาส 4/53 หรือปี 2554 เลย เราคาดว่าความเป็นไปได้สูงสุดคือเดินหน้าทำ HIA ( - ) การควบรวมของ บจ.เครือ PTT คาดต้องเลื่อน: เราคาดการณ์ว่าการควบรวมอาจจะเลื่อนล่าช้าออกไปจนกว่าผลของ HIA ผ่าน และ PTTCH สามารถเดินหน้าการผลิตได้ ซึ่งในกรณีที่ต้องรีบควบรวมเร็วคาดว่าจะทำให้ PTT และ PTTAR ต้องเป็นผู้เข้าซื้อ IRPC 100% เพื่อให้ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีของ IRPC ซึ่งงานนี้ IRPC คือคนที่เป็นต่อที่สุด                

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook