ศศิธาราโวยย้ายฟ้าผ่าไม่ชอบด้วยคุณธรรม
ดร.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เปิดโต๊ะแถลงข่าวกรณีคณะรัฐมนตรี มีมติโยกย้ายให้ไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ ที่ห้องประชุมกระทรวงฯ เมื่อ 25 ม.ค. โดย ดร.ศศิธารา กล่าวว่า ยังไม่เห็นคำสั่ง ดังกล่าว ดังนั้นตนยังคงเป็นปลัดกระทรวงอยู่และทำงานตามปกติ จนกว่าจะมีการโปรดเกล้าฯ และมีหนังสือคำสั่งอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าได้ทำงานอย่างโปร่งใส ไม่มีเรื่องทุจริต งบประมาณของ กระทรวงก็เป็นไปตามเป้าหมาย ตลอดปี 2552 ก็มีการนำเสนอเรื่องต่าง ๆ เข้าคณะรัฐมนตรีถึง 27 เรื่อง ได้รับอนุมัติ 16 เรื่อง และเรื่องเพื่อทราบอีก 11 เรื่อง ส่วนเรื่องของกีฬานั้น ยังมีเรื่องของแผนยุทธศาสตร์พัฒนากีฬาไทยสู่ความเป็นเลิศ (พ.ศ. 2553- 2559) ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ได้ในวันที่ 26 ม.ค.นี้หรือไม่ นอกจากนี้ยังมีโครงการรัฐวิสาหกิจรวมพลังกีฬาไทยเข้มแข็ง รวมทั้งการเสนอขอเปลี่ยนชื่อ สำนักงานพัฒนาการกีฬาและนันทนาการ (สพก.) กลับไปเป็นกรมพลศึกษา ตามเดิม ซึ่งเรื่องนี้ถูกส่งกลับมาแล้วครั้งหนึ่งและกำลังรอนำเข้าสู่การพิจารณาจากคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง โดยทุกเรื่องที่กล่าวมานั้น ตนต้องการที่จะผลักดันให้ถึงที่สุด
ปลัดกีฬา กล่าวต่อว่า ไม่ได้มีเรื่องขัดแย้งกับ นายชุมพล ศิลปอาชา รมว. การท่องเที่ยวและกีฬา จึงไม่เข้าใจถึงเหตุผลที่ถูกโยกย้ายครั้งนี้นักเพราะตำแหน่งปลัดกระทรวง มีหน้าที่ทำงานตามพระ ราชบัญญัติการบริหารราชการแผ่นดิน การที่มีการขอตัวไปเป็นที่ปรึกษา จึงเป็นเรื่องที่แปลก ซึ่งคำกล่าวที่ว่าต้องการให้ตนไปช่วยงานที่ทำเนียบฯนั้น ทำเนียบฯไม่ได้มีหน้าที่ทำเรื่องท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งปลัดกระทรวงมีหน้าที่โดยตรงอยู่แล้ว ส่วนตัวมองว่าการโยกย้ายครั้งนี้ไม่สอดคล้องกับคุณธรรมและหลักธรรมาภิบาล ขาดความชัดเจน เพราะการไม่มีปลัดกระทรวง กับการไม่มีที่ปรึกษา ระดับซี 11 นั้น น้ำหนักไม่เท่ากันการที่กระทรวงขาดปลัดนั้น จะส่งผลกระทบมากกว่า
ดิฉันมาเป็นปลัดกระทรวงวันแรกเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2550 ไม่มีข้อกังขาใด ๆ จนกระทั่งวันนี้ถูกโยกย้าย กลับมีข้อกังขา มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกิดขึ้น ก็สามารถสะท้อนความเป็นจริงได้ส่วนหนึ่ง ตนขอขอบคุณที่มีคนโทรศัพท์ และส่งข้อความมาให้กำลังใจมากมาย แม้แต่ช่างตัดเสื้อ กระทั่งคนฉีดปลวกแถวบ้าน ก็ยังสอบถามถึงเรื่องนี้เลย ปลัดฯศศิธาราย้ำ
