โจ๋บ้านกรุณา 700 คน ยกพวกตะลุมบอนกันเละ

บ้านกรุณาป่วนเด็กแก๊งค์ ปากน้ำ - ฝั่งธนฯ ยกพวกตีกัน หามส่ง รพ.200 กว่าคน วอนตร.เฝ้า รพ. กลัวเด็กคู่อริตีกันซ้ำ

เกิดเหตุสลดเมื่อเยาวชนที่อยู่ในบ้านกรุณา ตะลุมบอนยกพวกตีกัน โดยใช้กระจกบาดเกล็ด หินตัวหนอนเป็นอาวุธ จนมีเด็กและเยาวชนในบ้านกรุณาได้รับบาดเจ็บ 200 กว่าราย เหตุเพราะ 2 แก๊งค์ใหญ่ กลุ่มปากน้ำ - ฝั่งธนฯ เขม่นแย่งยาสูบแบ่งกันไม่ลงตัว ขณะที่ผอ.ศูนย์บ้านกรุณา วอน ตร.ตรึงกำลัง 3 รพ. หวั่นเด็กตีกันซ้ำ เรื่องนี้กลายเป็นข่าวครึกโครมตามหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์วันนี้

หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ พาดหัวข่าวว่า “700 โจ๋ บ้านกรุณา ยกพวกตีกันเละ เหตุบานปลายจากเกมฟุตบอล บาดเจ็บนับร้อย” อ่านต่อ     

หนังสือพิมพ์คมชัดลึก พาดหัวข่าวว่า "เด็กบ้านกรุณานับร้อยตะลุมบอนเจ็บระนาว แก๊งปากน้ำ-ฝั่งธน แบ่งยาฉุนไม่ลงตัว" อ่านต่อ

ร.ต.ท. พงษ์ศานต์ วิลัย ร้อยเวร สภ.บางพลี สมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุเมื่อวันที่ 25 ม.ค.ว่า มีเด็กจากศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชนเขต 1 สมุทรปราการ (บ้านกรุณา) ก่อเหตุยกพวกทะเลาะวิวาทและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมากรวม 200 กว่าราย หลังรับแจ้ง รายงาน พล.ต.ต.ชิษณุพงศ์ ยุกตะทัต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ (ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ) พร้อมประสานขอกำลังตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียง 4 สภ. ไปตรวจสอบ พบผู้บาดเจ็บนับร้อยคน จึงช่วยนำผู้บาดเจ็บกระจายส่งโรงพยาบาลสมุทรปราการ 36 ราย โรงพยาบาลบางบ่อ 59 ราย และโรงพยาบาลบางพลี 22 ราย นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บเล็กน้อยอีกเกือบ 200 คน

 
จากสอบสวน นายภานุวัฒน์ เกิดเฉลียว อายุ 19 ปี ผู้บาดเจ็บ ได้เล่าถึงสาเหตุการยกพวกตีกันครั้งนี้ว่า ก่อนเกิดเหตุมีเรื่องเขม่นกันมานานแล้วเกี่ยวกับ บุคคล 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นผู้รับการฝึกวิชาชีพจากฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ มีหัวหน้าชื่อนายยอด และลูกน้อง 400 กว่าคน กลุ่มที่ 2 กลุ่มฝั่งธนฯ มีหัวหน้าชื่อนายเก่ง และมีลูกน้อง 300 กว่าคน ทั้งหมดที่มีปัญหากันเนื่องจากรับยาฉุน หรือยาเส้นที่ญาตินำมาโยนให้จากภายนอกแล้วแบ่งกันไม่ลงตัว โดยปกติตามข้อตกลงจะต้องแบ่งกันให้ครบ แต่เนื่องจากต่างฝ่ายต่างแบ่งให้พวกของตนมากกว่า จึงเกิดความไม่พอใจเกิดขึ้น หลังจากกินข้าวเสร็จแล้วจึงร่อนถาดหลุมเข้าใส่กัน หลังจากนั้นจึงเกิดโกลาหลต่างฝ่ายต่างหยิบอาวุธ อาทิ บานเกล็ด หินตัวหนอน กระจก ก้อนหิน ไล่เข้าตะลุมบอนกัน

ด้านนายพงศ์สุระ ไกรนรา ผู้อำนวยการศูนย์บ้านกรุณา กล่าวว่า ในช่วงที่เกิดเจ้าหน้าที่ศูนย์ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ เนื่องจากในวันนี้เจ้าหน้าที่บางส่วนไปเป็นวิทยากรอบรมนอกสถานที่ ทำให้ผู้ดูแลมีน้อยกว่าปกติ ขณะที่เยาวชนมีถึง 700 คน จึงอาศัยช่องว่างตรงนี้ก่อเหตุ ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนเพื่อเอาผิดผู้ก่อเหตุ ทั้งนี้ทางศูนย์เกรงว่าเยาวชนอาจก่อเหตุซ้ำในโรงพยาบาลอีก เนื่องจากทั้ง 2 กลุ่มถูกนำส่งโรงพยาบาลเดียวกัน จึงขอกำลังตำรวจมาตรึงกำลังป้องกันเหตุในโรงพยาบาลทั้ง 3 แห่ง

ขอขอบคุณเนื้อหาบางส่วนจาก  เดลินิวส์  คมชัดลึก