บล.เคจีไอ: รายงานภาวะตลาดหุ้น 26/01/53

บล.เคจีไอ: รายงานภาวะตลาดหุ้น 26/01/53

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 26/01/53 มีช่วงบวก แนะขายแล้วถอยมาก่อน            KGI ประเมินตลาดหุ้นไทยวันอังคารมีช่วงรีบาวด์ แต่แนะให้ขายหุ้นลดความเสี่ยง ทั้งนี้การดีดกลับคงเป็นเพียงปฎิกริยาจากภาวะร่วงแรง คล้ายคลึงกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับขึ้นเล็กน้อย ส่วนข่าวสารสำคัญในฝั่งสหรัฐฯ ประกอบด้วย i) ปธน.โอบามาออกมาสนับสนุนสุดตัวว่า นายเบน เบอร์นานกี เหมาะสมรับคำแหน่งประธานเฟดต่อไป ซึ่งเรื่องนี้เป็นปัจจัยบวกเล็กน้อย ii) ข้อมูลยอดขายบ้านมือสองสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. 2552 ร่วงหนักกว่าคาดมาก แต่ผลกระทบต่อตลาดหุ้นโลกไม่น่าจะมี เนื่องจากนักลงทุนก็เก็งๆ อยู่แล้วว่าตัวเลขอาจจะแย่เพราะมีการขาดช่วงของมาตรการภาษีบ้านของสหรัฐฯ ซึ่งกลับมาต่ออายุไปถึงเดือน เม.ย. 2553 KGI จึงเชื่อว่าตัวเลขจะกลับมาดีในเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ราคากลางของบ้านมือสองเดือน ธ.ค. ปรับเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี ซึ่งถือเป็นข่าวดีเล็กๆ ในภาคอสังหาฯ ของสหรัฐฯ            ด้านปัจจัยในประเทศยังมีการเมืองเป็นเรื่องเด่น ในวันนี้พรรคประชาธิปัตย์จะต้องตัดสินใจว่าจะร่วมกับพรรคร่วมในการแก้รัฐธรรมนูญสองมาตราหรือไม่ ซึ่ง KGI คิดว่าจากท่าทีในระยะหลังที่อ่อนลง มีแนวโน้มที่ประชาธิปัตย์จะเข้าร่วม ทีนี้ต้องติดตามว่ากลุ่มพันธมิตรฯ จะตอบสนองอย่างไร จะเคลื่อนไหวหรือไม่และอย่างเข้มข้นเพียงไร เรื่องเหล่านี้ผนวกกับเงื่อนเวลาของคดียึดทรัพย์คุณทักษิณ ซึ่งเหลือเวลาอีก 1 เดือนพอดีจะถึงวันอ่านคำพิพากษา ทำให้เรายังกังวลต่อความผันผวนของการเมืองและตลาดหุ้นไทย             กลยุทธ์: อ้างถึงพอร์ตเทรดดิ้งที่ซื้อตามแนวรับเมื่อวันจันทร์ แนะขายหุ้นออกตามแนวต้านที่ 715 จุด (ค่าเฉลี่ย 75 วัน) แล้วรอดูสถานการณ์ก่อน ส่วนหุ้นที่แนะถือต่อหรือซื้อเพิ่มได้ขอเน้นหุ้นที่เสี่ยงต่ำและหุ้นเงินปันผลเด่น เช่น ADVANC และ CPF รวมทั้งหุ้นธนาคารบางตัวที่เรามองว่าความเสี่ยงไม่มาก เช่น KTB คาดว่าจะมีแรงเหวี่ยงทางขึ้นได้ ตามหุ้น KBANK และ SCB ที่ปรับขึ้นเมื่อวานนี้ ความเห็นข่าวเด่นจากสถาบันวิจัยฯ           SCB เผยถึงสัญญานบวกการปล่อยกู้ให้กับภาคธุรกิจขนาดใหญ่ โดยล่าสุดได้ร่วมปล่อยกู้กับ BBL และ TISCO ให้กับกลุ่มเจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย ในวงเงิน 1.5 หมื่นล้าน (6.0-6.2 พันล้านมาจาก SCB อีก 6พันล้านจาก BBL และอีก 1.5 พันล้านมาจาก TISCO) เพื่อใช้ก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ดีเซลในไทยกำลังการผลิตปีละ 1 แสนคัน นอกจากดีลนี้ SCB ก็เผยว่ามยังมีโครงการในมืออีกเยอะ มูลค่ามากกว่าปล่อยกู้จีเอ็มเสียอีก การพื้นตัวของสินเชื่อบรรษัทขนาดใหญ่ในช่วงนี้อาจเกิดจากความต้องการที่อันมาตั้งแต่ปีที่แล้ว และโดยรวมก็จะเป็นแรงเสริมให้ภาพการเติบโตสินเชื่อปีนี้ฟื้นตัวชัดเจน (KGI คาด 6-7% เพิ่มจากปีก่อนที่ เพียง 1.1%) คงคำแนะนำ ลงทุนมากกว่าตลาด กลุ่มธนาคารมี KBANK KTB และ BBL เป็นหุ้นเด่น      

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook