หุ้นไทยเจอปัจจัยลบกดดันฉุดดัชนีร่วง 8.73 จุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วันที่ 26 ม.ค. ดัชนีแกว่งตัวผันผวน แต่ส่วนใหญ่ยืนแดนลบตามแรงทิ้งหุ้นใหญ่ทั้งพลังงาน และธนาคาร โดยระหว่างวันดัชนีทะยานขึ้นสูงสุดที่ 713.00 จุด ลดลงต่ำสุดที่ 700.78 จุด จนมาปิดตลาดที่ 701.66 จุด ลดลง 8.73 จุด หรือ 1.23% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 18,261.16 ล้านบาท ส่วนตลาดเอ็มเอไอ ปิดที่ 215.24 จุด ลดลง 4.08 จุด มูลค่าซื้อขาย 212.24 ล้านบาท

สำหรับหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก

1.ปตท. ปิดที่ 222.00 บาท ลดลง 4.00 บาท

2.บ้านปู ปิดที่ 548.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

3.ปตท.สผ. ปิดที่ 132.50 บาท ลดลง 3.50 บาท

4.ธ.ไทยพาณิชย์ ปิดที่ 80.75 บาท ลลง 1.50 บาท

5.ปตท.เคมิคอล ปิดที่ 75.75 บาท ลดลง 1.00 บาท

นายโกสินทร์ ศรีไพบูลย์ ผอ.อาวุโส บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) มองว่า ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวน ซึ่งช่วงเช้าเปิดบวกเล็กน้อย จากนั้นลดลงตามแรงขายทำกำไร และตามตลาดหุ้นภูมิภาคที่ลดลง เนื่องจากนักลงทุนยังกังวลเรื่องจีนคุมเข้มการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน อีกทั้งได้รับแรงกดดันจากปัญหามาบตาพุด และการเมืองในประเทศ หลังพรรคประชาธิปัตย์มีมติไม่ร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจส่งผลต่อเสถียรภาพรัฐบาลในอนาคต

ส่วนแนวโน้มวันที่ 27 ม.ค.นี้ มองว่า ดัชนีอาจปรับลดลงต่ำกว่าระดับ 700 จุด เนื่องจากทั้งดัชนีดาวโจนส์ และราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าไม่ค่อยสดใสมากนัก ซึ่งจะทำให้เกิดแรงเทขายทำกำไรออกมา โดยประเมินแนวรับที่ 685-690 จุด และแนวต้าน 706-710 จุด ด้านกลยุทธ์ หากดัชนีกระเตื้องขึ้นแนะนำทยอยขายทำกำไร และรอซื้อกลับเมื่อดัชนีปรับลดลงต่ำกว่า 690 จุด.