กมธ.การศึกษาชงล้มกระดานผู้แทนคุรุสภา

ชี้ผิด 4 ประเด็นต้องเลือกใหม่ทั้ง 175 เขต

นายอภิชาต การิกาญจน์ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การศึกษา สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึงผลการประชุม กมธ.การศึกษา เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ว่า ที่ประชุมได้มีมติให้ทำบันทึกข้อสรุปความไม่ชอบมาพากลในการสรรหาและคัดเลือกผู้แทนคุรุสภา ในคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษา 175 เขต ของคณะกรรมการคุรุสภา ส่งถึงนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เพื่อพิจารณาให้มีการสรรหาและคัดเลือกผู้แทนคุรุสภาใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ใหม่ ทั้ง 175 เขต เนื่องจากที่มาของการคัดเลือกผู้แทนคุรุสภาไม่สุจริต ไม่เที่ยงธรรม โดย กมธ.การศึกษา จะทำความเห็นพร้อมหลักฐานเสนอต่อ รมว.ศึกษาธิการ เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาในที่ประชุม ก.ค.ศ. วันที่ 29 ม.ค.นี้

ประธาน กมธ.การศึกษา กล่าวต่อไปว่า สำหรับความไม่ชอบมาพากลมี 4 ประเด็น ดังนี้ 1.คณะกรรมการคัดเลือกผู้แทนคุรุสภาใน อ.ก.ค.ศ.ตพื้นที่ฯ ที่มีนายนิยม ศรีวิเศษ เป็นประธาน ไม่ทำตามประกาศในเรื่องพิจารณาคุณสมบัติและเอกสารประกอบของผู้สมัคร ทำให้หลายคนที่มีคุณสมบัติไม่เหมาะสมได้รับการคัดเลือกไปเป็นผู้แทนคุรุสภาใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ 2.กรรมการคุรุสภาเสนอรายชื่อเกินโควตาที่กำหนดให้แต่ละคนเสนอได้ 3 รายชื่อ โดยบางคนเสนอถึง 5-7 รายชื่อ และมีการเปลี่ยนแปลงรายชื่อภายหลัง ซึ่งเป็นการสอดไส้ 3.มีการทำโผกำหนดตัวบุคคลไว้ล่วงหน้า นำมาสู่การบล็อกโหวต ซึ่งผลโหวตสอดคล้องตามโผเป็นส่วนใหญ่ และ 4.เอกสารสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบรายชื่อและคุณสมบัติของผู้สมัครทั้ง 1,031 ราย ที่จะเป็นตัวชี้ว่าการคัดเลือกผู้แทนคุรุสภา ขัดต่อหลักเกณฑ์นั้น ไม่ได้รับความร่วมมือจากคุรุสภาทั้ง ๆ ที่ กมธ.การศึกษา ขอไปทั้งด้วยวาจาและทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรส่วนเรื่องเรียกรับเงินนั้น ไม่มีหลักฐานยืนยันการรับเงินที่ชัดเจนจึงสาวไปไม่ถึง แต่ในอนาคต ถ้ามีหลักฐานเพิ่มเติมเราก็พร้อมตรวจสอบขยายผลต่อไป

ด้าน รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ ประธานคณะกรรมการติดตามดูแลการสรรหาและการเลือกตั้งผู้แทนใน ก.ค.ศ., อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา และ อ.ก.ค.ศ.ส่วนราชการ กระทรวงศึกษาธิการ หรือ กกต.ศธ.เปิดเผยผลการประชุม กกต.ศธ. ในวันเดียวกันว่า กกต.ศธ.มีความเห็นเป็น 2 แนวทาง คือ แนวทางแรก เห็นว่าควรให้มีการสรรหาและคัดเลือกผู้แทนคุรุสภาใหม่ทั้งหมด แต่ต้องแก้ไขกฎระเบียบ เพื่ออุดช่องว่างไม่ให้มีการแลกคะแนนโหวต เพื่อให้คนที่ตัวเองเสนอชื่อได้รับการคัดเลือก ส่วนอีกแนวทางหนึ่ง ให้มีการคัดเลือกใหม่ เฉพาะเขตพื้นที่ที่มีการกระทำผิดหรือเป็นปัญหา ซึ่ง รมว.ศึกษาธิการ สามารถใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา มาล้มกระดานการเลือกตั้งผู้แทนคุรุสภาได้ถ้าเห็นว่า ไม่ถูกต้อง.