ทวงถามเงินเพิ่ม ม.นอกระบบ 60%

จากกรณีที่มีผู้เสนอให้ปรับปรุงโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดยให้หน่วยงานที่มีสถานศึกษาในสังกัด มีฐานะเป็นทบวงนั้น รศ.ดร.มณฑล สงวนเสริมศรี อดีตประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ในฐานะผู้ศึกษาวิจัย เรื่องการแยกสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ออกจาก ศธ.เป็นกระทรวงการอุดมศึกษาและการวิจัย กล่าวว่า การที่ ทปอ.เสนอแยก สกอ. เป็นกระทรวงการอุดมศึกษาและการวิจัย เนื่องจากการรวมอยู่กับ ศธ. ทำให้องค์กรมีขนาดใหญ่ การทำงานอุ้ยอ้าย และการบริหารจัดการไม่คล่องตัว แต่ขณะนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป โดยมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ได้ออกไปเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ หรือ ออกนอกระบบมากขึ้น ทำให้การบริหารจัดการมีความคล่องตัว และมีความเป็นอิสระมากขึ้น ดังนั้นจะแยกกระทรวงหรือไม่ คงไม่ทำให้การทำงานแตกต่างไป แต่สิ่งที่ตนอยากจะเรียกร้องต่อรัฐบาล คือ เรื่องงบประมาณที่รัฐบาลเคยสัญญากับมหาวิทยาลัยที่จะออกนอกระบบ ว่า จะให้งบฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 60 แต่ ขณะนี้เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 40 ซึ่งต้องทำให้ได้ มิฉะนั้นการออกนอกระบบไปก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น

ด้าน ดร.สุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าวว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ประชุม กกอ.ได้หารือถึงการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง โดยหยิบยกเรื่องโครงสร้างมาหารือ แต่ยังไม่มีคำตอบว่าจะแยกเป็นกระทรวงอุดมศึกษาหรือไม่ ซึ่งตนรับรองว่าถ้าจะปรับโครงสร้างของ สกอ.จะไม่ทำเพื่อตัวบุคคล และโครงสร้างของ สกอ.จะไม่ใหญ่กว่าเดิม มีแต่จะเล็กลง และทำหน้าที่ดูแลมาตรฐาน กำกับด้านนโยบาย และสนับสนุนทรัพยากรเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ สกอ.ยังคงมีนโยบายสนับสนุนให้มหาวิทยาลัยออกนอกระบบ โดยมีเงื่อนไขเหมือนเดิม คือ ความพร้อมขององค์กร และ ความเห็นร่วมกันของประชาคมในองค์กร ซึ่งถ้าทั้ง 2 ส่วนพร้อมก็ส่งร่าง พ.ร.บ.ของมหาวิทยาลัยมาให้ สกอ.ได้.