บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวหุ้น 27/01/53

บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวหุ้น 27/01/53

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 27/01/53คาดว่าตลาดจะยังแกว่งลงต่อเนื่อง ดังนั้นขึ้นเน้นขาย..ซื้อรอต่ำ! ความวิตกต่อมาตรการคุมเข้มเศรษฐกิจของทั้งจีนและสหรัฐ ยังคงกดดันตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงแนวทางการเริ่มต้นถอนสภาพคล่องออกจากระบบของสหรัฐหลังประธานาธิบดีสหรัฐเตรียมแผนไม่เพิ่มงบประมาณรายจ่าย 3 ปีเพื่อแก้ไขปัญหางบประมาณที่ขาดดุลสูง และแนวโน้มการเพิ่มดอกเบี้ยสำหรับเงินฝากของ FED ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์มีโอกาสแข็งค่าต่อเนื่อง ซึ่งไม่เป็นผลดีกับสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ ขณะที่ในบ้านเราเองประเด็นการเมืองยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง หลังวานนี้พรรค ปชป.มีมติไม่ร่วมลงชื่อขอแก้ไขรัฐธรรมนูญกับพรรคร่วมรัฐบาล ส่งผลให้ฝ่ายกลยุทธ์ของ FSS มองว่าโอกาสยุบสภามีสูงมากนับจากนี้ และมีสิทธิที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงขั้วของรัฐบาลได้ เราจึงยังแนะนำให้ขายทำกำไรโดยเฉพาะเมื่อตลาดขยับขึ้น แล้วยังไม่แนะนำให้รีบเข้าซื้อเพราะเชื่อว่า SET มีโอกาสไหลลงไปหา 680 จุดเป็นอย่างน้อยได้ ดังนั้น ช่วงนี้แนะนำให้ถือเงินสดเพิ่มขึ้น หรือถ้าจะเลือกเข้าซื้อลงทุน แนะนำให้ดูเฉพาะหุ้นที่จ่ายปันผลสูงเช่น BCP, AIT, TRT, SPALI, GFPT, TMT, TVO, HANA, KSL ประเด็นสำคัญวันนี้ โอกาสยุบสภามีสูงมากนับจากนี้ ฝ่ายกลยุทธ์ของเราประเมินว่าขณะนี้สถานการณ์มีความล่อแหลมอย่างมากต่อการที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งโอกาสที่นายกอภิสิทธิ์จะยุบสภามีสูงมาก หลังจากที่คณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์มีมติไม่ร่วมเข้าชื่อเพื่อยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ อนึ่งพรรคร่วม 5 พรรคนำโดยพรรคชาติไทยพัฒนา (25) พรรคเพื่อแผ่นดิน (31) พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา (9) พรรคกิจสังคม (5) และพรรคภูมิใจไทย (บางส่วน) ได้เห็นพ้องที่จะยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 มาตรา 190 เกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างประเทศ และมาตรา 93 อันเกี่ยวกับวิธีการเลือกตั้งแบ่งเขตเรียงเบอร์ในสัปดาห์หน้าโดยไม่รอความเห็นชอบของพรรค ปชป. อันที่จริงพรรคร่วม 5 พรรคนี้ต้องการแก้ไข รธน. ปี 50  มาตราอื่นด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรา 237 อันเกี่ยวข้องกับการยุบพรรคและตัดสิทธิ์ทางการเมืองของคณะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งจะเห็นว่าความต้องการแก้ไข รธน. หลายมาตราจะไปเข้าทางความต้องการแก้ไข รธน. ปี 50 โดยการนำเอารัฐธรรมนูญฉบับปี 40 มาใช้ของพรรคเพื่อไทย (189) ดังนั้นเมื่อพิจารณากันให้ดีแล้วโอกาสย้ายขั้วทางการเมืองของ 5 พรรคร่วมไปรวมกับพรรคเพื่อไทยก็มีสูงมากด้วย หากปล่อยให้พรรคเพื่อไทยเสนอญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลจนสำเร็จแล้ว ถึงจุดนั้นนายกอภิสิทธิ์จะไม่สามารถยุบสภาได้ตาม รธน. แล้วพรรคเพื่อไทยก็จะเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล ทีนี้การจะแก้ รธน. อย่างไรก็ย่อมทำได้ ดังนั้นความเป็นไปได้ของการยุบสภาในช่วงเวลานับจากนี้จึงมีสูงมาก การถอนสภาพคล่องกำลังเริ่มต้น ค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่า เป็นผลลบกับสินทรัพย์เสี่ยง การถอนสภาพคล่องกำลังเริ่มต้นขึ้นและจะกระทบกับตลาดหุ้นในทางลบ โดย 1) วานนี้ Obama ได้เปิดเผยถึงแผนไม่เพิ่มงบประมาณรายจ่าย 3 ปีเพื่อแก้ไขปัญหางบประมาณที่ขาดดุลสูงเป็นประวัติการณ์ถึง US$1.4 ล้านล้านเหรียญในปี 2009 โดยคาดว่าจะลดการขาดดุลได้ US$1.0 – 1.5 หมื่นล้านเหรียญในปี 2011 และภายในปี 2020 จะลดการขาดดุลได้ US$2.5 แสนล้านเหรียญ ทั้งนี้ Obama จะรายงานรายละเอียดการจัดทำงบประมาณประจำปีต่อสภา Congress ในวันที่ 1 ก.พ. นี้ 2) Fed ที่กำลังจะประชุมในช่วง 2 วันนี้อาจพิจารณาเพิ่มดอกเบี้ยสำหรับเงินฝาก (ปัจจุบัน 0.25%) ที่แบงก์พาณิชย์ต่างๆ นำมาฝากกับ Fed ให้สูงกว่าดอกเบี้ยที่แบงก์จะให้กู้ระหว่างกัน เท่ากับตรึงสภาพคล่องส่วนเกินให้อยู่กับ Fed ไม่นำออกสู่ระบบเศรษฐกิจเพื่อให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อตามมา (นี่เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ Bernanke เคยพูดอยู่แล้วว่าอาจทำ) และ 3. มาตรการลดความร้อนแรงของเศรษฐกิจจีนที่ออกมาเป็นรายสัปดาห์ ล่าสุดวานนี้ปรับขึ้นเพดานสำรองเงินฝากของแบงก์บางแห่ง (Reserve Requirement Ratio - RRR) อีกเป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่เพิ่งปรับ RRR ขึ้นไป 0.5% มีผลเมื่อวันที่ 18 ม.ค. ที่ผ่านมา ที่จริงแล้วเรามองมาตรการนี้ของจีนเป็นบวกในระยะยาวเพราะเป็นมาตรการที่คุมเข้มสภาพคล่องส่วนเกินได้ตรงจุดที่สุด แต่ระยะสั้น ย่อมส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์เสี่ยง ทั้งมาตรการของ Obama และจีนจะทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น กดดันสินทรัพย์เสี่ยง (หุ้น น้ำมัน ทอง โลหะมีค่า) ทั่วโลกให้มีราคาลดต่ำลง   วานนี้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลงโดยเฉพาะตลาดเกิดใหม่ซึ่งเป็นตลาดที่เสี่ยงกว่า โดย MSCI EM ปรับลง 2.2% ขณะที่ MSCI World ปรับลง 0.5% สาเหตุส่วนใหญ่มาจากความกลัวมาตรการคุมเข้มสภาพคล่องของจีน แม้จะมีข่าวดี (อังกฤษจะรายงาน GDP 4Q09 เพิ่มขึ้น 0.1% Q-Q ค่อยๆ ออกจากภาวะถดถอยที่นานถึง 18 เดือน แต่การขยายตัวของเศรษฐกิจยังอ่อนแอกว่าคาดมาก) แต่ตลาดไม่ตอบรับTechnical View : “ถ้าไม่หลุด 700 จุดก็ลุ้นดีดขึ้น แต่ยังเน้นขายทำกำไร .. แต่ถ้าหลุดลงก่อนต้องถอยไปรอดูแรงซื้อกันใหม่ที่แนวรับถัดๆ ไป!!” แนวรับ    :   700-698*** , 690-686* , 680-670**      แนวต้าน  :   706-708* , 712-715** , 720-730***Technical Picks: BAY (Bt 19.50 เป้าเทคนิค 20.50-21 cut loss ถ้าหลุด 19.20) TKT (Bt 1.90 เป้าเทคนิค 2.08-2.12 cut loss ถ้าหลุด 1.85) GBX (Bt 1.47 เป้าเทคนิค 1.58-1.62 cut loss ถ้าหลุด 1.43)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook