บล.กรุงศรีอยุธยา : รายงานภาวะหุ้น 27/01/53

บล.กรุงศรีอยุธยา : รายงานภาวะหุ้น 27/01/53

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บล.กรุงศรีอยุธยา : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 27/01/53 Market Recap and Trend: คาดหวังการ Rebound ระยะสั้นๆ หลังจากปรับลดลงทดสอบแนวรับทางเทคนิคที่บริเวณ 700 จุด SET อ่อนแอกว่าที่เราคาดไว้มากเมื่อวานนี้ โดยปรับลดลงต่อเนื่องอีก 1.23% ปิดตลาดที่701.66 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 18,261 ล้านบาท ซึ่งเรามองว่าเป็นการปรับลดลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงที่นักลงทุนยังมีความกังวลต่อนโยบายการลดความร้อนแรงทางเศรษฐกิจของธนาคารกลางจีน ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นสุทธิ 1,721 ล้านบาท แม้ว่า SET จะอ่อนแอกว่าที่เราคาดไว้เมื่อวานนี้ แต่เรายังคงคาดหวังการ Rebound ระยะสั้นๆ ของ SET หลังจากปรับลดลงแรงต่อเนื่องตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ตลาดหุ้น Dow Jones ปรับลดลงเล็กน้อย 0.03% แม้ว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะปรับสูงขึ้นเป็น 55.9 ในเดือน ม.ค. ซึ่งเป็นการปรับสูงขึ้น 3 เดือนติดต่อกัน สูงสุดตั้งแต่ ก.ย. 2008 แต่นักลงทุนยังคงมีความกังวลต่อกฏระเบียบที่มากขึ้นในการดำเนินงานของสถาบันการเงิน สำหรับการประชุม FOMC คืนนี้ คาดว่า FED จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0 – 0.25% ต่อเนื่อง โดยเราคาดว่า FED จะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่ 3Q10-4Q10 เป็นต้นไปInvestment Strategy: ถือหุ้นในสัดส่วน 60% ของพอร์ตต่อเนื่อง...ยังเน้นการเข้าสะสมในกลุ่มหุ้นที่ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง แม้จะมีการ Rebound บ้างหลังจากที่ SET ปรับลดลงแรงตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เรามองว่าระยะการ Rebound จะเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังมีความกังวลต่อ 1. ความกังวลต่อปัญหาการเมืองทั้งในสภาฯ และนอกสภาฯ และ 2. การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาดไว้ อย่างไรก็ตามถ้าพิจารณาในเชิงพื้นฐานเรายังมองว่าทั้งพื้นฐานทางเศรษฐกิจ และ SET ยังแข็งแกร่งเหมือนเดิม ทำให้เราแนะนำนักลงทุนถือหุ้นในสัดส่วน 60% ของพอร์ตต่อเนื่อง เพื่อจำกัดความเสี่ยงจากการพักฐาน โดยมองจุดซื้อคืนที่บริเวณ 660-680 จุด สำหรับกลุ่มหุ้นแนะนำยังเน้นกลุ่มหุ้นปันผลอย่าง KK, DCC, TICON,BCP, ADVANC, TNH, NOBLE, และ HEMRAJ ต่อเนื่องTop Picks PTT PTTEP BANPU TOP PTTAR BBL KBANK SCB KTB TISCO DCC SCC LH QH AP PS SPALI KSL TUF CPALL AOT STANLY SAT TTA MINTFutures Strategy : ปิดสถานะ Short ไปแล้ว และยังแนะนำรอเปิดสถานะ Short อีกครั้งเมื่อ Rebound ที่ 505-508 จุด AUTO : เพิ่ม SCIB เข้ามาในกลุ่มหุ้น Top Picksตลาดต่างประเทศ และประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นในตลาดโลก • ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลดลง ดัชนีเฉลี่ยดาวโจนส์ปิดลดลง 0.03% เช่นเดียวกับ S&P500 ปิดลดลง 0.42% โดยนักลงทุนยังมีความวิตกทางการเมืองและกฎระเบียบ ขณะที่วุฒิสภาสหรัฐจะลงมติในสัปดาห์นี้เพื่อยืนยันการแต่งตั้งนายเบอร์นันเก้เป็นประธานเฟดสมัยที่ 2 โดยวุฒิสมาชิกบางคนระบุว่าจะลงมติคัดค้านนายเบอร์นันเก้ เนื่องมาจากการจัดการของเฟดต่อวิกฤตการเงิน นอกจากนี้นักลงทุนมีความระมัดระวัง ก่อนการประกาศนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการแถลงสุนทรพจน์ทั่วประเทศของประธานาธิบดีบารัค โอบามาในวันพุธนี้ • ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดลดลง ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน มี.ค. ปิดลดลง 55 เซนต์ หรือ 0.73% มาที่ 74.71 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล โดยได้รับแรงกดดันจากการจำกัดการปล่อยสินเชื่อของจีนและข้อมูลราคาบ้านที่ย่ำแย่ของสหรัฐหนุนดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับยูโร ประกอบกับมีความวิตกต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันสามารถปรับตัวขึ้นจากจุดต่ำสุด หลังจาก Conference Board เปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันในเดือนม.ค.สู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปี 2008 • ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับยูโร ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า จีนแจ้งต่อธนาคารบางแห่งให้เพิ่มการกันสำรอง ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ลดความต้องการของนักลงทุนในสินทรัพย์และสกุลเงินที่ให้ผลตอบแทนสูงจากความวิตกว่า การจำกัดการปล่อยกู้อาจจะชะลอการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ ตลาดรอการประกาศอัตราดอกเบี้ยและแถลงการณ์ด้านนโยบายจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธนี้รวมถึงการยืนยันของวุฒิสภาเพื่อแต่งตั้งนายเบน เบอร์นันเก้ เป็นประธานเฟดสมัยที่ 2 โดยวาระการดำรงตำแหน่งของนายเบอร์นันเก้ในปัจจุบันจะสิ้นสุดลงในวันอาทิตย์นี้ • ดัชนีค่าระวางเรือเทกองปิดลดลง 18 จุดมาที่ 3205 จุด รายงานภาคการผลิตที่ดีขึ้นโดยเฉพาะสหรัฐสร้างความเชื่อมั่นในการสต๊อกวัตถุดิบของผู้ผลิตทั่วโลกช่วยผลักดันค่าระวางเรือให้มีทิศทางขาขึ้นในช่วงนี้               

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook