CEN ลุยประมูลงานใหม่หวังรายได้ปีนี้แตะ 2 พันล.

CEN ลุยประมูลงานใหม่หวังรายได้ปีนี้แตะ 2 พันล.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายวุฒิชัย ลีนะบรรจง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แคปปิทอล เอ็นจิเนียริ่งเน็ตเวิร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ CEN เปิดเผยว่าในปี 2553 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 2,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ที่เดิมคาดว่าจะทำได้ 1,600 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทย่อยทั้ง 3 แห่ง ซึ่งประกอบด้วย บริษัท ระยองไวร์ อินดัสตรีส์ จำกัด, บริษัท เอื้อวิทยา จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เอ็นเนซอล จำกัด มีผลประกอบการที่ดีขึ้นทั้งหมด หลังได้รับปัจจัยบวกจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ฟื้นตัว ประกอบกับรัฐบาลยังช่วยผลักดันและกระตุ้นให้เกิดโครงการลงทุนใหม่ๆ โดยเฉพาะโครงการไทยเข้มแข็ง ขณะเดียวกันบริษัท เอื้อวิทยา จำกัด (มหาชน) ยังเข้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะงานจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) ที่ปีนี้บริษัทฯ คาดว่าจะเข้าประมูลประมาณ 3,400 ล้านบาท ซึ่งมีโอกาสได้รับงานดังกล่าวในสัดส่วน 40%-50% ของมูลค่างานทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีงานเสาโทรคมนาคม ของบริษัท ทรู มูฟ จำกัด โดยมีมูลค่าโครงการอยู่ที่ 200-300 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าเอื้อวิทยา จะได้รับงานดังกล่าวในสัดส่วน 40-50 ล้านบาท ส่วนปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 400-500 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้บริษัทเอื้อวิทยา มีสัดส่วนรายได้มาจากงานจำหน่ายโครงเหล็กชุบสังกะสีสำหรับเสาสายส่งไฟฟ้าแรงสูงอยู่ที่ 70% เสาโทรคมนาคม ในสัดส่วน 10% และโครงเหล็กสถานีไฟฟ้าย่อย 20%     สำหรับสัดส่วนรายได้ในปีนี้จะมาจาก บริษัท ระยองไวร์ อินดัสตรีส์ จำกัด มูลค่า 800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ที่คาดว่าจะทำได้ 700 ล้านบาท , บริษัท เอื้อวิทยา จำกัด (มหาชน) มูลค่า 800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่คาดว่าจะทำได้ 700 ล้านบาท และบริษัท เอ็นเนซอล จำกัด มูลค่า 300-400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ที่คาดว่าจะทำได้ 500 ล้านบาท   ขณะเดียวกันยังคาดว่าในปีนี้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ มีโอกาสกลับมามีกำไร หลังจากปี 2552 ที่คาดว่าจะยังขาดทุน เพราะผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกของปีที่ผ่านมาออกมาไม่ดี หลังได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอ ต้นทุนวัตถุดิบที่อยู่ในระดับสูง แต่ผลประกอบการครึ่งปีหลังเริ่มดีขึ้น ประกอบกับการผลิตเสาโครงเหล็กจะเป็นตัวผลักดันรายได้และกำไรให้เพิ่มขึ้น เพราะมีมาร์จิ้นในอัตราที่สูง 20-30% เมื่อเทียบกับงานเสาสายส่งที่มีมาร์จิ้นอยู่ที่ 15%

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook