บล.เอเซียพลัส : รายงานภาวะหุ้น 27/01/53

บล.เอเซียพลัส : รายงานภาวะหุ้น 27/01/53

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บล.เอเซียพลัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 27/01/53กลยุทธ์การลงทุน ความหวังต่อการฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทยในระยะสั้นเริ่มยากขึ้น เมื่อประเด็นการเมืองมาถึงจุดที่อาจเปลี่ยนแปลง ขณะที่คาดว่าตลาดหุ้นโลกใกล้ฟื้นตัว ดัชนีที่ลงมา ณ PER 11  เท่า (ใกล้ 700 จุด) ยังแนะนำสะสมหรือ ถือลงทุนต่อ ในหุ้นน้ำมัน โรงกลั่น หุ้นปันผล และที่มีแนวโน้มผลกำไรงวด 4Q52 และปี 2553 สดใส: HMPRO, STANLY, PTTEP, PTT, KSL, RCL, BCP, ADVANC, การเมืองเดินทางเข้าใกล้จุดเปลี่ยนสำคัญ ... กดดันตลาดฯ มติของที่ประชุม ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ที่จะไม่เข้าร่วมในกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งในส่วนของการเสนอญัตติ และการลงคะแนนสนับสนุน ถือเป็นประเด็นที่อาจนำไปสู่ปัญหาความไม่มีเสถียรภาพของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ใกล้จะมีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล สำหรับประเด็นที่ต้องติดตามต่อไป นอกจากจะเป็นเรื่องการดำเนินการของพรรคร่วมรัฐบาลในการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว ยังต้องติดตามดูการเคลื่อนไหวของกลุ่มที่คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย สภาพแวดล้อมดังกล่าวน่าจะมีส่วนขับเคลื่อนให้สถานการณ์การเมืองเดินหน้าเข้าสู่จุดเปลี่ยนที่สำคัญเร็วขึ้น และยังเป็นปัจจัยกดดันตลาด ทำให้ความคาดหวังต่อการฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทย ตามแนวโน้มตลาดหุ้นโลก  เป็นไปได้ยากมากขึ้น   ทั้งนี้หากสถานการณ์การเมืองไม่มีความรุนแรงเชื่อว่า ที่ระดับ PER 11 เท่า น่าจะเป็นระดับที่สามารถรองรับแรงกดดันดังกล่าวได้ ซึ่งที่ PER 11 เท่า จะให้ระดับ SET Index  ที่ 700-680 จุด เป็นแนวรับที่มีนัยสำคัญ   ตลาดหุ้นโลกยังมีความเสี่ยง  รอการแถลงนโยบายของ Fed ในวันพุธนี้   ตลาดหุ้นสหรัฐยังอ่อนไหว ต่อ ผลการประชุมของ คณะกรรมการกำหนดนโยบายของสหรัฐ (FED)   ซึ่งจะมีขึ้นในวันอังคาร และ พุธนี้  แม้เป็นที่คาดหมายว่า Fed จะคงดอกเบี้ยนโยบายระดับต่ำ 0.25% ไว้ที่เดิม   แต่ตลาดยังรอฟังแถลงการณ์ของ FEDเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจในวันพุธนี้   ขณะที่ประเด็นความเสี่ยง ต่อ การดำรงตำแหน่ง  ของ  นายเบอร์นันเก้ ฯ  ในฐานะประธานเฟด  เป็นสมัยที่ 2  หลังจากครบอายุ  31 ม.ค.2553   จะได้รับความไว้วางใจ และ การสนับสนุนจากวุฒิสมาชิก ฯ หรือไม่ ยังต้องติดตามต่อไป เพราะหมายถึงการกำหนดทิศทาง และ นโยบายการเงินของสหรัฐนับจากนี้จะเป็นอย่างไร ขณะที่นายบารัก โอบามา  ได้เสนอแนวทาง ชัดเจน ในการควบคุมการลงทุนธนาคารพาณิชย์ และ Hedge Fund  เพื่อคุ้มครองเงินฝากของประชาชน    ซึ่งเท่ากับเป็นการจำกัดการลงทุน และ เก็งกำไรในสินทรัพย์เสี่ยง ทั้งหุ้น และ สินค้าโภคพภัณฑ์ เป็นต้น กลุ่มค้าปลีกยังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง ตามดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค : HMPRO วันนี้นักวิเคราะห์กลุ่มค้าปลีกของ ASP ได้ออกมาคาดการณ์ ผลประกอบการงวด 4Q52 ของ HMPRO พบว่า น่าจะมีกำไรสุทธิ 372 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และ เติบโต 45.2% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องช่วยกระตุ้นกำลังซื้อ ประกอบกับความสำเร็จในการจัดงาน HomePro Expo ครั้งที่ 10 ที่จัดขึ้นในปลายเดือน ต.ค. 2552  ที่ผ่านมา และมีการรับรู้รายได้จากการเปิดสาขาใหม่ 2 แห่ง ตั้งแต่ต้นปีเป็นหลัก ทำให้คาดว่าทั้งปี 2552 บริษัทจะมีกำไรสุทธิ 1,123 ล้านบาท เติบโต 17.0% จากปี 2551 และยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในปี 2553 อีก ในอัตราที่เท่ากัน ราคาหุ้นยังมี Upside 17% เหมาะสำหรับการลงทุนภายใต้ภาวะตลาดผันผวน ...    Dollar และ ราคาน้ำมันดิบโลก ทรงตัว พร้อมใกล้ฟื้นตัว แนะนำถือลงทุน/สะสม PTT, PTTEP, TOP, BCP เช้านี้พบว่าทั้ง Dollar Index และ ราคาน้ำมันดิบโลก อยู่ในภาวะทรงตัว โดยราคาน้ำมันดิบในตลาดซื้อขายล่วงหน้าไนเม็กส์ทรงตัวใกล้เคียง  75 เหรียญฯต่อบาร์เรล   สอดคล้องกับน้ำมันดิบดูไบ ยืนที่ 72.5 เหรียญฯต่อบาร์เรล  ซึ่งราคาน้ำมันดิบดูไบในเดือน ม.ค. 2553 เฉลี่ยยังอยู่ที่ 77 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ซึ่งเกินสมมติฐาน ASP ที่กำหนดไว้ 75 เหรียญฯ เชื่อว่าสมมติฐานยังเป็นไปได้ นักลงทุนที่ถือหุ้นน้ำมัน และ โรงกลั่นแนะนำถือต่อไป หรือ หากต้องการซื้อสะสมเพิ่มแนะนำหุ้นโรงกลั่น เนื่องจากขณะนี้ค่าการกลั่นยืนเหนือ 5 เหรียญฯต่อเนื่อง และที่มีแนวโน้มจะสูงต่อเนื่องตลอดระยะ 3 เดือนข้างหน้า ตามผลของฤดูกาล โดยแนะนำซื้อ BCP  เป็น Top pick  เพราะยังจ่ายเงินปันผลในงวด 2H52 ปี 2552  ราวหุ้นละ  1 บาท หลังจ่ายไปแล้วหุ้นละ 1   บาท ในงวด 1H52 และจะจ่ายสูงถึง 8% ในปี  2553               

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook