รพ.เอกชนร่วมโครงการฉีดวัคซีนหวัด 2009 เพิ่ม เตรียมนำพารามีเวียร์ใช้กับกลุ่มเสี่ยงที่มีปัญหาเรื่องการ

โรงพยาบาลเอกชน เข้าร่วมโครงการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เพิ่ม พร้อมเตรียมนำพารามีเวียร์ใช้กับกลุ่มเสี่ยงที่มีปัญหาเรื่องการดูดซึมยา นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์การรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในโรงพยาบาลเอกชนว่า มีโรงพยาบาลเข้าร่วมโครงการ 212 แห่ง และมีโรงพยาบาลเอกชนขอเข้าร่วมโครงการเพิ่มอีก 43 แห่ง ซึ่งจะทำให้มีโรงพยาบาลเอกชนเข้าร่วมการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ประมาณ 255 แห่ง ซึ่งโรงพยาบาลจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขไม่คิดค่าบริการวัคซีนและค่าเข็มฉีดยา สำหรับพื้นที่ที่มีการรับวัคซีนมากที่สุดในขณะนี้ ได้แก่ จังหวัดเชียงราย 2,000 คน ส่วนผู้รับวัคซีนทั่วประเทศขณะนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 53,000 ราย สำหรับแนวทางการรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่บางประเทศเริ่มใช้ยาฉีดพารามีเวียร์ แทนโอเซลทามิเวียร์ พบเพียงประเทศญี่ปุ่น ส่วนประเทศไทยอยู่ในระหว่างการวิจัย และทดลองประสิทธิภาพที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี หากประสิทธิภาพดี และผ่านการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา จะสั่งซื้อและนำมาใช้รักษาผู้ป่วยทันที เนื่องจากการรักษาเหมาะสำหรับผู้ป่วยอาการหนัก ที่มีปัญหา เรื่องการรับประทานยาโอเซลทามิเวียร หรือยาพ่น ซานามิเวียร์ และผู้ที่มีปัญหาเรื่องของการดูดซึมยาในกระเพาะอาหาร สำหรับสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ 2009 โดยรวมในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มอีก 46 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตคงที่ 198 ราย ทั้งนี้ จากการเฝ้าระวังผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ในโรงพยาบาลทั่วประเทศ พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 6 จังหวัด คือ ขอนแก่น อ่างทอง จันทบุรี ชลบุรี สมุทรปราการ และเชียงใหม่