ข้อคิดเรื่องซอฟต์แวร์ปี 2553

ข้อคิดเรื่องซอฟต์แวร์ปี 2553

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายเบอร์นาร์ด คอลลิน ซีอีโอ บริษัทเซฟคอมส์ เน็ตเวิร์ค ซีคิวริตี้ คอนซัลติ้ง กล่าวว่า ในปี 2553 การเลือกใช้ซอฟต์แวร์โอเพ่น ซอร์ส หรือซอฟต์แวร์เชิงพาณิชย์ ยังเป็นเรื่องที่มีการโต้เถียงกันมาก โดยเฉพาะประเด็นที่ว่าการเปลี่ยนมาใช้ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สเพื่อแก้ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์นั้น เป็นทางออกที่สะดวก ง่าย และไม่ต้องเสียสตางค์สักบาทเดียว

จากประสบการณ์ พบว่า การใช้ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส ย่อมต้องดีกว่าการใช้ซอฟต์แวร์เถื่อนอยู่แล้ว แต่ข้อเท็จจริงอีกประการหนึ่งก็คือ ของฟรีไม่มีในโลก เจ้าของธุรกิจควรรู้ไว้ว่า การเปลี่ยนมาใช้ซอฟต์แวร์โอเพ่น ซอร์สในการดำเนินธุรกิจ มีต้นทุนแฝงอยู่ ซึ่งจะมากหรือน้อยกว่าการใช้ซอฟต์แวร์เชิงพาณิชย์พิจารณาได้ดังนี้

บริษัทที่จะนำซอฟต์ แวร์โอเพ่นซอร์สมาใช้ ต้องระบุเป้าหมายที่ชัดเจนว่าอยากได้อะไรจากการตัดสินใจครั้งนี้ แล้วชั่งน้ำหนักให้ดีว่าคุ้มค่ามากน้อยเพียงใด หากเป็นเป้าหมายระยะสั้น สามารถลดต้นทุนได้แน่นอน แต่ใะยาว อาจต้องเผชิญกับอุปสรรคในเรื่องต่าง ๆ เช่น การฝึกอบรมพนักงาน การโอนถ่ายข้อมูลมาสู่ระบบใหม่ การทำงานร่วมกับระบบของลูกค้า และท้ายที่สุด คือ การสรรหาผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของซอฟต์แวร์เป็นอย่างดี เพื่อให้คำแนะนำในการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง สามารถการันตีความมั่นคงให้กับธุรกิจได้

เนื่องจากภาครัฐกำลังเร่งผลักดันนโยบายเศรษฐกิจที่เน้นสร้างมูลค่าจากสิทธิด้านทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งประเทศไทยมีคนเก่งมาก ๆ สามารถผลิตสินค้าให้ทันกับความต้องการของตลาดโลกได้ ดังนั้น นโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือ ครีเอทีฟ อิโคโนมี และแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ จึงเป็นความหวังของประเทศไทย ซึ่งทุกฝ่ายในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ควรให้การสนับสนุนโครงการเหล่านี้ เพราะหากการละเมิดลิขสิทธิ์มีอยู่จะกลายเป็นดาบสองคมทำลาย ขวัญ และกำลังใจของนักพัฒนาซอฟต์ แวร์ไทย

เมื่อเราผ่านภาวะเศรษฐ กิจตกต่ำทั่วโลกในปี 2552 มาได้แล้ว ผมจึงอยากแนะนำให้ผู้บริหารองค์กรหันมาตรวจสอบระบบไอที แสินทรัพย์ประเภทซอฟต์แวร์ที่ใช้ในองค์กรอย่างละเอียด และเริ่มวางแผนการลงทุนสำหรับปีปัจจุบัน สำหรับบริษัททั่ว ๆ ไปจะมีค่าใช้จ่ายด้าน ไอทีและซอฟต์แวร์เฉลี่ยราว 5% ของต้นทุนในการดำเนินงานทั้งหมด การลงทุนด้านไอทีและซอฟต์แวร์นับว่าเป็นหนึ่งในการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด เพราะช่วยลดต้นทุนในระยะยาว เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงาน และยังเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของบริษัทกับคู่แข่งในตลาดโลก นายคอลลิน กล่าว

ขณะที่ประเด็นเรื่องความปลอดภัยยังคงเป็นเรื่องที่ต้องจับตามอง โดยจำนวนผู้ส่ง อีเมลขยะ แฮกเกอร์ และไวรัสต่าง ๆ ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และไม่สามารถรู้ได้เลยว่าจะโจมตีธุรกิจของคุณเมื่อไหร่ สิ่งเดียวที่ทำได้ คือ เตรียมตั้งรับไว้ให้ดี จัดการพัฒนาระบบไอทีให้มีประสิทธิภาพอย่างสม่ำเสมอ.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook