มาร์คเมินขู่ฟรีโหวตเผยรมต.

มาร์คเมินขู่ฟรีโหวตเผยรมต.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ไม่มีใครปริปากบ่น สุเทพรับโดนไล่ ชุมพลเดินหน้า ยื่นร่างแก้รธน.

สุเทพ ลั่นรู้ดีมีเสียงไล่ส่งพ้นพรรค ยืนยันยังทำหน้าที่ผู้จัดการรัฐบาลได้ดี เชื่อไม่มีใครบากหน้าเป็นกาวใจคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลได้ อภิสิทธิ์ เผยรมต.พรรคร่วมไม่เห็นใครปริปากบ่น นั่งประชุมด้วยกันราบรื่นดี เมินเสียงขู่ฟรีโหวตไม่ไว้วางใจ ให้ สุวิทย์ เป็นเจ้าภาพนัดพูดคุย บัญญัติ โต้ไม่ขัดแย้งไปถึงยุบสภา แนะยึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก การเมืองใหม่ ชมนายกฯเจ๋ง กล้าแข็งข้อไม่เป็นเด็กหงอพรรคร่วม สุริยะใส แนะจับตาบีบ เทพเทือก ให้ลดบทบาท ชวรัตน์ พร้อมรอฟังคำอธิบายจากปชป. พผ.คาดไม่ถึงปชป. เฮี้ยวเกินคาด เสี่ยตือ เตือนนายกฯเร่งเข็นผลงานเอาใจประชาชน ชุมพล เผยเตรียมร่างแก้รธน.เรียบร้อย เพื่อไทย โวต่อสายคุยบิ๊กพรรคร่วมแล้ว ยังยึดดันรธน.40 กลับมาใช้ อ๋อย ชี้ปชป.ได้ทีขย่มเพื่อน สับไม่จริงใจเมินข้อเสนอคณะกรรมการสมานฉันท์ ศาลฯสั่งห้ามซื้อขายที่ดินรัชดา สมชาย ทวง 5 หมื่นล.ก่อน ทักษิณ เล่นการเมือง

* นายกฯยันพรรคร่วมไม่บ่น

เมื่อวันที่ 27 ม.ค. ที่อาคารัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนาไม่พอใจกับมติของพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญ และให้คอยจับตาการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ตนอ่านสัมภาษณ์ก็ไม่มีอะไร เพียงแต่บอกว่าเขาจะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป ส่วนเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นเรื่องอนาคตไม่มีปัญหาอะไร ผู้สื่อข่าวถามว่า การพูดลักษณะนี้เหมือนกับจะบอกว่าช่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจอาจจะ มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญทุกคนเป็นอิสระในการลงมติไม่มีอะไรต้องตื่นเต้น

ต่อข้อถามว่า ตลาดหุ้นตกลงมากเพราะคนวิตกว่าจะมีการยุบสภาหรือไม่นายกฯจะให้ความมั่นใจในเสถียรภาพรัฐบาลอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าหุ้นตกเพราะอะไร เพราะขณะนี้ทุกอย่างปกติ ตนนั่งประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) ซึ่งรัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาลก็มาร่วมประชุมและพูดคุยกันตามปกติ โดยทางพรรคชาติไทยพัฒนาก็ยังหารือกับทั้งนายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวและการกีฬา ส่วนทางพรรคภูมิใจไทยนั้น นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคมก็อยู่ในที่ประชุม ยังทำงานกันปกติทุกอย่างไม่มีปัญหาอะไร

* ให้สุวิทย์เจ้าภาพนัดคุย

เมื่อถามว่า นอกจากปัจจัยของพรรคร่วมรัฐบาลยังมีปัญหาอื่น เช่น ข่าวลือการปฏิวัติรัฐบาลจะดูแลอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องนั้นเป็นเรื่องต้องบริหารสถานการณ์ ซึ่งยืนยันว่าแนวทางที่ทำอยู่นั้นมั่นใจว่าจะดูแลสถานการณ์ให้เรียบร้อยได้ ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าขณะนี้ยังอยู่ในภาวะที่จะทำให้การเมืองไม่เป็นอุปสรรคกับการบริหารประเทศได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยืนยันสมาธิดีทุกอย่าง ส่วนเรื่องการจะนัดหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลด้วยตัวเองหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็ตั้งใจนัดหมายกันอยู่คงต้องมีการประสานงานเพราะทางนายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคกิจสังคมที่รับจะเป็นเจ้าภาพ

เมื่อถามว่า นายกฯจะชี้แจงกับพรรคร่วมรัฐบาลอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนก็บอกตามเหตุผลและตามที่เคยคุยเอา ไว้ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งหมด เมื่อถามย้ำว่า พรรคร่วมรัฐบาลยังย้ำว่านายกรัฐมนตรีได้สัญญาในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญกันเอาไว้แต่นายกฯไม่ปฏิบัติตามสัญญา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนก็ยินดีมาพูดคุยกันทบทวนคำพูดทุกอย่าง ลำดับเหตุการณ์ทั้งหมดจะได้เห็นว่าความจริงแล้วทุกอย่างคือ เดินไปตามอย่างที่พูดคุยกันเอาไว้ แต่ช่วงหลังที่เขาไปตัดสินใจเดินกันเองก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

* เทพเทือกรู้มีเสียงยุไล่ส่ง

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้ สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์มีมติไม่ร่วมเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ตนไม่มีความอัดอั้นใจ ตนมีความสุขกับการทำหน้าที่ เวลาเราได้ยินพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ต้องรับนำมาใส่ใจไว้ตลอดคือ ทุกคนต้องปฏิบัติหน้าที่ของตัวเอง เพื่อชาติ บ้านเมือง ตามขอบเขตความรับผิดชอบให้เต็มที่ ซึ่งตนรับใส่เกล้าฯไว้ตลอดเวลา และยึดเป็นแนวทางในการดำรงชีวิตไปจนถึงการปฏิบัติงาน

เมื่อถามว่าในเมื่อทำหน้าที่ผู้จัดการรัฐบาลไม่เป็นผลสำเร็จอย่างนี้แล้วจะพิจารณาตัวเองอย่างไร นายสุเทพ กล่าวพร้อมหัวเราะ ว่า มีคนพยายามยั่วยุตนอย่างนี้อยู่เรื่อย แต่ตนคิดว่า ตั้งแต่ทำหน้าที่ผู้จัดการรัฐบาลมากว่า 1 ปี ถือว่าได้ทำงานประสบผลสำเร็จมาก แต่ถ้าพูดมากไปก็จะหาว่ายอตัวเอง แต่ที่ผ่านมาทำหน้าที่ดีที่สุด

ตนเป็นคนชักชวนพรรคร่วมให้มาแก้ปัญหาของประเทศ โดยยึดประโยชน์บ้านเมืองเป็นตัวตั้ง แต่เป็นเรื่องปกติที่ทำงานด้วยกัน ก็ต้องถ้อยทีถ้อยอาศัย ตนมีน้ำใจและความจริงใจให้พรรคร่วมมาโดยตลอด ซึ่งการแสดงความคิดเห็นของตนในที่ต่าง ๆได้ให้เกียรติและความสำคัญกับพรรคร่วมเช่นกัน

* ย้ำปชป.เห็นต่างไม่แปลก

ต่อข้อถามว่า ขณะนี้มีเสียงซุบซิบจาก ส.ส.ที่ใกล้ชิดนายสุเทพออกมาพูดว่าไม่คิดว่านายอภิสิทธิ์ จะกล้าหักกับเลขาธิ การพรรคขนาดนี้ นายสุเทพ กล่าวว่า ส.ส.ที่พูดอาจเป็น ส.ส.ใหม่ ตนเคยย้ำไปหลายครั้งแล้วว่าในพรรคประชาธิปัตย์มีวัฒนธรรม ประเพณีทางการเมืองไม่เหมือนพรรคอื่น เพราะทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นตามความคิดของแต่ละคนได้อย่างเสรี ถือเป็นเรื่องปกติ มีหลายเรื่องที่ตนเห็นตรงกับนายกฯ แต่หลายเรื่องนายกฯก็เห็นไม่เหมือนกับตน แต่พรรคจะเปิดให้แสดงความเห็นได้อย่างเต็มที่ จากนั้นจะให้สมาชิกส่วนใหญ่เป็นผู้ตัดสิน ซึ่งทั้งหมดนี้คือประชา ธิปไตย จึงไม่ใช่เรื่องว่าใครหักกับใคร

ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังจากที่พรรคประชาธิปัตย์มีมติออกมา ได้โทรศัพท์ประสานพรรคร่วมเพื่อทำความเข้าใจหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตั้งใจว่าหลังเปิดสมัยประชุมจะเอาคำตอบไปบอกกับพรรคร่วม แต่เทคโนโลยีสมัยนี้สูง ที่ประชุมยังอภิปรายไม่เสร็จสื่อก็ออกข่าวกันไปหมดแล้ว ตนคงไม่ต้องไปแล้ว เพราะเขาก็รู้กันหมดแล้วว่าตนอภิปรายอย่างไร นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์และนายกฯอภิปรายอย่างไรบ้าง ก็ชัดเจนหมดแล้ว เมื่อถามว่าแสดงว่าต่อไปนี้อะไรจะเกิดก็ปล่อยให้เกิดใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ใช่ อย่างนั้น ตนต้องทำหน้าที่รองนายกฯให้เต็มที่ รวมทั้งช่วยรักษาเสถียรภาพของรัฐบาลให้ดีที่สุด

* ยังขอบากหน้ารับเป็นกาวใจ

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเป็นกาวใจในการประสานกับพรรคร่วมอย่างไร เพื่อให้การทำงานกับพรรคร่วมไม่เกิดอุปสรรค นายสุเทพ กล่าวว่า ในพรรคประชาธิปัตย์ถ้าไม่ใช่ตน คงไม่มีคนอื่นที่จะสามารถไปคุยกับพรรคร่วมได้ เพราะไม่เคยคบค้าใกล้ชิดกันมาก่อน แต่ถึงอย่างไรตนก็คงต้องไปหาไปพูดกับพรรคร่วม มีเรื่องอะไรก็คุยกันให้เข้าใจ โดยอธิบายไปตามความเป็นจริง เพราะการพูดความจริงถือว่าดีที่สุด แต่ประเด็นเรื่องแก้รัฐธรรมนูญนี้เป็นแค่เรื่องหนึ่งที่ยกขึ้นมาพูดคุย และพรรคร่วมถือเป็นประเด็นสำคัญ แต่ไม่ได้มีผลได้-เสียที่กระทบกับประชาชนและบ้านเมือง ดังนั้นต้องตัดใจ ตนก็จะไปบอกว่าเรื่องนี้เป็นแค่ประเด็นเดียว แต่ยังมีอีกหลายเรื่องที่ยังทำงานร่วมกันได้

ต่อข้อถามว่า จะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยอย่างที่กลุ่มพันธมิตรฯออกมาระบุหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ยังมีเสียงครบอยู่ ใครบอกว่ารัฐบาลเป็นเสียงข้างน้อย ยืนยันว่าวันนี้เสียงยังครบ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

เมื่อถามว่าแต่นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว. มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ออกมาระบุว่าในการอภิปรายไม่ไว้วาง ใจจะปล่อยฟรีโหวตเหมือนกัน นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่านายชวรัตน์หมายความตามนั้นหรือไม่ อาจหมายความว่าเป็น ขั้นตอนของการยื่นร่างแก้ไขมากกว่า แต่ ถ้าเป็นเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้นยังไม่ได้ยิน

* น้าหยัดยึดจุดยืนส่วนรวม

นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงมติของพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญว่า คงไม่น่ามีปัญหาการทำงานกับพรรคร่วมรัฐบาล ตนคิดว่าพรรคร่วมรัฐบาลวิเคราะห์ออกว่าโอกาสที่จะดึงพรรคประชาธิปัตย์มาสนับสนุนแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก เขาจึงพูดชัดตั้งแต่ต้นว่าเรื่องร่วมรัฐบาลและเรื่องแก้รัฐธรรมนูญเป็นคนละส่วนกัน เชื่อว่าคนเป็นรัฐบาลในขณะนี้ ทุกพรรคเริ่มมองเห็นชัดเจนว่าในช่วงระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลเดินมาด้วยดีพอสมควร กรณีนี้จึงไม่น่ามีปัญหา

นายบัญญัติ กล่าวว่า ตรงกันข้ามถ้าเอาเรื่องแบบนี้มามีปัญหา ประชาชนก็จะรู้สึกว่าจะเอาประโยชน์ส่วนพรรคส่วนตัวมาเหนือประโยชน์ส่วนรวมได้อย่างไร ตนเชื่อว่าวันนี้คนที่เป็นรัฐบาลคงไม่มีความคิดเช่นนี้

ผู้สถามว่าแสดงว่าไม่มีโอกาส ยุบสภาใช่หรือไม่ นายบัญญัติ กล่าวว่า ไม่มี เหตุอะไรทั้งสิ้น ร่วมรัฐบาลขู่ว่าจะไม่ยกมือ ให้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจและการลงมติผ่านร่างกฎหมายสำคัญ ๆ ตนคิดว่าอย่าไป คิดไกลขนาดนั้น ส่วนบรรยากาศในพรรค ประชาธิปัตย์ยิ่งไม่มีปัญหาใหญ่ เพราะนี่ เป็นวัฒนธรรมองค์กรของพรรคที่เมื่อมีเรื่องสำคัญ ผู้บริหารจะให้ผู้มีส่วนได้เสียได้ร่วม ตัดสินใจ และเชื่อว่าทั้งนายกฯและนายสุเทพคงไม่มีปัญหาต่อกัน

* ภท.เปิดใจรอฟังคำแก้ตัว

นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาด ไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีการทบทวนมติพรรคที่จะเปิดให้ ส.ส.ฟรีโหวตในสภา จากการที่พรรคประชาธิปัตย์มีมติไม่แก้รัฐธรรมนูญว่า ยังไม่ได้คิด เรื่องการทบทวนมติ ไม่ได้มีการคุยอะไรกัน ไม่มีการขอให้ประชาธิปัตย์เปลี่ยนท่าที ตนได้ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ภายหลังการประชุมพรรคภูมิใจไทย เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ไปหมดแล้ว ส่วนกรณีที่นายสุเทพยอมรับว่าการตัดสินใจดังกล่าว ดูเหมือนเป็นการก้าวถอยหลังของรัฐบาลนั้น เป็นเรื่องที่นายสุเทพ พูดและที่ นายสุเทพมีความคิดที่จะนัดพรรคร่วมรัฐบาล เคลียร์ใจนั้น ก็เป็นเรื่องดีและควรจะทำ

นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาด ไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยมีจุดยืนเหมือนเดิมที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนที่มีกระแสข่าว ว่านายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ จะมาหาเคลียร์ใจกับพรรคภูมิใจไทยนั้น ทางพรรคไม่ได้ปิดกั้น เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของ ส.ส.ส่วนการทำงานของรัฐบาลก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ส่วนที่พรรคภูมิใจไทยจะให้ ส.ส.ฟรีโหวตในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยังไม่มีการหารือถึงขนาดนั้น เพราะต้องดูว่าฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อใด และยื่นอภิปรายรัฐมนตรีคนใดบ้าง เป็นเรื่องของอนาคต

* พผ.คาดไม่ถึงปชป.เฮี้ยว

นายไชยยศ จิรเมธากร เลขาธิการพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์มีมติไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญว่า พรรคเพื่อแผ่นดินเคารพในการตัดสินใจของทุกพรรค โดยเฉพาะกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นถือว่าเป็นสิทธิของสมาชิกรัฐสภาทุกคนและเป็นเรื่องของสภามิใช่พรรคใดพรรคหนึ่ง จึงไม่เกี่ยวข้องกับการอยู่ร่วมรัฐบาลของพรรคเพื่อแผ่นดินและพรรคประชาธิปัตย์ แต่ยอมรับว่ามติของพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่พรรคเพื่อแผ่นดินคาดไม่ถึง ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเลือกตัดสินใจในลักษณะนี้

นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงแนวโน้มที่พรรคภูมิใจไทยต้องทำงานร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ต่อไปทั้งที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่แก้รัฐธรรมนูญว่าไม่เป็นไร แค่เราต้องกล้ำกลืนดูแลกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงคมนาคมต่อไปเท่านั้น

* ตือเร่งมาร์คเข็นผลงาน

นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล กรรมการที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ระบุว่ารัฐบาลนับเวลายุบสภาว่า ตนพูดความจริง ขณะนี้รัฐบาลเหลือเวลาเพียงปีเศษ ๆ สิ่งที่นายอภิสิทธิ์รับปากกับประชาชนว่าจะแก้ปัญหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการกอบกู้เศรษฐกิจ ความสมานฉันท์ หรือกติกาต่าง ๆ ที่ไม่มีความเป็นธรรม ต้องเร่งทำให้เสร็จ เพื่อให้ทุกฝ่ายยอมรับ ซึ่งถือเป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่ เพราะสิ่งเหล่านี้รัฐบาลยังไม่ได้ดำเนินการทำเลย รีบทำเสียเพราะเวลามีน้อย ส่วนมติพรรคประชาธิปัตย์ไม่ร่วมสนับสนุนแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นเราไม่ได้แคร์ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ชอบเล่นตามกระแส แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชน

แหล่งข่าวจากวิปรัฐบาลเปิดเผยว่า บรรยากาศการประชุมเป็นไปอย่างเคร่งเครียด ช่วงหนึ่งหลังจากที่ นายวิทยา แก้วภราดัย ประธานวิปรัฐบาล ได้มอบหมายให้นาย ธนิตพล ไชยนันทน์ ส.ส.ตาก พรรคประชาธิปัตย์ เลขานุการวิปฯ ชี้แจงถึงมติของพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่สนับสนุนการแก้ ไขรัฐธรรมนูญ ให้วิปจากพรรครัฐบาลได้ระบายความในใจ นายภราดร ปริศนานันทกุล วิปจากพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวตบท้ายว่า พวกตนไม่คาดหวังไว้อยู่แล้วว่าพรรคประชาธิปัตย์จะร่วมลงชื่อสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่พวกตนอยากให้พรรคประชาธิปัตย์มองถึงความรู้สึกของเพื่อน ๆ ในพรรคร่วมรัฐบาลบ้าง เพราะมติที่ออกมาทำลายความรู้สึก

* ของขึ้นร่อนจ.ม.ถล่มแหลก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเย็น นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล กรรมการที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายอภิสิทธิ์ เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ/เขียนด้วยมือแล้วอย่าลบด้วยเท้า โดยมีเนื้อหา 2 หน้ากระดาษ เล่าเหตุการณ์ที่ผ่านมาแยกออกเป็น 8 ข้อ สรุปว่า 1.ใน การตั้งรัฐบาลมีเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญรวม อยู่ด้วย 2.จากนั้นพรรคร่วมได้หารือกันที่ บ้านนายนิพนธ์ พร้อมพันธ์ ได้พูดถึงการ แก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งนายกฯก็เห็นด้วยถึงขั้นให้แต่ละพรรคสรุปประเด็นที่ต้องการจะแก้ไขเสนอมาภายใน 1 สัปดาห์ 3.จากนั้นได้ตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์จนนำสู่ข้อสรุป 4.ได้หารือกันที่บ้านพิษณุโลก เห็นว่าน่าจะทำประชามติ

5.ในการพบกันของพรรคร่วมเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 52 นายสุเทพระบุว่าน่าจะนำบางประเด็นของคณะกรรมการสมานฉันท์มาพิจารณา แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าใด ๆ แต่เราก็เข้าใจว่าพรรคประชาธิปัตย์ต้อง รอประชามติของพรรคก่อน 6.นายกฯไม่ พยายามทำให้บรรลุตามเป้าหมายเรื่องแก้ไข รัฐธรรมนูญให้เป็นที่ยอมรับ และยุบสภา เมื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ กลับทำตัวเอง เป็นปัญหา แทนที่จะช่วยกันผลักดันกลับ กลายเป็นอุปสรรคที่สร้างปัญหาเสียเองเวลาของรัฐบาลก็เหลือน้อย จึงเป็นเสมือน สัญญาณบอกให้รัฐบาลรู้ว่าเรากำลังเริ่มต้นนับถอยหลัง

* ซัดเขียนด้วยมือลบด้วยเท้า

7. การที่คนของพรรคประชาธิปัตย์พูดว่าการยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ เป็นการยื่นเพื่อประโยชน์ของนายบรรหาร ศิลปอาชา นายเนวิน ชิดชอบ หรือใครบางคน ถือเป็นคำพูดที่หมิ่นน้ำใจและดูถูก ดูแคลนกันเกินไป ถามว่าหากแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 มาตรานี้สำเร็จ นายบรรหารและนายเนวิน หรือใครบางคนจะได้อะไรขึ้นมาบ้าง การกระทำเช่นนี้จึงยากที่ตนจะยอมรับได้

8. จริงอยู่ที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็น เรื่องของสภาและนักการเมืองไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล แต่เมื่อเราเคยเห็นตรงกัน จึงต้องตอบให้ได้ว่าอะไรที่ทำให้เราคิดต่างกัน ตนเคารพการตัดสินใจของพรรคประชาธิปัตย์ เพียงแต่อย่าเห็นว่าสิ่งที่คนอื่นทำเลวทั้งหมดใช้ไม่ได้ทั้งหมด แต่ถ้าเป็นตัวเองทำแม้จะเป็นเรื่องเดียวกันกลับใช้ได้ทั้งหมด ทำดีทั้งหมด เราเป็นนักการเมืองอาสาประชาชนเพื่อทำงานการเมือง หวังเปลี่ยนแปลงการเมืองให้ดีขึ้น แต่ทั้งหมดจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากเรา เขียนด้วยมือแล้วลบด้วยเท้า เช่นวันนี้ โดยระบุอีกว่า จากนี้พรรคร่วมจะรวบรวมรายชื่อที่มีมากพอเพื่อเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อรัฐสภาไปก่อน โดยจะไม่รอมติของพรรคประชาธิปัตย์

* ชุมพลเผยได้ร่างแก้รธน.

นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า เวลานี้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เตรียมจะยื่นญัตติสู่สภาผู้แทนราษฎรนั้น ฉบับต้นร่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมี 2 ประเด็นตามที่เคยแถลงข่าว และไม่มีการสอดไส้ แก้ไขเปลี่ยนแปลงอะไรเพิ่มเติมเด็ดขาด จากนี้ไปก็จะเป็นขั้นตอนที่จะให้สมาชิกตรวจสอบเพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขให้สมบูรณ์ที่สุด ห้วงระยะเวลาตรงนี้ อาจกินเวลาประมาณ 1-2 อาทิตย์ ก็น่าจะเรียบร้อยและยื่นญัตติซึ่งเป็นขั้นตอนแรกของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนขั้นตอนที่ 2 ใน การอภิปรายก็ต้องไปฟังว่าสมาชิกมีความเห็นอย่างไร จากนั้นจึงจะสู่ขั้นตอนที่ 3 ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้าย

นายชุมพล ยังกล่าวว่า ส่วนความเห็นของกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ที่มีมติว่าไม่ร่วมลงชื่อยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยนั้น ตนคิดว่าไม่มีผลกระทบอะไรกับการร่วมรัฐบาล ถือเป็นเรื่องของสภาที่ต้องแยกแยะออกจากการทำงานในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ตนยังเชื่อว่าโลกนี้มันกลมมีทั้งฝั่งมืดและสว่าง พอได้ฟังอภิปรายแล้วอาจจะได้เห็นโลกในซีกที่สว่าง สมาชิกที่ฟังจากที่ไม่เห็นด้วยก็อาจจะเห็นด้วย หรือพวกที่เห็นด้วยก็อาจจะไม่เห็นด้วยก็ได้ ส่วนการยื่นญัตติก็ทางพรรคฯยืนยันว่าเราพร้อมเสมอที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญจุดยืนไม่เคยเปลี่ยน ไม่ว่าผลออกมาจะผ่านหรือไม่ผ่านสภา โดยถ้าไม่ผ่านเราก็ทำกันใหม่

* สีเหลืองเชียร์มาร์คเจ๋ง

นายสำราญ รอดเพชร โฆษกพรรคการเมืองใหม่ กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าพรรคการเมืองใหม่ชื่นชมนายกฯและพรรคประชาธิปัตย์ที่มีเสียงส่วนใหญ่ไม่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และมีจุดยืนชัดเจนไม่ร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญกับพรรคร่วมรัฐบาล อาจจะส่งผลทำให้ทำงานกับพรรคร่วมรัฐบาลมีความยากลำบากขึ้น แต่ขอให้พรรคประชาธิปัตย์แยกเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญกับการบริหารบ้านเมืองออกจากกันจะทำให้ลดแรงกดดันของพรรคร่วมไปได้ แต่หลังจากนี้อาจมีแรงกระเพื่อมทางการเมือง และอาจทำให้รัฐบาลทำงานยากบ้าง แต่สุดท้ายนายกฯและพรรคประชาธิปัตย์จะได้รับแรงสนับสนุนจากประชาชน

นาำราญ กล ่าวต่อว่า ตามธรรม ชาติของพรรคการเมืองไทยก็ต้องเอาผลประโยชน์ไว้ก่อนเชื่อว่าการอภิปรายไม่ไว้ วางใจไม่มีอะไรน่ากลัว ทั้งนี้ รัฐบาลยังคงเดินหน้าทำงานต่อไปได้ตราบใดที่พรรคร่วมรัฐบาลไม่หันหน้าไปจับมือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และพรรคเพื่อไทย หากพรรคร่วมรัฐบาลไปจับมือกับ พ.ต.ท. ทักษิณ อย่างแท้จริง ตรงนั้นจะเป็นจุดที่อันตรายที่สุดของรัฐบาลประชาธิปัตย์ เพราะขณะนี้ก็น่าเชื่อว่าพรรคร่วมก็น่าจะมีการแตะมือกับพรรคเพื่อไทยและ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่บ้างแล้ว

* ให้จับตาอัปเปหิสุเทพ

ที่พรรคการเมืองใหม่ ถนนพระสุเมรุ ย่านสะพานวันชาติ นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ กล่าวว่า กรณีแก้ รธน. ต้องขอยกนิ้วให้พรรคประชาธิปัตย์เชื่อว่าโอกาสที่ปีกคนละฝั่งกับนายสุเทพ จะใช้สถานการณ์จัดระเบียบพรรคประชาธิปัตย์ เชื่อจะมีโอกาสสูงมาก อาจจะมีการลดบทบาท ในรูปตัวคณะบุคคลมากกว่าตัวบุคคล อาจจะ ใช้รูปแบบกลุ่มวิปพรรค มากกว่านายสุเทพคนเดียว ดังนั้นเชื่อจะมีการเปลี่ยนแปลง พอสมควร จะไม่มีการกระเตงนายสุเทพใน ลักษณะหอบฉันทามติของพรรคไปคุยกับพรรคร่วม ดังนั้นจึงต้องจับตาสถานการณ์จะแตกหักไปถึงขั้นยุบหรือแตกแยกต้องจับตา

นายสุริยะใส ยังกล่าวในเวทีสัมมนาเวทีประชาชนกำหนด (People Forum) หัว ข้อ รัฐบาลพลัดถิ่นกับอนาคตทักษิณ ชินวัตร ตอนหนึ่งว่า องค์ประกอบในการตั้ง รัฐบาลพลัดถิ่นไม่ได้ทำกันง่าย ๆ จะต้องเป็น สถานการณ์พิเศษนั้น ๆ ส่วนใหญ่เป็นสถานการณ์สงคราม จากประเทศที่แพ้สงคราม ถูกศัตรูมายึดอำนาจ แต่กรณีรัฐบาลไทยยังมี เหตุการณ์ปกติ เชื่อว่าหาก พ.ต.ท.ทักษิณกล้า ตั้งขึ้นมา จะเข้าข่ายกบฏในราชอาณาจักร

* จะจีบพท.ร่วมต้องยึดรธน.40

นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์มีมติไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญใน 2 ประเด็นตามความต้องการของพรรคร่วมรัฐบาลว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากพรรคฝ่ายค้าน แต่มาจากพรรคประชาธิปัตย์ที่ทำให้ปัญหาเกิดขึ้น หากพรรคร่วมรัฐบาลจะมาพูดคุยกับพรรคเพื่อไทยในประเด็นนี้ต้องใช้วิธีพิจารณาตามแนวทางของพรรคเพื่อไทย โดยนำรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 มาพิจารณา หากในช่วงเวลานั้นไม่มีการเสนอญัตตินำรัฐธรรมนูญปี 2540 เข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา ก็สามารถนำร่างของ คปพร.มาพิจารณาแทนได้ต้องถามนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภาว่าจะพิจารณาอย่างไร

เมื่อถามว่า จะมีเงื่อนไขแลกเสียงสนับสนุนกันระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคร่วมรัฐบาลในการแก้ไขรัฐธรรมนูญกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯและนายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ต้องแยกให้ออกระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนกรณีที่พรรคภูมิใจไทยแก้เผ็ดพรรค ประชาธิปัตย์ด้วยการปล่อย ส.ส.ฟรีโหวตในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น นายวิทยา กล่าวว่า เป็นสิทธิ แต่เขาอาจจะหลอกล่อเราก็ได้

* โวระดับบิ๊กต่อสายถึงกัน

ขณะที่นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส. ลพบุรี และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ บอกกับตนว่าสาเหตุที่นายอภิสิทธิ์ ใช้เสียงของที่ประชุมส.ส.ประชาธิปัตย์เป็นตัวชี้ขาดในการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น เพราะต้องการรักษาหน้าของพรรคร่วมรัฐบาลจึงขอเป็นมติของ ส.ส.แทน วันนี้เห็นได้ชัดว่านายอภิสิทธิ์ ไม่ได้เกรงใจ พรรคร่วมรัฐบาลเลย

นายสุชาติ ยังกล่าวว่า ทราบว่าผู้ใหญ่ของพรรคเพื่อไทยได้ดำเนินการพูดคุยกับผู้ใหญ่ของพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ในเรื่องดังกล่าว ซึ่งเบื้องต้นทราบว่าทุกคนมองเห็นตรงกันว่ารัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 เป็นรัฐธรรมนูญเพื่อประเทศและราชบังลังก์อย่างแท้จริง จึงขอฝากเตือนไปยังพรรคประชาธิปัตย์ ระวังพรรคร่วมรัฐบาลจะไม่ถนอมน้ำใจพรรคประชาธิปัตย์เหมือนอย่างที่เคยทำกับเขามา โดยการลงมติสนับสนุนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทยแทน

* อ๋อยชี้ปชป.แต้มต่อขี่เพื่อน

นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ได้ส่งบทความแสดงความเห็นต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้กับผู้สื่อข่าวผ่านทางอีเมล โดยมีเนื้อหาว่าที่พรรคประชาธิปัตย์มีมติไม่แก้รัฐธรรมนูญ แสดงให้เห็นธาตุแท้ว่าไม่ต้องการแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยแต่อย่างใดทั้งสิ้น นอกจากนั้นยังแสดงให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์กับพันธมิตรฯและพรรคการเมืองใหม่ มีจุดยืนทางการเมืองอย่างเดียวกัน และยังทำให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่สนใจต่อคณะกรรมการสมานฉันท์ได้มีข้อเสนอระยะสั้นให้แก้รัฐธรรมนูญ 6 ประเด็น แล้วยุบสภาให้มีการเลือกตั้งใหม่เพื่อให้ได้รัฐบาลที่เป็นที่ยอมรับ พร้อมทั้งมีข้อเสนอระยะยาวให้แก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับต่อไปด้วย

นายจาตุรนต์ ยังระบุผ่านบทความด้วยว่า พรรคประชาธิปัตย์คงประเมินแล้วว่า ถือแต้มต่อพรรคร่วมรัฐบาลคงไม่อยากให้ยุบสภาเร็วนักเพราะยังต้องการอยู่ในอำนาจต่อไป นอกจากนั้นก็รู้ไต๋พรรคร่วมรัฐบาลทั้งหลายว่าย่อมเสียดายกระทรวงใหญ่ที่พวกเขาได้มาโดยเงื่อนไขพิเศษ หากมีการเลือกตั้งใหม่ย่อมไม่ง่ายที่จะได้กระทรวงสำคัญ ๆเช่นนี้อีก ประชาธิปัตย์จึงเลือกที่จะดำรง ความได้เปรียบในการเลือกตั้งเหนือพรรคเล็กต่อไป ด้วยการไม่แก้รัฐธรรมนูญตามข้อเสนอของพรรคร่วมรัฐบาล

* ศาลสั่งห้ามซื้อขายที่ดินรัชดา

ที่ห้องพิจารณาคดี 412 ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำสั่งคดี ที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ยื่นคำร้องคุ้มครองชั่วคราวขอให้ศาลสั่งห้ามคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จำหน่าย จ่าย โอน ที่ดินรัชดาภิเษกจำนวน 4 แปลงจำนวน 33 ไร่เศษ มูลค่า 772 ล้านบาท หลังจากที่มีการตัดสินคดีไปแล้วนั้น อย่างไรก็ตามคุณหญิงพจมาน ได้ยื่นฟ้องแย้งขอให้ศาลมีคำสั่งให้กองทุนฟื้นฟูฯ คืนเงินค่าซื้อขายที่ดินและค่าเสียหายรวม 800 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี

ศาลพิเคราะห์คำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว และคำคัดค้านของจำเลยในชั้นไต่สวนแล้วเห็นว่า สภาพบังคับตามคำขอท้ายของ โจทก์ มีเหตุผลและความจำเป็นเพียงพอ ที่จะนำวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษามาใช้บังคับได้ตามคำร้องโจทก์ จึงมีคำสั่งห้ามไม่ให้จำเลย ขาย จำหน่าย จดทะเบียนโอนหรือทำนิติกรรมใดในที่ดินโฉนดเลขที่ 2298, 2299, 2300 และ 2301 แขวงและเขตห้วยขวาง กทม. ไว้ชั่วคราว

* สั่งโจทก์ไม่ต้องวางประกัน

ส่วนที่จำเลยคัดค้านว่าหากศาลมี คำสั่งให้คุ้มครองชั่วคราวแล้วจะเป็นการ ขัดขวางการใช้ที่ดินของจำเลย ทำให้จำเลยเสียประโยชน์ จึงขอให้ศาลมีคำสั่งให้โจทก์นำเงินค่าที่ดิน 772 ล้านบาท มาวางเป็นเงินประกันต่อศาลนั้น เห็นว่าการที่ศาล จะมีคำสั่งให้ผู้ยื่นคำขอคุ้มครองชั่วคราววางประกันค่าเสียหาย ต้องเป็นเรื่องที่เห็นว่าอาจเกิดความเสียหายภายหลังที่ศาลมีคำสั่งอนุญาตคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาเท่านั้น และไม่ปรากฏรายละเอียดว่าหากศาลสั่งคุ้มครองชั่วคราวแล้วจำเลยจะเสียหายอย่างไรบ้าง จึงมีคำสั่งให้คุ้มครองชั่วคราวจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็น อย่างอื่น

ทั้งนี้การพิจารณาคดีที่กองทุนฟื้นฟูฯ ยื่นฟ้องเรียกคืนที่ดินจากคุณหญิงพจมาน ศาลแพ่งนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรกวันที่ 2 มิ.ย.นี้ เวลา 09.00 น.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook