ป้าเช็งเลิกขายน้ำมหาบำบัด ประชดทำน้ำหมักราดส้วม

ป้าเช็งพบ ตร. ยันเลิกขายแล้ว แต่ไม่หยุดทำน้ำหมัก อ้างลดโลกร้อน ด้าน สธ. แถลงผลตรวจพบแบคทีเรียอื้อ ทำท้องเสีย-แผลเน่า-ตาบอด

ความคืบหน้าคดีของน้ำมหาบำบัด โดย “ป้าเช็ง” เจ้าของสูตรนั้น ล่าสุดป้าเช็งเดินทางเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหากับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว แจงหยุดขาย หยุดแจกแล้ว แต่ไม่หยุดทำน้ำหมักขยะ-ราดส้วม เผยช่วยลดโลกร้อน พร้อมยืนยันจ่ายค่าชดเชยผู้เสียหาย ด้าน รมว.สธ. แถลงผลตรวจจากห้องแล็ปพบเชื้อแบคทีเรียในน้ำมหาบำบัดอื้อ กินเข้าไปจะมีอาการท้องร่วงภายใน 2 วัน ใช้ราดแผลจะทำให้แผลเน่า ด้านน้ำเจียระไนเพชร อันตรายสุดๆ พบแบคทีเรียและกรดเกินค่ามาตรฐาน ใช้หยอดตาอันตรายถึงขั้นตาบอด เรื่องนี้หนังสือพิพม์ฉบับต่างๆ ยังเกาะติดความเคลื่อนไหวมารายงานเป็นข่าวใหญ่หน้า 1

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ พาดหัวข่าวว่า “ป้าเช็งพบ ตร. ยืนยันเลิกทำน้ำมหาบำบัดฉาว สั่งฟันเคเบิลทีวี” อ่านต่อ

หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ พาดหัวข่าวว่า “ป้าเช็งรับทราบข้อหา หยุดมหาบำบัด สธ.ชี้พบแบคทีเรียเจือปน กินเข้าไปคลื่นไส้-ท้องเสีย สคบ.เร่งล้อมคอกโฆษณา” อ่านต่อ

หนังสือพิมพ์ข่าวสด พาดหัวข่าวว่า  “ย้ำน้ำบำบัดเชื้อโรคอื้อ ป้าเช็งประชดราดส้วม” อ่านต่อ

หนังสือพิมพ์คมชัดลึก พาดหัวข่าวว่า “ป้าเช็งลั่นปรับน้ำบำบัดทำปุ๋ยชีวภาพ จุรินทร์สั่งคุมเข้มผวาป้าเช็ง2” อ่านต่อ

เมื่อวันที่ 27 ม.ค. ที่ บก.ปคบ. น.ส.ศรวรรณ ศิริสุนทรินทร์ หรือ “ป้าเช็ง” อายุ 72 ปี เจ้าของธุรกิจ “น้ำมหาบำบัด” รักษาครอบจักรวาล เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.จตุรงค์ ภุมรินทร์ ผบก.ปคบ.เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีก 4  ข้อหา โดยน.ส.ศรวรรณ เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนหยุดขายและหยุดโฆษณาน้ำมหาบำบัดไปแล้ว  แต่จะเดินหน้าทำน้ำสูตรการหมักขยะ เพื่อช่วยรณรงค์ลดโลกร้อน  และช่วยให้ชาวบ้านได้นำไปใช้กับการทำเกษตร กำจัดหนู และราดส้วมได้ สำหรับที่มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับตนตามจังหวัดต่างๆ นั้นยินดีที่จะรับผิดชอบ หากเป็นผู้เสียหายจริงไม่ใช่การจัดฉากกลั่นแกล้ง พร้อมยืนยันตนไม่หลบหนีไปไหนอย่างแน่นอน
    
ขณะเดียวกันที่กระทรวงสาธารณสุข นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบน้ำมหาบำบัดและน้ำเจียระไนเพชรของป้าเช็งว่า จากผลการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบว่า น้ำมหาบำบัด มีค่าความเป็นกรดสูงมาก ไม่พบยาทั้งแผนปัจจุบันและยาสมุนไพรที่มีผลต่อการรักษา แต่พบแบคทีเรียที่เป็นอันตราย คือ คลอสทรีเดียม เพอร์ฟรินเจนส์ (Clostridium perfringens) ถ้ารับประทานจะส่งผลให้เกิดอาหารคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย คล้ายกับอาหารเป็นพิษภายใน 48 ชั่วโมง หากมีบาดแผลทำให้แผลเน่า
ส่วนน้ำเจียระไนเพชร พบว่า มีค่าความเป็นกรดสูงเกินที่ใช้หยอดตาได้แลเกินกว่าที่กฎหมายอนุญาต และพบแบคทีเรียที่ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ พบเชื้อราปนเปื้อน ซึ่งตามเกณฑ์มาตรฐานของยาหยอดตา ต้องปลอดเชื้อโรค แบคทีเรีย และเชื้อรา 100%  หากนำไปใช้หยอดตาอาจจะมีผลกระทบต่อกระจกตา ถ้ามีแผลเดิมอยู่ก่อนแล้ว อาจติดเชื้อรุนแรงและมีปัญหากับตาระดับรุนแรงจนอาจตาบอดได้

ขอขอบคุณเนื้อหาบางส่วนจาก ไทยรัฐ เดลินิวส์ คมชัดลึก ข่าวสด